ฉันเคยทำงานในสายค้าปลีก และรู้ว่ายอดขายเสื้อผ้าเด็กนั้นเป็นกลุ่มที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งในช่วง 3-4 ปีหลัง แบรนด์เนมดังๆ หันมาผลิตเสื้อผ้าเด็กกันเยอะ ก็เพราะว่ามันขายได้ไงค่ะ ตัวอย่างเช่น กระเป๋ากุชชี่เด็ก 20,000 บาท ขายหมด ผ้าพันคอเด็ก Burberry ขายเกลี้ยง รองเท้า Paul Smith เด็กก็ขายดี และยังมีแบรนด์อื่นๆอีกมากมายที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีพ่อแม่คนใดบ้าซื้อให้กับลูก แต่มันขายได้ และมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆในยุคนี้ค่ะ
ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะฐานะทางสังคมของครอบครัวคนเอเชียดีขึ้น ประกอบกับ One-Child Policy หรือลูกคนเดียว ทำให้เด็กที่เกิดในครอบครัวเหล่านั้นกลายเป็น Little Emperor หรือลูกเทวดา ลูกฮ่องเต้ของพ่อแม่ไปโดยไม่รู้ตัว
ยิ่งสังคมในวันนี้ให้ความสำคัญกับวัตถุมากขึ้น โลกโซเซียลวัดกันที่แบรนด์และประสบการณ์หรู จึงทำให้นอกจากพ่อและแม่แล้ว เพื่อนฝูงรอบข้างก็มักหาซื้อของแพงๆแจกลูกหลานกัน ทำให้แบนรด์เนมดังจับช่องทางการขายนี้ได้ และผลิตสินค้ามายั่วใจพ่อแม่ขึ้นเรื่อยๆ
และเมื่อฉันไปฮ่องกงครั้งล่าสุด ฉันเดินตามหา Hatchimals ให้หลานสาว จึงต้องเดินผ่านโซนเด็กของ Harbour City ศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดของฮ่องกงที่ตอนนี้ร้านรอบข้างกลายร่างเป็นแบรนด์เนมไปหมดแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Armarni Junior, Fendi, Gucci, Dior, Ferrari Junior, Ralph Lauren, Burberry, Dolce & Gabbana, Stella McCartney, Roberto Cavalli, Bapekids, Tommy Hilfiger และ Phillipp Plein
เมืองไทยว่ามีเยอะ สิงคโปร์ก็มีไม่น้อย แต่มาที่ฮ่องกงนี่ บอกเลยค่ะ สุดยอดของ Little Emperor จริงๆตามนิสัยหน้าใหญ่ใจใหญ่ของชาวจีน
ถามฉันว่ารู้สึกยังไง? ฉันว่ามันไม่ผิดหรอกค่ะ ถ้าคุณมีฐานะจะซื้อได้ แต่มันสะท้อนใจนิดนึงว่า สินค้าแบรนด์ เนมเหล่านี้ผู้ใช้กลับไม่ได้รู้สึกรู้สมอะไรเลย เด็ก 3-4 ขวบจะรู้ไหมอะไรคือ Gucci อะไรคือ Dior ผู้ให้ต่างหาก ที่ชอบใจ แต่ยังไงก็นานาจิตตังค่ะ และในฐานะคนดูอย่างฉัน มันก็สร้างสีสันให้กับโลกแห่งวัตถุใบนี้ได้เหมือนกัน
ป.ล. หลายแบรนด์ดังกำลังลดราคาเลยค่ะ คุณพ่อคุณแม่กระเป๋าหนักอย่าพลาดถ้าไปฮ่องกง
9 Dec 2016
0 Comments
“ลูกเทวดา” กับ “แบรนด์หรู” – ฮ่องกง
ฉันเคยทำงานในสายค้าปลีก และรู้ว่ายอดขายเสื้อผ้าเด็กนั้นเป็นกลุ่มที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งในช่วง 3-4 ปีหลัง แบรนด์เนมดังๆ หันมาผลิตเสื้อผ้าเด็กกันเยอะ ก็เพราะว่ามันขายได้ไงค่ะ ตัวอย่างเช่น กระเป๋ากุชชี่เด็ก 20,000 บาท ขายหมด ผ้าพันคอเด็ก Burberry ขายเกลี้ยง รองเท้า Paul Smith เด็กก็ขายดี และยังมีแบรนด์อื่นๆอีกมากมายที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีพ่อแม่คนใดบ้าซื้อให้กับลูก แต่มันขายได้ และมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆในยุคนี้ค่ะ
ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะฐานะทางสังคมของครอบครัวคนเอเชียดีขึ้น ประกอบกับ One-Child Policy หรือลูกคนเดียว ทำให้เด็กที่เกิดในครอบครัวเหล่านั้นกลายเป็น Little Emperor หรือลูกเทวดา ลูกฮ่องเต้ของพ่อแม่ไปโดยไม่รู้ตัว
ยิ่งสังคมในวันนี้ให้ความสำคัญกับวัตถุมากขึ้น โลกโซเซียลวัดกันที่แบรนด์และประสบการณ์หรู จึงทำให้นอกจากพ่อและแม่แล้ว เพื่อนฝูงรอบข้างก็มักหาซื้อของแพงๆแจกลูกหลานกัน ทำให้แบนรด์เนมดังจับช่องทางการขายนี้ได้ และผลิตสินค้ามายั่วใจพ่อแม่ขึ้นเรื่อยๆ
และเมื่อฉันไปฮ่องกงครั้งล่าสุด ฉันเดินตามหา Hatchimals ให้หลานสาว จึงต้องเดินผ่านโซนเด็กของ Harbour City ศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดของฮ่องกงที่ตอนนี้ร้านรอบข้างกลายร่างเป็นแบรนด์เนมไปหมดแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Armarni Junior, Fendi, Gucci, Dior, Ferrari Junior, Ralph Lauren, Burberry, Dolce & Gabbana, Stella McCartney, Roberto Cavalli, Bapekids, Tommy Hilfiger และ Phillipp Plein
เมืองไทยว่ามีเยอะ สิงคโปร์ก็มีไม่น้อย แต่มาที่ฮ่องกงนี่ บอกเลยค่ะ สุดยอดของ Little Emperor จริงๆตามนิสัยหน้าใหญ่ใจใหญ่ของชาวจีน
ถามฉันว่ารู้สึกยังไง? ฉันว่ามันไม่ผิดหรอกค่ะ ถ้าคุณมีฐานะจะซื้อได้ แต่มันสะท้อนใจนิดนึงว่า สินค้าแบรนด์ เนมเหล่านี้ผู้ใช้กลับไม่ได้รู้สึกรู้สมอะไรเลย เด็ก 3-4 ขวบจะรู้ไหมอะไรคือ Gucci อะไรคือ Dior ผู้ให้ต่างหาก ที่ชอบใจ แต่ยังไงก็นานาจิตตังค่ะ และในฐานะคนดูอย่างฉัน มันก็สร้างสีสันให้กับโลกแห่งวัตถุใบนี้ได้เหมือนกัน
ป.ล. หลายแบรนด์ดังกำลังลดราคาเลยค่ะ คุณพ่อคุณแม่กระเป๋าหนักอย่าพลาดถ้าไปฮ่องกง
Related Posts: