ภาพถ่ายยอดเจดีย์นับร้อย ท่ามกลางม่านหมอกยามเช้า และแสงตะวันของ “โบโร บุดัวร์” ศาสนาสถานที่เคยหายสาบสูญไปจากโลกใบนี้ เป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ของพิภพที่เราตั้งใจดั้งด้นไปชมสักครั้งในชั่วชีวิตนี้ค่ะ
ก่อนจะบอกเล่าเรื่องราวของการเดินทางในทริปนี้ ฉันขอเรียกศาสนสถานแห่งนี้ในสำเนียงชาวอินโดนีเซียว่า “โบโร บุดัวร์” ไม่ใช่ “บุโร บุโธ” อย่างที่เราคุ้นหูกัน
โบโร บุดัวร์ เป็นศาสนสถานของพุทธศาสนา ตั้งตระหง่านอยู่บนที่ราบสูง โอบล้อมด้วยแนวภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น
โบโร บุดัวร์ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 1,200 ปีที่แล้ว ตามความเชื่อของศาสนาพุทธ มีความสูง 42 เมตร หรือประมาณตึก 30 ชั้น ความกว้างของฐาน แต่ละด้านยาวประมาณหนึ่งกิโลเมตร จึงเป็นศาสนาสถานขนาดมหึมา และใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 75 ปีค่ะ
โครงสร้างของโบโร บุดัวร์ ประกอบด้วยฐานสี่เหลี่ยมทั้งหมด 6 ชั้น สร้างลดหลั่นกันขึ้นไป
ตามแนวของฐานจะเป็นกำแพงสูง มีทางเดินระหว่างกลาง และภาพสลักเรื่องราวของพระพุทธเจ้าจากหินภูเขาไฟ
ด้านบนของกำแพง จะมีพระพุทธรูปประดับอยู่เป็นระยะ ทุกองค์หันหน้าออกด้านนอก เสมือนกำลังมองผู้คนที่ผ่านไปมา
ถัดจากฐานสี่เหลี่ยม ที่สร้างลดหลั่นกันทั้ง 6 ชั้น ก็จะเป็นฐานวงกลม ที่มีเจดีย์ประดับรายรอบจำนวน 72 เจดีย์ หากนับเจดีย์ใหญ่ตรงกลาง ก็จะกลายเป็น 73 เจดีย์ บวกตัวเลขรวมกันได้ 10 ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขมงคล
ภายในเจดีย์จะมีพระพุทธรูปประทับอยู่ แต่บางองค์ถูกขโมย หรือถูกทำลายจากภัยธรรมชาติ ปัจจุบันทางการเปิดให้ชมเพียง 2 เจดีย์ ที่มีพระพุทธรูปสมบูรณ์แบบ จึงกลายเป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยมค่ะ
ตามประวัติเล่ากันว่า … ภัยพิบัติจากภูเขาไฟระเบิด เถ้าถ่านที่ปกคลุม ประกอบกับความเชื่อทางศาสนาที่เปลี่ยนไป จากพุทธศาสานาไปสู่อิสลาม เป็นสองพันธนาการสำคัญ ที่ทำให้โบโร บุดัวร์ ถูกทิ้งให้สาบสูญไปหลายร้อยปี ก่อนที่ Sir Raffles Stamford บิดาของสิงคโปร์จะเป็นผู้ค้นพบเมื่อปี 1811-1816
Sunrise Tour หรือทัวร์ชมโบโร บุดัวร์ยามพระอาทิตย์ขึ้น เป็นทัวร์ที่นิยมกันมาก เราเดินทางออกจากโรงแรมตอนตีสี่ เพื่อจะมาให้ทันชมแสงแรกของวันที่จะขึ้นประมาณตีห้าครึ่งของทุกๆวัน
เราเดินทางมาชมกันในเช้าวันเสาร์ จึงมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่ถึงกับแน่นขนัด จนหาที่นั่งและมุมปลอดคนไม่ได้
เสน่ห์ของ Sunrise Tour อยู่ที่อารมณ์ของแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆแหวกผ่านม่านหมอก และตกกระทบลงสู่เจดีย์นับสิบ จากมืดมิด ไปสู่รุ่งอรุณ … โมงยามที่เปลี่ยนไป ทำให้เราได้ภาพโบโร บุดัวร์ในอารมณ์ที่ต่างกัน
ภาพตอน 5.50
ภาพตอน 6.30 ถ่ายจากทิศเหนือ
ภาพตอน 7.00 น.
หลังจากชมโบโร บุดัวร์กันจนอิ่มใจแล้ว เราก็เดินทางกันไปต่อที่ Prambanan หรือวัดพรามนันต์ ที่ตั้งอยู่ห่างกันประมาณ 1.30 ชั่วโมง การเดินทางระหว่างสองศาสนสถานีนี้ดูเหมือนจะไกล แต่จริงๆหากเราตั้งต้นที่ใจกลางเมืองยอรค์จัตการ์ต้า ก็จะเป็นกึ่งกลางพอดี
วัดพรามนันต์ สร้างความตื่นตะลึงให้กับเราเมื่อแรกเห็น คล้ายดึงกลับไปสู่มนต์ขลังของอังกอร์วัดของกัมพูชา
วัดพรามนันต์ เป็นวัดของศาสานาฮินดู ที่สร้างขึ้นเมื่อ 1,200 ปีที่แล้ว ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับ โบโร บุดัวร์
ความมหัศจรรย์ของวัดแห่งนี้ ไม่ได้อยู่เพียงแค่ขนาด แต่กลับเป็นความพยายาม ที่จะฟื้นชีวิต หลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ที่ทำลายวัดเสียจนเหลือแต่กองหิน
ภาพกองหินขนาดใหญ่ และของจริงที่ตั้งอยู่รายรอบ ทำให้เราแทบไม่เชื่อสายตาว่า ผู้เชี่ยวชาญจะฟื้นชีพวัดแห่งนี้กลับมาได้อย่างงดงามเช่นนี้ …
พระปรางค์แต่ละยอด เป็นที่ประทับของเทพเจ้าในศาสนาฮินดูแต่ละองค์ ปัจจุบันเปิดให้เข้าชม และสักการะได้ในบางพระปรางค์ค่ะ …
ในวันนี้ สองศาสนาสถานที่เคยสาบสูญ ก็ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตั้งแต่ปี 1991 และจะจารึกในหน้าประวัติศาสตร์อีกต่อไปนานแสนนาน
เกร็ดเล็กๆน้อยๆ
- ภัยธรรมชาติครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อปี 2006 แผ่นดินไหวปีในปีนั้น คร่าชีวิตชาวยอรค์จัตการ์ต้าไปกว่า 6,000 คน และสร้างความเสียหายให้กับวัดพรามนันต์บางส่วน เช่นเดียวกับเหตุการณ์ภูเขาไฟปะทุเมื่อปี 2010 ทำให้ต้องปิด และปรับปรุงโบโร บุดัวร์อยู่เกือบ 8 เดือนเต็ม
- ระหว่างทางลงโบโร บุดัวร์ จะมีพ่อค้าเข้ามาขายของที่ระลึกในราคาสุดโหด หากไม่ต้องการ ก็ให้ปฏิเสธ อย่างนุ่มนวลและรีบเดินหนีออกมา
- ศาสนาสถานทั้งสองตั้งอยู่กลางแจ้ง ไร้เงาไม้ใหญ่ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงช่วงกลางวันที่แดดร้อนจ้าค่ะ
- ทัวร์ชมพระอาทิตย์ขึ้นนี้ เราซื้อตรงจากโรงแรม Hyatt Regency ในราคาประมาณ 1,400,000 ริงกิต (3,800 บาทต่อคน) รวมเที่ยวโบโร บุดัวร์ วัดพรามนันต์ มื้อเที่ยง รถ และไกด์ส่วนตัว
การเดินทาง
โบโร บุดวร์ และวัดพรามนนต์ ตั้งอยู่กลางเกาะจาวา นักท่องเที่ยวมักแวะมาตั้งหลักกันที่เมืองยอรค์จัตการ์ต้า (Yogyakarta) หนึ่งคืน ก่อนจะเดินทางไปชมสองศาสนสถานในเช้าวันรุ่งขึ้น
เครื่องบินของ Garuda Airline และ Air Asia มีเส้นทางบินตรงจากจาการ์ต้ามาที่ยอรค์จัตการ์ต้า โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงบิน
ระยะทางจากสนามบินไปที่โรงแรมในเมือง ประมาณ 20-30 นาที แนะนำให้ใช้บริการรถรับส่งของโรงแรมซึ่งคิดราคาประมาณ 400-500 บาทต่อเที่ยว
(เวลาบินจากกรุงเทพฯมาจาการ์ต้า ประมาณ 4 ชั่วโมงค่ะ ควรแวะชมจาการ์ต้าสัก 2 วัน ก่อนเดินทางมาที่ยอรค์จัตการ์ต้า ติดตามอ่าน 72 Hours in Jakarta ได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ)
5 Sep 2014
0 Comments
วันใหม่ที่โบโร บุดัวร์
ภาพถ่ายยอดเจดีย์นับร้อย ท่ามกลางม่านหมอกยามเช้า และแสงตะวันของ “โบโร บุดัวร์” ศาสนาสถานที่เคยหายสาบสูญไปจากโลกใบนี้ เป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ของพิภพที่เราตั้งใจดั้งด้นไปชมสักครั้งในชั่วชีวิตนี้ค่ะ
ก่อนจะบอกเล่าเรื่องราวของการเดินทางในทริปนี้ ฉันขอเรียกศาสนสถานแห่งนี้ในสำเนียงชาวอินโดนีเซียว่า “โบโร บุดัวร์” ไม่ใช่ “บุโร บุโธ” อย่างที่เราคุ้นหูกัน
โบโร บุดัวร์ เป็นศาสนสถานของพุทธศาสนา ตั้งตระหง่านอยู่บนที่ราบสูง โอบล้อมด้วยแนวภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น
โบโร บุดัวร์ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 1,200 ปีที่แล้ว ตามความเชื่อของศาสนาพุทธ มีความสูง 42 เมตร หรือประมาณตึก 30 ชั้น ความกว้างของฐาน แต่ละด้านยาวประมาณหนึ่งกิโลเมตร จึงเป็นศาสนาสถานขนาดมหึมา และใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 75 ปีค่ะ
โครงสร้างของโบโร บุดัวร์ ประกอบด้วยฐานสี่เหลี่ยมทั้งหมด 6 ชั้น สร้างลดหลั่นกันขึ้นไป
ตามแนวของฐานจะเป็นกำแพงสูง มีทางเดินระหว่างกลาง และภาพสลักเรื่องราวของพระพุทธเจ้าจากหินภูเขาไฟ
ด้านบนของกำแพง จะมีพระพุทธรูปประดับอยู่เป็นระยะ ทุกองค์หันหน้าออกด้านนอก เสมือนกำลังมองผู้คนที่ผ่านไปมา
ถัดจากฐานสี่เหลี่ยม ที่สร้างลดหลั่นกันทั้ง 6 ชั้น ก็จะเป็นฐานวงกลม ที่มีเจดีย์ประดับรายรอบจำนวน 72 เจดีย์ หากนับเจดีย์ใหญ่ตรงกลาง ก็จะกลายเป็น 73 เจดีย์ บวกตัวเลขรวมกันได้ 10 ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขมงคล
ภายในเจดีย์จะมีพระพุทธรูปประทับอยู่ แต่บางองค์ถูกขโมย หรือถูกทำลายจากภัยธรรมชาติ ปัจจุบันทางการเปิดให้ชมเพียง 2 เจดีย์ ที่มีพระพุทธรูปสมบูรณ์แบบ จึงกลายเป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยมค่ะ
ตามประวัติเล่ากันว่า … ภัยพิบัติจากภูเขาไฟระเบิด เถ้าถ่านที่ปกคลุม ประกอบกับความเชื่อทางศาสนาที่เปลี่ยนไป จากพุทธศาสานาไปสู่อิสลาม เป็นสองพันธนาการสำคัญ ที่ทำให้โบโร บุดัวร์ ถูกทิ้งให้สาบสูญไปหลายร้อยปี ก่อนที่ Sir Raffles Stamford บิดาของสิงคโปร์จะเป็นผู้ค้นพบเมื่อปี 1811-1816
Sunrise Tour หรือทัวร์ชมโบโร บุดัวร์ยามพระอาทิตย์ขึ้น เป็นทัวร์ที่นิยมกันมาก เราเดินทางออกจากโรงแรมตอนตีสี่ เพื่อจะมาให้ทันชมแสงแรกของวันที่จะขึ้นประมาณตีห้าครึ่งของทุกๆวัน
เราเดินทางมาชมกันในเช้าวันเสาร์ จึงมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่ถึงกับแน่นขนัด จนหาที่นั่งและมุมปลอดคนไม่ได้
เสน่ห์ของ Sunrise Tour อยู่ที่อารมณ์ของแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆแหวกผ่านม่านหมอก และตกกระทบลงสู่เจดีย์นับสิบ จากมืดมิด ไปสู่รุ่งอรุณ … โมงยามที่เปลี่ยนไป ทำให้เราได้ภาพโบโร บุดัวร์ในอารมณ์ที่ต่างกัน
ภาพตอน 5.50
ภาพตอน 6.30 ถ่ายจากทิศเหนือ
ภาพตอน 7.00 น.
หลังจากชมโบโร บุดัวร์กันจนอิ่มใจแล้ว เราก็เดินทางกันไปต่อที่ Prambanan หรือวัดพรามนันต์ ที่ตั้งอยู่ห่างกันประมาณ 1.30 ชั่วโมง การเดินทางระหว่างสองศาสนสถานีนี้ดูเหมือนจะไกล แต่จริงๆหากเราตั้งต้นที่ใจกลางเมืองยอรค์จัตการ์ต้า ก็จะเป็นกึ่งกลางพอดี
วัดพรามนันต์ สร้างความตื่นตะลึงให้กับเราเมื่อแรกเห็น คล้ายดึงกลับไปสู่มนต์ขลังของอังกอร์วัดของกัมพูชา
วัดพรามนันต์ เป็นวัดของศาสานาฮินดู ที่สร้างขึ้นเมื่อ 1,200 ปีที่แล้ว ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับ โบโร บุดัวร์
ความมหัศจรรย์ของวัดแห่งนี้ ไม่ได้อยู่เพียงแค่ขนาด แต่กลับเป็นความพยายาม ที่จะฟื้นชีวิต หลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ที่ทำลายวัดเสียจนเหลือแต่กองหิน
ภาพกองหินขนาดใหญ่ และของจริงที่ตั้งอยู่รายรอบ ทำให้เราแทบไม่เชื่อสายตาว่า ผู้เชี่ยวชาญจะฟื้นชีพวัดแห่งนี้กลับมาได้อย่างงดงามเช่นนี้ …
พระปรางค์แต่ละยอด เป็นที่ประทับของเทพเจ้าในศาสนาฮินดูแต่ละองค์ ปัจจุบันเปิดให้เข้าชม และสักการะได้ในบางพระปรางค์ค่ะ …
ในวันนี้ สองศาสนาสถานที่เคยสาบสูญ ก็ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตั้งแต่ปี 1991 และจะจารึกในหน้าประวัติศาสตร์อีกต่อไปนานแสนนาน
เกร็ดเล็กๆน้อยๆ
การเดินทาง
โบโร บุดวร์ และวัดพรามนนต์ ตั้งอยู่กลางเกาะจาวา นักท่องเที่ยวมักแวะมาตั้งหลักกันที่เมืองยอรค์จัตการ์ต้า (Yogyakarta) หนึ่งคืน ก่อนจะเดินทางไปชมสองศาสนสถานในเช้าวันรุ่งขึ้น
เครื่องบินของ Garuda Airline และ Air Asia มีเส้นทางบินตรงจากจาการ์ต้ามาที่ยอรค์จัตการ์ต้า โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงบิน
ระยะทางจากสนามบินไปที่โรงแรมในเมือง ประมาณ 20-30 นาที แนะนำให้ใช้บริการรถรับส่งของโรงแรมซึ่งคิดราคาประมาณ 400-500 บาทต่อเที่ยว
(เวลาบินจากกรุงเทพฯมาจาการ์ต้า ประมาณ 4 ชั่วโมงค่ะ ควรแวะชมจาการ์ต้าสัก 2 วัน ก่อนเดินทางมาที่ยอรค์จัตการ์ต้า ติดตามอ่าน 72 Hours in Jakarta ได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ)
Related Posts: