ถัดจาก Delft เราขับรถกันชิลๆเพียง 20 นาทีก็ถึง The Hague (Den Haag/กรุงเฮก) เมืองแห่งความยุติธรรมหรือศาลโลกค่ะ
เราใช้บริการ Interparking อีกเช่นเดิม ลานจอดรถอยู่ใจกลางเมืองเลย สะดวกสบายมาก ค่าจอดรถที่นี่สูงกว่า Delft เท่าตัว หรือ 10-12 ยูโร สำหรับ 2-4 ชั่วโมง แต่ก็ได้ความสบายใจกลับมาค่ะ
นอกจากที่จอดรถจะสะดวกสบาย เครื่องรับ/จ่ายตั๋วมีภาษาอังกฤษแล้ว Interparking ยังมีแผนที่เมืองติดให้ดูเส้นทางกันหลงอีกด้วย
เพียงไม่กี่ก้าวจากลานจอดรถ สต็อปแรกก็เจอกับ Hofvijver บ่อน้ำขนาดใหญ่ ใจกลางเมือง แลนด์มาร์คที่เป็นภาพโปสการ์ดของ The Hague โดยมีภาพสะท้อนของ Binnehof รัฐสภาเก่าแก่ที่สุดของโลกเป็นฉากหลัง
บ่ายวันนี้หมอกช่างหนาตาแต่ก็ยังดีที่ผนไม่ตก ฉันจึงเดินเที่ยว The Hague ได้ฉ่ำใจหน่อย
เที่ยงนี้ฉันหย่อนตัวลงบนเบาะนิ่มๆใน Brasserie Mauritshuis ร้านอาหารประจำพิพิธภัณฑ์ Mauritshuis ที่เราจะมุ่งหน้าไปชมในช่วงบ่าย อาหารของร้านนี้อร่อยกว่าที่คิดไว้ ปริมาณอาหารก็เยอะสมกับราคา (เฉลี่ยคนละ 15-20 ยูโร) รสชาติทุกจานเข้มข้นและถูกใจเราทั้งสองคนค่ะ (มิน่าคนท้องที่ยังแวะเวียน มากินกันไม่ขาดสาย)
ชามโปรดมากคือ ซุปถั่ว ซึ่งเป็น Soup of the day รสชาติดีมาก ช่วยให้อุ่นท้องในช่วงฤดูหนาว
สลัดไก่ชามใหญ่เบ้ง
พาสต้าซอสทรัฟเฟิลก็ไม่เลวเลยค่ะ
หลังจากท้องอิ่มและก่อนหนังตาจะโรย เราจ้ำอ้าวไปซื้อตั๋วเข้าพิพิธภัณฑ์ซึ่งไร้คิวค่ะ ราคาตั๋วคนละ 14 ยูโร มาพร้อมกับฟรี Application ให้โหลดฟังข้อมูล เพียงแค่คุณมีหูฟังมาด้วยหรือไม่เช่นนั้นก็เปิด speaker และตะแคงหูฟังอย่างเราทั้งสองคน
Mauritshuis เป็นแมนชั่นเก่าที่สร้างตั้งแต่ปี 1640 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิก อารมณ์ในพิพิธภัณฑ์จึงเหมือนเดินอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ห้องต่างๆติดวอลเปเปอร์สีสันสดใสตัดกับภาพเขียนตามฝาผนังทำให้ดูโดดเด่น
ไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์ก็คือภาพเขียนของ Johannes Vermeer ศิลปินเอกชาวดัชต์ซึ่งติดอยู่ที่ชั้น 2 ห้องหมายเลข 15 ค่ะ
Girl with the pearl earring ภาพที่ชาวดัชต์เรียกเธอว่าโมนาลิซ่า … สาวงามในภาพนี้เป็นจินตนาการ ของ Vermeer หญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามผิวสีขาวละออ โพกผ้าคลุมศรีษะในชุดเสื้อผ้าที่ไม่คุ้นตา แสงเงาที่ตกกระทบบนใบหน้าทำให้ผิวเธอนั้นเฉิดฉาย ประกายตาและความชุ่มฉ่ำของริมฝีปากทำให้ภาพนี้โดดเด่นกว่าผลงานชิ้นอื่นของ Vermeer แต่จุดดึงสายตาของทุกคนก็คือต่างหูมุกสุกปลั่งจึงเป็นที่มาของชื่อภาพหญิงสาวและต่างหูมุก
View of Delft อีกภาพเขียนที่มีชื่อเสียงของ Vermeer ค่ะ ภาพนี้เขาวาดที่ Delft เมืองเล็กที่เราไปเที่ยวกันก่อนหน้านี้ Vermeer วาดภาพนี้จากทางทิศใต้ของเมือง ในวันที่ลมสงบทำให้บรรยากาศหยุดนิ่ง แสงเงาที่ตกกระทบบ้านเรือนและสะท้อนในน้ำทำให้เมืองนี้ดูนิ่งแต่มีพลังมากเหลือเกิน
Rembrandt ภาพพอร์ตเทรดของอีกศิลปินเอกก็มีอยู่ที่พิพิธภัณฑ์นี้ค่ะ
ภาพเขียนที่มีชื่อเสียงภาพอื่นๆ
ฉันและสามีใช้เวลาอยู่ใน Mauritshuis ประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งค่ะ พิพิธภัณฑ์มีขนาดกะทัดรัดแต่ภาพเขียนสวยงามมีให้ชมหลายภาพ ยิ่งดูละเอียดก็ยิ่งประทับใจ ประกอบกับคำอธิบายที่ติดไว้ในภาพสำคัญๆ ทำให้เข้าใจความงดงามและฝีมือของปรมาจารย์เหล่านี้ … เดินออกมานี่อิ่มใจเลยค่ะ (www.mauritshuis.nl/en/)
จากทางออกของ Mauritshuis เราเลี้ยวซ้ายตรงเข้าไปใน Binnehof รัฐสภาเก่าแก่ที่สุดของโลก กลางลานกว้างแห่งนี้เคยเป็นแดนประหารนักโทษ ตรงกลางมีอาคารเก่าที่เปิดให้เข้าชม เช่นเดียวกับอาคารรัฐสภาที่โอบล้อมอยู่นั้นก็มีทัวร์ชมเช่นกัน ยกเว้นในวันที่มีการประชุมสภา
จุดหมายต่อไปใน The Hague ก็คือย่านธุรกิจใจกลางเมือง แต่ก่อนจะเดินไปถึง Dagelijkse Groemarkt สามีก็หันไปเจอร้านอาหารขายปลาเฮร์ริงสด Belegde Broodjes อาหารที่ชาวดัชต์โปรดปราน ร้านนี้น่าจะเป็นร้านดังจึงมีคนมายืนรอคิวซื้อกันอยู่หลายคน แต่เพราะท้องยังอิ่มจึงข้ามอาหารประจำชาตินี้ไปและยังคงเสียดายจนถึงวันนี้ค่ะ
Dagelijkse Groemarkt เป็นถนนช้อปปิ้งสำคัญของเมือง วันนี้ตกแต่งอย่างสวยงามและสนุกสนานเข้ากับเทศกาลแห่งความสุขปลายปีที่กำลังจะมาถึง สองข้างทางเรียงรายด้วยร้านค้า สินค้าดูน่าซื้อมากๆค่ะ ร้านอาหารและคาเฟ่ตามอาคารเก่าก็ดูน่ากิน ผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา The Hague ในย่านนี้ช่างต่างจากที่คิด เมืองแห่งความยุติธรรมของโลกไม่ได้เงียบขรึมและเคร่งเครียดเหมือนชื่อที่ผู้คนมอบให้
ก่อนจะอำลา The Hague สามีขับรถไปชม UN International Court of Justice หรือ Vredespaleis กันสักหน่อย ปกติศาลโลกเปิดให้เข้าชมได้ในช่วงที่ไม่ได้มีการตัดสินคดี แต่เพราะเราไปเพียงไม่กี่วันหลังจากนายสโลโบดาน ปราลยัก นายพลชาวบอสเนีย-โครแอต ซดยาพิษ (29 พฤศจิกายน 2560) เมื่อถูกตัดสินให้เป็นอาชญากรสงคราม ศาลโลกคงยังวุ่นวายอยู่และยังไม่เปิดให้เข้าชม จึงได้เพียงแต่เก็บรูปภาพอยู่ด้านหน้าเท่านั้นค่ะ (www.icj-cij.org/en)
The Hague เคยเป็นเมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ก่อนที่จะย้ายไปยัง Amsterdam และปัจจุบันเป็น เมืองที่ราชวงศ์พำนักอยู่ Regal Palace ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้ๆกับถนนช้อปปิ้ง แต่ไม่เปิดให้เข้าชม ปัจจุบัน The Hague มีประชากรประมาณ 500,000 คน เป็นอีกเมืองใหญ่ที่ผู้คนแวะเวียนมาท่องเที่ยวค่ะ (https://denhaag.com/en/tourist-office)
8 Feb 2018
0 Comments
The Hague เที่ยวเมืองศาลโลก ยลภาพเขียนสมบัติล้ำค่าของชาวดัตช์
ถัดจาก Delft เราขับรถกันชิลๆเพียง 20 นาทีก็ถึง The Hague (Den Haag/กรุงเฮก) เมืองแห่งความยุติธรรมหรือศาลโลกค่ะ
เราใช้บริการ Interparking อีกเช่นเดิม ลานจอดรถอยู่ใจกลางเมืองเลย สะดวกสบายมาก ค่าจอดรถที่นี่สูงกว่า Delft เท่าตัว หรือ 10-12 ยูโร สำหรับ 2-4 ชั่วโมง แต่ก็ได้ความสบายใจกลับมาค่ะ
นอกจากที่จอดรถจะสะดวกสบาย เครื่องรับ/จ่ายตั๋วมีภาษาอังกฤษแล้ว Interparking ยังมีแผนที่เมืองติดให้ดูเส้นทางกันหลงอีกด้วย
เพียงไม่กี่ก้าวจากลานจอดรถ สต็อปแรกก็เจอกับ Hofvijver บ่อน้ำขนาดใหญ่ ใจกลางเมือง แลนด์มาร์คที่เป็นภาพโปสการ์ดของ The Hague โดยมีภาพสะท้อนของ Binnehof รัฐสภาเก่าแก่ที่สุดของโลกเป็นฉากหลัง
บ่ายวันนี้หมอกช่างหนาตาแต่ก็ยังดีที่ผนไม่ตก ฉันจึงเดินเที่ยว The Hague ได้ฉ่ำใจหน่อย
เที่ยงนี้ฉันหย่อนตัวลงบนเบาะนิ่มๆใน Brasserie Mauritshuis ร้านอาหารประจำพิพิธภัณฑ์ Mauritshuis ที่เราจะมุ่งหน้าไปชมในช่วงบ่าย อาหารของร้านนี้อร่อยกว่าที่คิดไว้ ปริมาณอาหารก็เยอะสมกับราคา (เฉลี่ยคนละ 15-20 ยูโร) รสชาติทุกจานเข้มข้นและถูกใจเราทั้งสองคนค่ะ (มิน่าคนท้องที่ยังแวะเวียน มากินกันไม่ขาดสาย)
ชามโปรดมากคือ ซุปถั่ว ซึ่งเป็น Soup of the day รสชาติดีมาก ช่วยให้อุ่นท้องในช่วงฤดูหนาว
สลัดไก่ชามใหญ่เบ้ง
พาสต้าซอสทรัฟเฟิลก็ไม่เลวเลยค่ะ
หลังจากท้องอิ่มและก่อนหนังตาจะโรย เราจ้ำอ้าวไปซื้อตั๋วเข้าพิพิธภัณฑ์ซึ่งไร้คิวค่ะ ราคาตั๋วคนละ 14 ยูโร มาพร้อมกับฟรี Application ให้โหลดฟังข้อมูล เพียงแค่คุณมีหูฟังมาด้วยหรือไม่เช่นนั้นก็เปิด speaker และตะแคงหูฟังอย่างเราทั้งสองคน
Mauritshuis เป็นแมนชั่นเก่าที่สร้างตั้งแต่ปี 1640 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิก อารมณ์ในพิพิธภัณฑ์จึงเหมือนเดินอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ห้องต่างๆติดวอลเปเปอร์สีสันสดใสตัดกับภาพเขียนตามฝาผนังทำให้ดูโดดเด่น
ไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์ก็คือภาพเขียนของ Johannes Vermeer ศิลปินเอกชาวดัชต์ซึ่งติดอยู่ที่ชั้น 2 ห้องหมายเลข 15 ค่ะ
Girl with the pearl earring ภาพที่ชาวดัชต์เรียกเธอว่าโมนาลิซ่า … สาวงามในภาพนี้เป็นจินตนาการ ของ Vermeer หญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามผิวสีขาวละออ โพกผ้าคลุมศรีษะในชุดเสื้อผ้าที่ไม่คุ้นตา แสงเงาที่ตกกระทบบนใบหน้าทำให้ผิวเธอนั้นเฉิดฉาย ประกายตาและความชุ่มฉ่ำของริมฝีปากทำให้ภาพนี้โดดเด่นกว่าผลงานชิ้นอื่นของ Vermeer แต่จุดดึงสายตาของทุกคนก็คือต่างหูมุกสุกปลั่งจึงเป็นที่มาของชื่อภาพหญิงสาวและต่างหูมุก
View of Delft อีกภาพเขียนที่มีชื่อเสียงของ Vermeer ค่ะ ภาพนี้เขาวาดที่ Delft เมืองเล็กที่เราไปเที่ยวกันก่อนหน้านี้ Vermeer วาดภาพนี้จากทางทิศใต้ของเมือง ในวันที่ลมสงบทำให้บรรยากาศหยุดนิ่ง แสงเงาที่ตกกระทบบ้านเรือนและสะท้อนในน้ำทำให้เมืองนี้ดูนิ่งแต่มีพลังมากเหลือเกิน
Rembrandt ภาพพอร์ตเทรดของอีกศิลปินเอกก็มีอยู่ที่พิพิธภัณฑ์นี้ค่ะ
ภาพเขียนที่มีชื่อเสียงภาพอื่นๆ
ฉันและสามีใช้เวลาอยู่ใน Mauritshuis ประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งค่ะ พิพิธภัณฑ์มีขนาดกะทัดรัดแต่ภาพเขียนสวยงามมีให้ชมหลายภาพ ยิ่งดูละเอียดก็ยิ่งประทับใจ ประกอบกับคำอธิบายที่ติดไว้ในภาพสำคัญๆ ทำให้เข้าใจความงดงามและฝีมือของปรมาจารย์เหล่านี้ … เดินออกมานี่อิ่มใจเลยค่ะ (www.mauritshuis.nl/en/)
จากทางออกของ Mauritshuis เราเลี้ยวซ้ายตรงเข้าไปใน Binnehof รัฐสภาเก่าแก่ที่สุดของโลก กลางลานกว้างแห่งนี้เคยเป็นแดนประหารนักโทษ ตรงกลางมีอาคารเก่าที่เปิดให้เข้าชม เช่นเดียวกับอาคารรัฐสภาที่โอบล้อมอยู่นั้นก็มีทัวร์ชมเช่นกัน ยกเว้นในวันที่มีการประชุมสภา
จุดหมายต่อไปใน The Hague ก็คือย่านธุรกิจใจกลางเมือง แต่ก่อนจะเดินไปถึง Dagelijkse Groemarkt สามีก็หันไปเจอร้านอาหารขายปลาเฮร์ริงสด Belegde Broodjes อาหารที่ชาวดัชต์โปรดปราน ร้านนี้น่าจะเป็นร้านดังจึงมีคนมายืนรอคิวซื้อกันอยู่หลายคน แต่เพราะท้องยังอิ่มจึงข้ามอาหารประจำชาตินี้ไปและยังคงเสียดายจนถึงวันนี้ค่ะ
Dagelijkse Groemarkt เป็นถนนช้อปปิ้งสำคัญของเมือง วันนี้ตกแต่งอย่างสวยงามและสนุกสนานเข้ากับเทศกาลแห่งความสุขปลายปีที่กำลังจะมาถึง สองข้างทางเรียงรายด้วยร้านค้า สินค้าดูน่าซื้อมากๆค่ะ ร้านอาหารและคาเฟ่ตามอาคารเก่าก็ดูน่ากิน ผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา The Hague ในย่านนี้ช่างต่างจากที่คิด เมืองแห่งความยุติธรรมของโลกไม่ได้เงียบขรึมและเคร่งเครียดเหมือนชื่อที่ผู้คนมอบให้
ก่อนจะอำลา The Hague สามีขับรถไปชม UN International Court of Justice หรือ Vredespaleis กันสักหน่อย ปกติศาลโลกเปิดให้เข้าชมได้ในช่วงที่ไม่ได้มีการตัดสินคดี แต่เพราะเราไปเพียงไม่กี่วันหลังจากนายสโลโบดาน ปราลยัก นายพลชาวบอสเนีย-โครแอต ซดยาพิษ (29 พฤศจิกายน 2560) เมื่อถูกตัดสินให้เป็นอาชญากรสงคราม ศาลโลกคงยังวุ่นวายอยู่และยังไม่เปิดให้เข้าชม จึงได้เพียงแต่เก็บรูปภาพอยู่ด้านหน้าเท่านั้นค่ะ (www.icj-cij.org/en)
The Hague เคยเป็นเมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ก่อนที่จะย้ายไปยัง Amsterdam และปัจจุบันเป็น เมืองที่ราชวงศ์พำนักอยู่ Regal Palace ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้ๆกับถนนช้อปปิ้ง แต่ไม่เปิดให้เข้าชม ปัจจุบัน The Hague มีประชากรประมาณ 500,000 คน เป็นอีกเมืองใหญ่ที่ผู้คนแวะเวียนมาท่องเที่ยวค่ะ (https://denhaag.com/en/tourist-office)
Related Posts: