Delft เมืองเล็กน่ารัก ต้นกำเนิดของ Girl with a Pearl Earring  

Deflt (เดลฟท์) อยู่ห่างจาก Rotterdam เพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้นค่ะ ขับรถเครื่องยังไม่ทันร้อน ก้นยังไม่เข้าที่ ก็ถึงลานจอดรถแล้ว …
พูดถึงเรื่องที่จอดรถในยุโรป ก็เป็นอีกความป่วนสำหรับมือใหม่ จริงๆที่จอดรถแต่ละเมืองนั้นหาไม่ยากถ้ารู้จุด แต่เพราะเราเป็นนักท่องเที่ยวจึงไม่รู้ไงค่ะ ต้องมองหาและขับรถไล่ล่าจนกว่าจะถึงบังอ้อก็เกือบกลับไทยเสียแล้ว

Interparking เป็นลานจอดรถที่แนะนำ มีเกือบทุกเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวในยุโรปรวมประเทศอังกฤษ ลานจอดของ Interparking มักอยู่ใกล้ๆใจกลางเมือง โลเคชั่นดี มีเครื่องรับ/จ่ายตั๋วก็เป็นภาษาอังกฤษ สะดวกสบายมาก เทียบกับลานจอดกลางแจ้งหรือริมถนนปลอดภัยกว่าเยอะค่ะ ไม่ต้องกลัวจอดผิดที่ผิดทาง และโดนใบสั่งอยู่หน้ากระจก รวมถึงไม่ต้องกังวลเรื่องโจรขโมยทุบกระจกรถด้วยค่ะ ค่าจอดของที่ Delft ตก 4-6 ยูโร สำหรับ 2-3 ชั่วโมง (ตรวจสอบจุดจอดรถในแต่ละเมืองได้ที่ www.interparking.com/en/)
กลับมาที่ Delft เรามาทำไม? นั่นสิค่ะ มาทำไม … คำตอบตรงๆก็คือเห็นคนอื่นเขามากันก็เลยแวะมา อีกทั้งก็เป็นเมืองทางผ่านไป Amsterdam ไม่ได้ใช้เวลามากก็เลยแวะชมเสียหน่อย
แต่มาทั้งทีก็ต้องเตรียมข้อมูลตามนิสัยอยากรู้อยากเห็นและพอดำลึกอ่านข้อมูลเมืองก็คิดว่า Delft ชักไม่ธรรมดาเสียแล้ว Delft เป็นอีกเมืองที่มีความสำคัญของประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเมืองที่มีชื่อเล่นว่า Princes’ Town เพราะราชวงศ์เนเธอร์แลนด์ย้ายมาอยู่ที่นี่หลายพระองค์รวมถึงพิธีเสกสมรสและฝังพระศพก็จัดขึ้นที่เมืองนี้
นอกจากนั้น Delft ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม Delftware เครื่องลายครามสีน้ำเงิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นและเอกลักษณ์ของเมืองที่เลื่องชื่อ (ปัจจุบันเครื่องลายครามที่วางขายผลิตที่จีน โรงงานดั้งเดิมของ Delft จะเหลืออยู่ไม่กี่แห่งเท่านั้น)
Delft ยังโด่งดังด้านความสวยงาม เป็นเมืองที่มีลำคลองน้อยใหญ่ไหลเอื่อยอยู่ในเมือง ดูเย็นตา สองฝั่งของคลองสวยก็เรียงรายไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ งดงามทุกฤดูกาล สลับฉากกับร้านอาหารเก๋ๆ ทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์ขึ้นมาทันที
จตุรัสใจกลางเมือง (Grote Markt) หัวใจของ Deflt ในวันนี้คึกคักเป็นพิเศษเพราะมีขบวนพาเรดของพระคาร์ดินัลและผู้ร่วมขบวนที่ทาหน้าทาตัวเป็นสีดำ รอยยิ้มและเสียงกลองดังสนั่น ดูสนุกสนานจนสามีต้องขอเข้าไปชักรูปคู่สักภาพ ^^
เราเดินชมจตุรัสกันอีกสักพักค่ะ แวะดู City Hall ตึกใหญ่ใจกลางลานกว้าง (ไม่อนุญาติให้เช้าชมด้านใน) หินทรายที่กลายเป็นสีดำบ่งบอกถึงกาลเวลาของเมืองเก่าและเมื่อตัดกับหน้าต่างสีแดงจัดกับรูปปั้นหินแล้วดูสะดุดตามากค่ะ
ใกล้ๆกันยังมองเห็น Nieuwe Kerk หรือ New Church โบสถ์ที่เพิ่งสร้างใหม่ในปี 1496 จุดเด่นเป็นหอนาฬิกา (Bell Tower) สูงถึง 108.75 เมตร สถาปัตยกรรมแบบกอธิกที่รุ่มรวยด้วยรายละเอียดดูเด่นเป็นสง่า
สุดท้ายเป็นไฮไลท์ของเมืองที่ใครพลาดก็คงจะเสียใจ นั่นก็คือ Vemeer Centrum พิพิธภัณฑ์สำคัญของเมืองที่มีภาพ Johanes Vermeer ศิลปินที่ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยภาพด้านแสงเงา (Master of Light) เขาเกิดและเติบโตที่ Deflt ค่ะ
ภาพเขียนที่ดังมากของเขาก็คือ View of Delft และ Girl with a Pearl Earring เรียกได้ว่าเป็นสมบัติของชาติซึ่งปัจจุบันเปิดให้เข้าชมในพิพิธภัณฑ์ที่ The Hauge (กรุงเฮก) เมืองที่เรากำลังจะเดินทางต่อไป
Vermeer Centrum Delft เป็นทั้งพิพิธภัณฑ์และร้านขายของค่ะ ฉันตั้งใจจะไปชมภาพของจริงที่ The Hague จึงตัดสินใจแค่เดินดูของที่ขายในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น สินค้าในร้านน่าซื้อมาก โดยเฉพาะร่ม สมุดโน็ต และกระเป๋าพลาสิก Recycle ที่นำภาพเขียนของ Vermeer มาพิมพ์ลงไปให้กลายเป็นของที่ระลึก แต่เพราะคิดว่าที่ Mauritshuis พิพิธภัณฑ์ที่ The Hague คงจะมีสินค้าเหมือนกัน เลยไม่ได้ซื้อสักชิ้น  แต่บอกเลยค่ะว่าคิดผิดและยังช้ำใจจนถึงทุกวันนี้
* ถ้าไม่ได้ขับรถ เราก็นั่งรถไฟจาก Rotterdam มา Delft และ The Hague ได้ค่ะ มีรถไฟให้บริการทั้งวัน ใช้เวลาเพียง 12-30 นาทีเท่านั้น