จากตูจินเยี่ยน เรานั่งรถประมาณ 2.30 ชั่วโมง ก็มาถึงร้านอาหารเที่ยงที่อยู่ตีนเขาของสี่ดรุณี อาหารจีนครัวเสฉวนจานใหญ่มหึมา และอร่อยมากทุกจาน เรากินกันเกือบหมดเกลี้ยง เข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อย แล้วก็พร้อมลุยสี่ดรุณีในอีก 40 นาทีนับจากนี้







ก่อนเดินทาง เราปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เกี่ยวกับ Altitude Sickness คุณหมอตอบว่า “แล้วแต่ดวงครับ” 5555 แต่ในทางวิทยาศาสตร์ยาตัวเดียวที่ป้องกัน Altitude Sickness ได้ ก็คือเจ้ายา Diamox ซึ่งเป็นยาขับปัสสาวะ ที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาขนาดใหญ่ เช่น จุฬาเภสัช
คุณหมอแนะนำให้กิน 2 วันก่อนเดินทาง เพื่อปรับร่างกาย และกินต่อเนื่องในวันที่เราขึ้นที่สูง 3,000 เมตร เหนือระดับทะเล ซึ่งก็คือวันนี้นี่เอง (ข้อมูลการกินยาอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ … )
ในขณะที่รถไต่เขาขึ้นสูงไปเรื่อยๆ ยอดเขาสีขาวโพลน ภาพที่เห็นแล้วทำให้หัวใจเต้นรัว ก็เผยให้เห็นชัดขึ้นๆ เราหยุดถ่ายรูปมุมพาโนรามานี้ สูดอากาศสดชื่นก่อนเดินทางต่อไปยังจุดหมาย



สี่ดรุณี หรือ อุทยานแห่งชาติซื่อกูเหนียงซาน
มีความหมายว่า ภูเขาแห่งเทพเจ้าอันยิ่งใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 5A ของประเทศจีน นั่นหมายความว่ามีความงามที่เป็นหนึ่ง Unesco ยังยกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 2006 ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติมาเที่ยวกันมากขึ้นทุกปี
โชคดีของเรา ที่ทริปนี้เกิดขึ้นหลังวันหยุดดยาวของคนจีน นักท่องเที่ยวในแต่ละอุทยานเลยค่อนข้างบางตา ไร้คิว และห้องน้ำในอุทยานสะอาดสะอ้านค่ะ
ตำนานของภูเขาสี่ดรุณีเล่าว่า … ปีศาจตนหนึ่งได้ออกอาละวาดในหมู่บ้าน สี่สาวพี่น้องจึงลุกขึ้นมาต่อสู้กับปีศาจ ด้วยการกักขังปีศาจไว้ในหุบเขา แต่พี่สาวทั้ง 3 พลังไม่พอ น้องคนสุดท้องจึงเข้ามาช่วย กลายเป็นยอดเขาทั้ง 4 ที่สูงตระหง่านและกักขังเจ้าปีศาจร้ายไว้ไม่ให้ออกไม่ทำร้ายชาวบ้าน
เกริ่นนำไว้ก่อนว่า … เส้นทางท่องเที่ยวสี่ดรุณีนั้น จริงๆ จะมีอยู่ 3 เส้นทาง โดยเส้นทาง “ซวงเฉียวโกว Shuangqiaogou” หรือ หุบเขาซวงเฉียวโกว เป็นเส้นทางยอดนิยม เพราะมีรถบัสอุทยานพาเที่ยวชมทุกจุด ส่วนอีก 2 เส้นทางเดินทางยากกว่า และอาจเหมาะกับคนชอบ hiking ค่ะ
เส้นทาง : ซวงเฉียวโกว หรือ หุบเขาซวงเฉียวโกว
จากทางเข้าอุทยาน ที่ระดับความสูง 2,900 เมตรเหนือทะเล เราเดินไปยังจุดจอดรถบัสสีเขียวคันใหญ่ เลือกคันที่ว่าง และขึ้นไปจับจองที่นั่งด้านหน้า จะเมารถน้อยกว่าด้านหลัง รถบัสไต่เขาขึ้นไปเรื่อยๆ ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร ใช้เวลา 45 นาที เส้นทางระหว่างขับรถมีทั้งทางโค้ง ผสมกับทางตรง ถนนดี รถดี และคนขับของเรานั้นขับช้า ขับดี เลยไม่มีสมาชิกคนไหนเมารถถึงขั้นต้องใช้ถุงฉุกเฉินค่ะ
จุดท่องเที่ยวที่รถบัสจะแวะมีทั้งหมด 7 แห่ง แนะนำให้ศึกษาเส้นทางไปก่อน หรือดูจากแผนที่ที่เพจคนไทยเที่ยวเฉิงตูสรุปไว้ให้ก็ได้ พวกเราเลือกแวะกันเพียง 4 แห่งเท่านั้น ใช้เวลาเที่ยวสี่ดรุณีกันประมาณ 3-4 ชั่วโมง



จุดที่ 1 : หงซานหลิน หรือ ป่าสนแดง (Red Wood)
ระดับความสูง 3,840 เมตร / อุณหภูมิ 5-12 องศา เดือนพฤษาคม
จุดแรกของเส้นทางเที่ยวซวงเฉียวโกว เป็นจุดสูงที่สุดของทริป หรือเกือบ 4,000 เมตรเหนือระดับทะเล ณ จุดนี้ ภาพของเทือกเขาสูงทั้งสี่ที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปีจะตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
เราเดินตามทางไม้ยาวที่ปูไว้อย่างดี ลึกเข้าไปในป่าสนแดง และเวียนไปจนถึงเกือบสุดทาง ความรู้สึกตรงจุดถ่ายรูปที่ดีที่สุดของสี่ดรุณีนี้ ก็จะเหมือนธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่กำลังโอบล้อมมนุษย์ตัวจิ๋วๆอย่างเราไว้ในอุ้งมือ … นี่สินะ จุดเริ่มต้นของตำนานสี่ดุรณี และความยิ่งใหญ่ของที่เที่ยวระดับ 5A ของจีน ที่หลายคนเปรียบให้เหมือนกับสวิสเซอร์แลนด์ของเอเชีย
นอกจากนั้นจุดนี้ยังเป็นจุดเฉลยว่าใครจะเป็นผู้รอดชีวิตจากอาการ Altitude Sickness !!!
สำหรับพวกเราที่เตรียมตัวกินยา Diamox ตามหมอสั่ง มีแค่ความรู้สึกมึนหัวนิดๆ ซึ่งพอสูดลมหายใจลึกๆ ก็กลับมาสู่สภาวะปกติ นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ก็ดูเหมือนจะไม่มีอาการใดๆ โดยเฉพาะพวกหนุ่มสาวแทบจะวิ่งเล่นได้เหมือนอยู่บนพื้นราบ
แต่ … สูงวัยชาวไทย 3-4 คนที่มากับทัวร์ กลับมีอาการชัดเจน บางคนเวียนหัวเหมือนแผ่นดินไหว บางคนเลือดกำดาวไหล ส่วนคนที่น่ากลัวที่สุดก็จะเป็นคุณยายชาวไทยที่ปากซีดจนกลายเป็นสีม่วง พวกเราเลยเดินเอาช็อกโกแล็ตไปให้ เพราะความหวานจะช่วยบรรเทาอาการแพ้ที่สูงได้ พร้อมบอกให้สูดออกซิเจนกระป๋องให้เยอะๆ จะได้รู้สึกดีขึ้น
เทือกเขาสี่ดรุณี ที่มียอดสูงเรียงกัน 4 ยอด ประกอบด้วย
ต้ากูเหนียงเฟิง (Daguniang Feng) พี่สาวคนโต มียอดสูง 5,025 เมตร
เอ้อร์กูเหนียงเฟิง (Erguniang Feng) พี่สาวคนที่สอง มียอดสูง 5,276 เมตร
ซานกูเหนียงเฟิง (Sanguniang Feng) พี่สาวคนที่สาม มียอดสูง 5,355 เมตร
เหยาเหม่ยเฟิง (Yaomei Feng) น้องสาวคนเล็ก มียอดสูงที่สุด 6,250 เมตร













จุดที่ 2 : ปู้ต่าลาเฟิง หรือ Potala Peak
ระดับความสูง 3,733 เมตร/ อุณหภูมิ 5-12 องศา เดือนพฤษาคม
จุดนี้เป็นมุมโปรดของคนที่อยากได้รูปสวยๆเหมือนโปสการด์ ตรงนี้จะมีถนนลาดยางสายยาวที่เบื้องหลังเป็นเทือกเขาสี่ดรุณี กลุ่มนักท่องเที่ยวที่อยากได้รูปไว้ประดับโซเชียล ก็จะวิ่งไปแอ็คท่าถ่ายรูปตรงกลางถนน รถบัสที่ขับขึ้นลงก็คอยบีบแตรไล่ แต่ก็เหมือนจะรู้กันว่าไม่ได้ไล่จริง แค่ขอทางหน่อย เพราะพอรถวิ่งผ่านไป นักท่องเที่ยวก็จะกรูมาถ่ายรูปกันใหม่ ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก ดูแล้วก็ตลกดี
ส่วนเราเล็งแล้วว่า มุมนั้นมหาชนเกินไป เลยเลือกมุมใหม่ นั่งอยู่ริมถนน ปลอดภัยและก็ได้ภาพใกล้เคียง ไว้อวดชาวโลกว่าเรามาพิชิตแล้วนะ … สี่ดรุณี






จุดที่ 5 : ทะเลสาบหลงจูชั่ว– Long Zhu Cuo
ระดับความสูง 3,490 เมตร/ อุณหภูมิ 5-12 องศา เดือนพฤษาคม
เราข้ามจุดแวะที่ 3 กับ 4 และตรงมาจุดที่ 5 เลย เพื่อเก็บภาพทะเลสาบหลงจูชั่วขนาดใหญ่ ที่มีต้นไม้ตายอยู่กลางทะเลสาบ กลายเป็นภาพแห่งความเวิ้งว้าง และเหงาสุดหัวใจของทริปนี้






จุดที่ 7 : เหรินเซินกั่วผิง– RenShen GuoPing
ระดับความสูง 3,300 เมตร/ อุณหภูมิ 5-12 องศา เดือนพฤษาคม
เราข้ามจุดที่ 6 ซึ่งเป็นร้านอาหารและคาเฟ่ เพราะกินข้าวเที่ยงมาก่อนหน้าแล้ว และตรงมาจุดที่ 7 ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายของรถบัส
ตรงนี้จะมีฝูงจามรียืนกินหญ้าอย่างมีความสุขท่ามกลางเทือกเขาสูง พวกเราอยากได้รูปแบบใกล้ชิด เลยเดินฝ่าดงอุนจิของเจ้าจามรีไปใกล้ๆ ทุกตัวดูคุ้นเคยกับมนุษย์ แต่ก็รักษาระยะห่าง เพราะเมื่อเราเดินเข้าไปใกล้มากๆ เจ้าจามรีก็จะเริ่มส่งสายตาแรงส์ และ บางตัวทำท่าทางหงุดหงุดแล้วเดินหนีไป สุดท้ายก็ได้ภาพใกล้ชิดที่ยังห่าง แต่ก็มีความสุขแล้วค่ะ




ก่อนอำลาสี่ดรุณี ท้องเริ่มร้องด้วยความหิว เลยแวะซื้อไส้กรอกปิ้งหน้าอุทยานมากิน คนขายปิ้งให้ใหม่ร้อนๆ และทาซอสเคลือบไส้กรอกสองสามรอบ กินคำแรกก็ถูกใจ อร่อย รสอูมามิ เลยภูมิใจนำเสนอให้ลองชิมกัน ถือเป็นการปิดทริปสี่ดรุณีด้วยของอร่อย อิ่มเอมทั้งกายและใจ


จากนี้เราจะมุ่งหน้าต่อไปยังที่พักหน้าอุทยานปี้เผิงโกว นั่งรถประมาณ 2 ชั่วโมงจากสี่ดรุณี คืนนี้เราจะเข้าพักในโรงแรม Chushan Mingjing Hot Spring Resort ของคนจีน ที่เพจคนไทยเที่ยวเฉิงตูแนะนำมา และกินอาหารเย็นกันที่นั่นเลยค่ะ
5 Jun 2025
0 Comments
Day 2 : สี่ดรุณี หุบเขาซวงเฉียวโกว
จากตูจินเยี่ยน เรานั่งรถประมาณ 2.30 ชั่วโมง ก็มาถึงร้านอาหารเที่ยงที่อยู่ตีนเขาของสี่ดรุณี อาหารจีนครัวเสฉวนจานใหญ่มหึมา และอร่อยมากทุกจาน เรากินกันเกือบหมดเกลี้ยง เข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อย แล้วก็พร้อมลุยสี่ดรุณีในอีก 40 นาทีนับจากนี้
ก่อนเดินทาง เราปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เกี่ยวกับ Altitude Sickness คุณหมอตอบว่า “แล้วแต่ดวงครับ” 5555 แต่ในทางวิทยาศาสตร์ยาตัวเดียวที่ป้องกัน Altitude Sickness ได้ ก็คือเจ้ายา Diamox ซึ่งเป็นยาขับปัสสาวะ ที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาขนาดใหญ่ เช่น จุฬาเภสัช
คุณหมอแนะนำให้กิน 2 วันก่อนเดินทาง เพื่อปรับร่างกาย และกินต่อเนื่องในวันที่เราขึ้นที่สูง 3,000 เมตร เหนือระดับทะเล ซึ่งก็คือวันนี้นี่เอง (ข้อมูลการกินยาอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ … )
ในขณะที่รถไต่เขาขึ้นสูงไปเรื่อยๆ ยอดเขาสีขาวโพลน ภาพที่เห็นแล้วทำให้หัวใจเต้นรัว ก็เผยให้เห็นชัดขึ้นๆ เราหยุดถ่ายรูปมุมพาโนรามานี้ สูดอากาศสดชื่นก่อนเดินทางต่อไปยังจุดหมาย
สี่ดรุณี หรือ อุทยานแห่งชาติซื่อกูเหนียงซาน
มีความหมายว่า ภูเขาแห่งเทพเจ้าอันยิ่งใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 5A ของประเทศจีน นั่นหมายความว่ามีความงามที่เป็นหนึ่ง Unesco ยังยกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 2006 ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติมาเที่ยวกันมากขึ้นทุกปี
โชคดีของเรา ที่ทริปนี้เกิดขึ้นหลังวันหยุดดยาวของคนจีน นักท่องเที่ยวในแต่ละอุทยานเลยค่อนข้างบางตา ไร้คิว และห้องน้ำในอุทยานสะอาดสะอ้านค่ะ
ตำนานของภูเขาสี่ดรุณีเล่าว่า … ปีศาจตนหนึ่งได้ออกอาละวาดในหมู่บ้าน สี่สาวพี่น้องจึงลุกขึ้นมาต่อสู้กับปีศาจ ด้วยการกักขังปีศาจไว้ในหุบเขา แต่พี่สาวทั้ง 3 พลังไม่พอ น้องคนสุดท้องจึงเข้ามาช่วย กลายเป็นยอดเขาทั้ง 4 ที่สูงตระหง่านและกักขังเจ้าปีศาจร้ายไว้ไม่ให้ออกไม่ทำร้ายชาวบ้าน
เกริ่นนำไว้ก่อนว่า … เส้นทางท่องเที่ยวสี่ดรุณีนั้น จริงๆ จะมีอยู่ 3 เส้นทาง โดยเส้นทาง “ซวงเฉียวโกว Shuangqiaogou” หรือ หุบเขาซวงเฉียวโกว เป็นเส้นทางยอดนิยม เพราะมีรถบัสอุทยานพาเที่ยวชมทุกจุด ส่วนอีก 2 เส้นทางเดินทางยากกว่า และอาจเหมาะกับคนชอบ hiking ค่ะ
เส้นทาง : ซวงเฉียวโกว หรือ หุบเขาซวงเฉียวโกว
จากทางเข้าอุทยาน ที่ระดับความสูง 2,900 เมตรเหนือทะเล เราเดินไปยังจุดจอดรถบัสสีเขียวคันใหญ่ เลือกคันที่ว่าง และขึ้นไปจับจองที่นั่งด้านหน้า จะเมารถน้อยกว่าด้านหลัง รถบัสไต่เขาขึ้นไปเรื่อยๆ ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร ใช้เวลา 45 นาที เส้นทางระหว่างขับรถมีทั้งทางโค้ง ผสมกับทางตรง ถนนดี รถดี และคนขับของเรานั้นขับช้า ขับดี เลยไม่มีสมาชิกคนไหนเมารถถึงขั้นต้องใช้ถุงฉุกเฉินค่ะ
จุดท่องเที่ยวที่รถบัสจะแวะมีทั้งหมด 7 แห่ง แนะนำให้ศึกษาเส้นทางไปก่อน หรือดูจากแผนที่ที่เพจคนไทยเที่ยวเฉิงตูสรุปไว้ให้ก็ได้ พวกเราเลือกแวะกันเพียง 4 แห่งเท่านั้น ใช้เวลาเที่ยวสี่ดรุณีกันประมาณ 3-4 ชั่วโมง
จุดที่ 1 : หงซานหลิน หรือ ป่าสนแดง (Red Wood)
ระดับความสูง 3,840 เมตร / อุณหภูมิ 5-12 องศา เดือนพฤษาคม
จุดแรกของเส้นทางเที่ยวซวงเฉียวโกว เป็นจุดสูงที่สุดของทริป หรือเกือบ 4,000 เมตรเหนือระดับทะเล ณ จุดนี้ ภาพของเทือกเขาสูงทั้งสี่ที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปีจะตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
เราเดินตามทางไม้ยาวที่ปูไว้อย่างดี ลึกเข้าไปในป่าสนแดง และเวียนไปจนถึงเกือบสุดทาง ความรู้สึกตรงจุดถ่ายรูปที่ดีที่สุดของสี่ดรุณีนี้ ก็จะเหมือนธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่กำลังโอบล้อมมนุษย์ตัวจิ๋วๆอย่างเราไว้ในอุ้งมือ … นี่สินะ จุดเริ่มต้นของตำนานสี่ดุรณี และความยิ่งใหญ่ของที่เที่ยวระดับ 5A ของจีน ที่หลายคนเปรียบให้เหมือนกับสวิสเซอร์แลนด์ของเอเชีย
นอกจากนั้นจุดนี้ยังเป็นจุดเฉลยว่าใครจะเป็นผู้รอดชีวิตจากอาการ Altitude Sickness !!!
สำหรับพวกเราที่เตรียมตัวกินยา Diamox ตามหมอสั่ง มีแค่ความรู้สึกมึนหัวนิดๆ ซึ่งพอสูดลมหายใจลึกๆ ก็กลับมาสู่สภาวะปกติ นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ก็ดูเหมือนจะไม่มีอาการใดๆ โดยเฉพาะพวกหนุ่มสาวแทบจะวิ่งเล่นได้เหมือนอยู่บนพื้นราบ
แต่ … สูงวัยชาวไทย 3-4 คนที่มากับทัวร์ กลับมีอาการชัดเจน บางคนเวียนหัวเหมือนแผ่นดินไหว บางคนเลือดกำดาวไหล ส่วนคนที่น่ากลัวที่สุดก็จะเป็นคุณยายชาวไทยที่ปากซีดจนกลายเป็นสีม่วง พวกเราเลยเดินเอาช็อกโกแล็ตไปให้ เพราะความหวานจะช่วยบรรเทาอาการแพ้ที่สูงได้ พร้อมบอกให้สูดออกซิเจนกระป๋องให้เยอะๆ จะได้รู้สึกดีขึ้น
เทือกเขาสี่ดรุณี ที่มียอดสูงเรียงกัน 4 ยอด ประกอบด้วย
ต้ากูเหนียงเฟิง (Daguniang Feng) พี่สาวคนโต มียอดสูง 5,025 เมตร
เอ้อร์กูเหนียงเฟิง (Erguniang Feng) พี่สาวคนที่สอง มียอดสูง 5,276 เมตร
ซานกูเหนียงเฟิง (Sanguniang Feng) พี่สาวคนที่สาม มียอดสูง 5,355 เมตร
เหยาเหม่ยเฟิง (Yaomei Feng) น้องสาวคนเล็ก มียอดสูงที่สุด 6,250 เมตร
จุดที่ 2 : ปู้ต่าลาเฟิง หรือ Potala Peak
ระดับความสูง 3,733 เมตร/ อุณหภูมิ 5-12 องศา เดือนพฤษาคม
จุดนี้เป็นมุมโปรดของคนที่อยากได้รูปสวยๆเหมือนโปสการด์ ตรงนี้จะมีถนนลาดยางสายยาวที่เบื้องหลังเป็นเทือกเขาสี่ดรุณี กลุ่มนักท่องเที่ยวที่อยากได้รูปไว้ประดับโซเชียล ก็จะวิ่งไปแอ็คท่าถ่ายรูปตรงกลางถนน รถบัสที่ขับขึ้นลงก็คอยบีบแตรไล่ แต่ก็เหมือนจะรู้กันว่าไม่ได้ไล่จริง แค่ขอทางหน่อย เพราะพอรถวิ่งผ่านไป นักท่องเที่ยวก็จะกรูมาถ่ายรูปกันใหม่ ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก ดูแล้วก็ตลกดี
ส่วนเราเล็งแล้วว่า มุมนั้นมหาชนเกินไป เลยเลือกมุมใหม่ นั่งอยู่ริมถนน ปลอดภัยและก็ได้ภาพใกล้เคียง ไว้อวดชาวโลกว่าเรามาพิชิตแล้วนะ … สี่ดรุณี
จุดที่ 5 : ทะเลสาบหลงจูชั่ว– Long Zhu Cuo
ระดับความสูง 3,490 เมตร/ อุณหภูมิ 5-12 องศา เดือนพฤษาคม
เราข้ามจุดแวะที่ 3 กับ 4 และตรงมาจุดที่ 5 เลย เพื่อเก็บภาพทะเลสาบหลงจูชั่วขนาดใหญ่ ที่มีต้นไม้ตายอยู่กลางทะเลสาบ กลายเป็นภาพแห่งความเวิ้งว้าง และเหงาสุดหัวใจของทริปนี้
จุดที่ 7 : เหรินเซินกั่วผิง– RenShen GuoPing
ระดับความสูง 3,300 เมตร/ อุณหภูมิ 5-12 องศา เดือนพฤษาคม
เราข้ามจุดที่ 6 ซึ่งเป็นร้านอาหารและคาเฟ่ เพราะกินข้าวเที่ยงมาก่อนหน้าแล้ว และตรงมาจุดที่ 7 ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายของรถบัส
ตรงนี้จะมีฝูงจามรียืนกินหญ้าอย่างมีความสุขท่ามกลางเทือกเขาสูง พวกเราอยากได้รูปแบบใกล้ชิด เลยเดินฝ่าดงอุนจิของเจ้าจามรีไปใกล้ๆ ทุกตัวดูคุ้นเคยกับมนุษย์ แต่ก็รักษาระยะห่าง เพราะเมื่อเราเดินเข้าไปใกล้มากๆ เจ้าจามรีก็จะเริ่มส่งสายตาแรงส์ และ บางตัวทำท่าทางหงุดหงุดแล้วเดินหนีไป สุดท้ายก็ได้ภาพใกล้ชิดที่ยังห่าง แต่ก็มีความสุขแล้วค่ะ
ก่อนอำลาสี่ดรุณี ท้องเริ่มร้องด้วยความหิว เลยแวะซื้อไส้กรอกปิ้งหน้าอุทยานมากิน คนขายปิ้งให้ใหม่ร้อนๆ และทาซอสเคลือบไส้กรอกสองสามรอบ กินคำแรกก็ถูกใจ อร่อย รสอูมามิ เลยภูมิใจนำเสนอให้ลองชิมกัน ถือเป็นการปิดทริปสี่ดรุณีด้วยของอร่อย อิ่มเอมทั้งกายและใจ
จากนี้เราจะมุ่งหน้าต่อไปยังที่พักหน้าอุทยานปี้เผิงโกว นั่งรถประมาณ 2 ชั่วโมงจากสี่ดรุณี คืนนี้เราจะเข้าพักในโรงแรม Chushan Mingjing Hot Spring Resort ของคนจีน ที่เพจคนไทยเที่ยวเฉิงตูแนะนำมา และกินอาหารเย็นกันที่นั่นเลยค่ะ
Related Posts: