ทริปครอบครัว : เขาค้อ 4 วัน 3 คืน (24 – 27 สิงหาคม 2566)

ทริปครอบครัวครั้งนี้ เป็น Road Trip เที่ยวไทยครั้งแรกของเด็กๆ และถึงแม้จะบ่นว่าเบื่อเพราะต้องนั่งรถนาน แต่เราก็เชื่อว่า ภาพเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ความสนุกและเสียงหัวเราะของทริปนี้ จะอยู่ในความทรงจำของเด็กๆตลอดไป ส่วนคุณยายแฮปปี้ที่สุดอยู่แล้วค่ะ เพราะได้เจอทั้งอากาศเย็นสบาย กินอาหารอร่อย และชมดอกไม้เมืองหนาวอย่างที่โปรดปราน

Day 1

8.30 น. 

ออกเดินทางจากกรุงเทพไปสู่เขาค้อ จ. เพชรบูรณ์ เปิด Google Map และขับรถตามเส้นทางที่แนะนำ ไปบนถนนหมายเลข 21 ผ่านสระบุรี ลพบุรี และเข้าเพชรบูรณ์ ก่อนจะเปลี่ยนไปยังสาย 2196 ใช้เวลา

ประมาณ 5 ชั่วโมง 30 นาที สภาพของถนนดีมาก ให้ A+ รถบรรทุกน้อย แต่แนะนำให้เข้าห้องน้ำกับสต๊อกขนมตรงสระบุรี เพราะเส้นทางหลังจากนั้น จะมีจุดจอดปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่น้อย

11.30 น.    

แวะกินมื้อเที่ยงที่ร้านไก่ย่างตาแป๊ะ ชิมไก่ย่างวิเชียรบุรีฉบับต้นตำรับ ไก่บ้านหมักด้วยสมุนไพรเข้าเนื้อ กลิ่นหอม อร่อย ร้านนี้ขายอาหารอีสาน สั่งไก่ย่างคู่กับส้มตำ ลาบ และลาบตับ อิ่มอร่อยทุกคน

15.00 น.

ถึง เขาค้อ เช็คอินคืนแรกที่ The Blue Sky Resort ให้คุณยายได้พักผ่อน ยืดเส้น ยืดสาย ก่อนจะออกไปชม สวนดอกไม้เมืองหนาว และกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารของรีสอรต์  (บล็อก The Blue Sky Resort)

Day 2

7.00 น.  

ตื่นเช้ามารับลมเย็น ดูสายหมอกบนยอดดอย และไปกินอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ตอนสายๆ อากาศยังเย็นสบาย อุณภูมิประมาณ 22 องศาจริงๆ ในเดือนสิงหาคม

9.30 น.  

ขับรถไปเที่ยวบนถนนสาย 2196 เริ่มจากไปรษณีย์เขาค้อ ดูจุดชมวิวหลังไปรษณีย์ที่มีหมอกช่วง 6-7 โมงเช้าและขับรถย้อนกลับมาเก็บแหล่งท่องเที่ยวบนถนนสาย 2196

เริ่มด้วย Amazing Dinosaur พาหลานชายไปดูไดโนเสาร์ ต่อด้วยทุ่งกังหันลม ก่อนจะแวะซื้อของฝาก ที่ไร่ บี เอ็น ใช้เวลาเที่ยวรวมกันประมาณ​ 3 ชั่วโมง ทันกลับไปเช็คเอ้าท์ที่โรงแรมประมาณ 12.30 น.

Amazing Dinosaur

ทุ่งกังหันลมเขาค้อ (Khao Kho Windmill Field)

เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าและแหล่งท่องเที่ยวของเขาค้อ มีกังหันลมต้นใหญ่สูง 100 เมตร ใบพัดยาว 60 เมตร จำนวน 24 ต้น กระจายตัวอยู่บนยอดเขา ไม่อนุญาติให้เข้าไปถ่ายรูปด้านใน เลยต้องใช้บริการรถรับส่งที่จอดตามจุดท่องเที่ยวตามแนวทุ่งกังหันลม เพื่อให้ได้ถ่ายรูปใกล้ๆมากที่สุด

ไร่ บี เอ็น และ Taproot Café ซื้อของฝากจากท้องถิ่นกลับไปกรุงเทพ

12.30 น.

กลับถึง The Blue Sky Resort และเช็คเอ้าท์

13.00 น.          

กินมื้อเที่ยงที่ Pino Latte ร้านอาหาร คาเฟ่ และจุดชมวิวสูงที่สุดแห่งหนึ่งของเขาค้อ ก๋วยเตี๋ยวเรือหม้อไฟ กับขนมเค้กสุดของ Pino Latte อร่อยมากค่ะ

14.30 น.      

เช็คอินที่ Villa Pason และพักผ่อนตลอดช่วงบ่าย แช่ออนเซ็น ถีบเป็ด และดินเนอร์ที่ห้องอาหารของโรงแรม ซึมซับมวลอากาศเย็นสบาย และความเงียบที่ดังที่สุดของป่าสน (บล็อก Villa Pason)

Day 3

7.00 น.   

ปลุกหลานๆ ลุกขึ้นมาตามล่าหาหมอก … ขับรถขึ้นไปยัง Pino Latte ที่อยู่ห่างจาก Villa Pason เพียง 5 นาที ถ่ายรูป และยืนมองหมอกที่ยอดดอยจนอิ่ม ก่อนจะขับรถไล่ตามหมอกไปตลอดแนวเขา มาทั้งทีต้องเห็นให้เต็มตาก่อนกลับบ้านค่ะ

8.30 น.       

กลับมากินอาหารเช้าที่โรงแรม เช้านี้ลมแรงหน่อย เลยพาคุณยายเข้าไปนั่งหลบลมอยู่คาเฟ่ด้านใน และพักผ่อนชิลๆที่ห้อง สูดหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด

11.00 น.

ออกไปเที่ยววัดผาซ่อนแก้ว และเจดีย์พระธาตุผาแก้ว อากาศเย็นสบายประมาณ 26 องศา เดินชมกลางแจ้งก็ยังไม่ร้อน และไม่มีเหงื่อเลยค่ะ

“มหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์”

พระพุทธรูปสีขาวซ้อนกัน 5 องค์ ปางสมาธิบนฐานช่อบัว ตั้งตระหง่านโดดเด่นท่ามกลางวิวภูเขา

“เจดีย์พระธาตุผาแก้ว”

ตกแต่งด้วยถ้วยกระเบื้องและหินสีต่าง ๆ บริเวณใต้ฐานเจดีย์เก็บรวบรวมเก็บธรรมะ คำสอน ภาพปริศนาธรรม แนะนำให้เดินขึ้นไปบนยอดเจดีย์ จะได้ชมวิวสวยของวัดผาซ่อนแก้วค่ะ

13.00 น.

กินมื้อเที่ยงที่ตั๊กม้อ หรือโรงเตี๊ยมสุดขอบฟ้า กับอาหารจีนยูนนาน อาหารพื้นถิ่นของชาวม้งที่อพยพมาอยู่ ในบริเวณนี้ อาหารอร่อยค่ะ ขาหมูดีงาม รสชาติถูกปากทุกคนในครอบครัว

14.30 น.

ขับรถลงจากดอยประมาณ 15 นาทีไปที่ตลาดราชมังคลา ให้คุณยายได้ซื้อของฝากญาติๆที่กรุงเทพ

15.30 น.

กลับมาที่โรงแรม และทยอยๆ แพ็คของ ตอนเย็นสั่งอาหารจากร้านในเขาค้อมาส่งที่ Villa Pason กลางคืนเล่นไพ่ Uno ในห้องใต้หลังคา เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

 

Day 4

8.30 น.        

เช้านี้ลมพัดเบาๆ นั่งกินอาหารเช้าในรังนก ชมวิวเขาค้อ และเชียร์กาแฟ + ช็อกโกแล็ต ของ Starbucks ก่อนกลับกรุงเทพ

9.30 น.   

ขากลับใช้เส้นทางใหม่ ผ่านพิษณุโลก แวะสักการะพระพุทธชินราช

16.30 น.   

ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ