ทันทีที่หนังสือ “เซียนฮ่องกง” วางแผง ชีวิตฉันก็เปลี่ยนไป จากชื่อเล่นว่า “จูน” ก็กลายเป็น “เซียนจูน” ชื่อใหม่ที่เพื่อนๆเรียกกันสนุกปาก
ห้าปีผ่านมา ฉันยังคงเดินทางบนเส้นทางนี้อย่างไม่เบื่อหน่าย และมักกลับไปเที่ยวเมืองที่เขียนถึงอยู่เนื่องๆ ซึ่งหนึ่งในนั้น แน่นอนว่าเป็น “ฮ่องกง” ที่เราทั้งสองมีฉากประทับใจด้วยกันอยู่หลายฉากเลยทีเดียว
“ฮ่องกง” เป็นเมืองใหญ่ ที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เล็ก ครอบครัวเราไปเที่ยวฮ่องกงกันทุกปี จนกลายเป็นว่า ถ้าปีไหนไม่ได้ไป เหมือนชีวิตจะขาดอะไรไปบางอย่าง
และเมื่อตัดสินใจเขียนหนังสือเล่มนี้ ฉันก็ได้กลับไปฮ่องกงอีกหลายครั้ง แต่การไปในครั้งหลังนี้ มีจุดหมายมุ่งหมายคนละอย่าง ฉันจะอยู่ฮ่องกงนานขึ้น บางครั้งเกือบ 2 อาทิตย์ เพื่อทำความรู้จักเมืองเล็กที่ใจใหญ่แห่งนี้ให้สนิทสนม จนกลั่นออกมาเป็นหนังสือให้คนอ่านได้เดินตามรอยกันได้
10 ฉากประทับใจที่รวบรวมมานี้ เคยเผยแพร่เป็นตอนๆในแฟนเพจเซียนฮ่องกง ซึ่งฉันก็หวังว่าฉากประทับใจที่นำมาบอกเล่ากัน คงจะเปิดฮ่องกงในมุมมองใหม่กันได้สัมผัสกันบ้างค่ะ
No.10 “Canton Road…5th Avenue of Hong Kong”
ถนนแคนตอนที่ถอดยาวเรียบด้านหน้าศูนย์การค้าฮาร์เบอร์ซิตี้ เดิมทีมีชื่อว่า MacDonnell Road ก่อนจะเปลี่ยนเป็น Canton Road ในปี 1909
ในอดีตถนนเส้นนี้มีเพียงศูนย์การค้าฮาร์เบอร์ซิตี้เป็นหัวเรือใหญ่ โดยมีฝั่งตรงข้ามเป็นดงร้านอาหารอร่อย ทั้งโจ๊ก และอาหารจีนเลื่องชื่อ
กาลเวลาผ่านไป พื้นที่สำหรับร้านอาหารอร่อยร่อยหรอยลงไปทุกที เปลี่ยนหน้าตาเป็นถนนช็อปปิ้งเต็มรูปแบบทั้งสองข้างทาง
ทั้งหัวและท้ายถูกคุมเชิงด้วยสองศูนย์การค้าใหญ่ 1881 Heritage และ China Hong Kong City In Town Outlet เอ๊าเล็ตใหญ่ใจกลางเมือง
เหลือที่ตรงกลางให้กลายเป็น Superbrand Road ที่มีหน้าร้านสวยงามของแบรนด์ดังระดับโลก Chanel, Hermes, Louis Vuitton, Gucci, Prada และอื่นๆอีกมากมาย … และในวันนี้ก็คงจะไม่เกินจริงนักหากจะบอกว่า Canton Road ได้กลายเป็น 5th Avenue of Asia ไปเสียแล้ว
ที่ตั้ง Canton Road, Tsim Sha Tsui
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Tsim Sha Tsui
No.9 “Yui Wa Street … เล็กพริกขี้หนู”
Yui Wa Street เป็นถนนเส้นเล็กและสั้น ยามเช้าจะดูหงอยเหงาและหลอนด้วยร้างผู้คน ต่างกับยามสายและค่ำคืนที่ร้านค้า ร้านอาหาร จะทยอยเปิดตัว
ชีวิตคนเมืองเริ่มพลุกพล่านขึ้นมาต่างจากหัววัน
ในช่วง 2-3 ปีหลัง แบรนด์ท้องถิ่น และร้านวินเทจต่างเข้ามาจับจองพื้นที่บนถนนสายนี้กันมากหน้าหลายตา เช่น Shoes Girl, aalis, DYOS, Silly Wardrobe และ Walter Ma ดีไซนเนอร์ชื่อดังของฮ่องกง
เช่นเดียวกับร้านอาหารที่มีให้เลือกมากมายทั้งอาหารญี่ปุ่น ผับ บาร์ และคาเฟ่ชื่อดังของกลุ่ม Caffee Habitu หรือที่รู้จักกันในนาม The Coffee Academic ร้านกาแฟที่กลั่นกาแฟกันสดๆจากหลอดทดลองทางวิทยาศาสตร์ ก็ตั้งอยู่ปลายถนนเส้นนี้ค่ะ
ที่ตั้ง Yui Wa Street ตั้งอยู่ใกล้กับ Times Square
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Causeway Bay
เปิด ปิด ประมาณ 11.00/12.00-21.00 น. ทุกวัน
No.8 “Star Ferry…..ความจริงที่ควรรู้”
2 เป็นเส้นทางของเรือเฟอร์รี่ที่วิ่งระหว่างเกาะฮ่องกง และฝั่งเกาลูน
12 เป็นจำนวนของเรือข้ามฟากที่ให้บริการในปัจจุบัน
126 เป็นจำนวนปีที่เรือข้ามฟากในตำนานนี้เปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไป
70,000 เป็นจำนวนคนที่ใช้บริการเฉลี่ยต่อวัน
และ
26,000,000 เป็นจำนวนคนต่อปีที่เรือข้ามฟากสองชั้นนี้ให้บริการอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ที่ตั้ง ท่าขึ้นเรือ Central Star Ferry Pier และ Tsim Sha Tsui Star Ferry Pier
ราคาตั๋ว 2 เหรียญสำหรับวันธรรมดา และ 2.8 เหรียญสำหรับวันเสาร์และอาทิตย์
No.7 “Good Wish Garden…มุมสงบ ย้อนวันเวลา”
ความศรัทธาและอาณุภาพของวัดหวังต้าเซียน เป็นความจริงที่หลายคนได้ประจักษ์ แต่นอกจากการไปสักการะขอพรให้กับตัวเราและคนที่รักแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีสวนจีนที่งดงาม “Good Wish Garden” ตั้งอยู่ด้านหลังอีกด้วยค่ะ … ศาลาจีนสีแดงตัดกับหลังคาสีเขียว สระน้ำสีมรกตและแมกไม้ที่รายรอบทำให้มุมนี้กลายเป็นมุมสงบที่โปรดปรานของเราทั้งสองคน
หากแวะไปสักการะครั้งหน้า ลองหยุดชม และหายใจวันเวลาของอดีตกาลในสวนจีนแห่งนี้ด้วยนะคะ
ที่ตั้ง 2 Chuk Yuen Village
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Wong Tai Sin Station, Exit B2
เปิด ปิด วัดเปิด 7.00-17.30 น. ทุกวัน และสวนเปิด 9.00-17.00 น. ทุกวัน
No.6 “Caroline Hill…ภาพลวงตา”
ซอยเล็กๆและอาคารเก่าๆ ดูไร้ชีวิตชีวาสายนี้ แท้จริงแล้วเป็นขุมทรัพย์ความอร่อยของเกาะฮ่องกงเลยเชียวค่ะ
ร้านอาหารบน Caroline Hill อาจไม่ใช่ร้านดั้งเดิม ขายติ่มซำ หรือเป็ดย่างหมูแดงอย่างที่ซอกแซกหากัน แต่เป็นร้านกึ่งนานาชาติ ที่เริ่มด้วย Danish Bakery กับแฮมเบอร์เกอร์สไตล์ฮ่องกงที่ต้นซอย ก่อนจะต่อด้วย Ramen Jo ราเมงมิชิลิน และ Burger Room อีกร้านเบอร์เกอร์ ที่หนุ่มสาวฮ่องกงหลงรัก
ที่สำคัญบริเวณนี้ยังใกล้กับ Haven Street ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านไอศกรีมอร่อย Via Tokyo และผับ บาร์ชื่อดังอีกมากมาย
รู้แล้ว ก็ลองแวะไปอิ่มอร่อยกันได้นะ
ที่ตั้ง Causeway Bay
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Causeway Bay
No.5 “Lab Concept…สาวเปรี้ยวแห่งฮ่องกง”
ทุกครั้งที่ไปฮ่องกง เราอดใจไม่ได้ ต้องแวะไปเดินเล่นที่ Lab Concept ทุกครั้งไป
ที่นี่มีสินค้าครบทุกอารมณ์ ทั้งเปรี้ยว เก๋ น่ารักและทันสมัยคล้ายนางแบบสาว Cara Delevingne ที่กำลังดังอยู่บนรันเวย์
แบรนด์ดังมีทั้ง Topshop, Free People, Amika ก่อนจะปิดด้วยแผนกกระเป๋ารองเท้าที่เก๋สะบัดจากทีมงาน Lane Crawford
ร้านอาหารและคาเฟ่ในศูนย์นี้ก็ยังน่านั่ง ตั้งแต่ Arome Bakery Room, Crystal Jade, Ippudo และ Simplylife คาเฟ่ดังที่ หนุ่มสาวฮ่องกงโปรดปราน
แวะไปฮ่องกงครั้งหน้า ลองสละเวลาจากจิมซาโจ๋ย โชยไปโชยมาแถวๆนี้บ้างนะคะ
ที่ตั้ง 2/F, Queensway Plaza, 93 Queensway, Hong Kong
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Admiralty
เปิด ปิด 10.00-21.00 น. ทุกวัน
No.4 “Ozone Bar…เอื้อมฟ้า คว้าดาว”
บาร์แห่งนี้พิชิตสถิติบาร์สูงที่สุดในโลก บนชั้น 118 ของโรงแรมริตซ์คาร์ตั้นค่ะ
ความสูงมิใช่เพียงไฮไลท์เดียวของที่นี่ เพราะการตกแต่งที่งดงามดังสวนสวรรค์ของอีเดนทำให้ Ozone Bar กลายเป็นบาร์หนึ่งเดียว
ที่น่าประทับใจ
ณ ลานกว้างด้านนอก เรายังชะโงกเห็นวิวของอ่าววิคทอเรียรอบด้าน ตึกใหญ่กลายเป็นตึกจิ๋ว ดูแปลกตามากกว่ามุมใดๆ
ค๊อกเทลและ Bar Food ก็ของที่นี่ก็เลิศรส จึงกลายเป็นโมเม็นต์ประทับใจของเราอย่างไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ
ที่ตั้ง ชั้น 118 The Ritz Carlton, International Commerce Centre (ICC)
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Kowloon
เปิด ปิด 17.00-01.00 น. ทุกวัน
No.3 “POHO…มุมสงบที่กิ๊บเก๋”
POHO ย่อมาจาก Po Hing Fong บริเวณที่พักอาศัยเงียบสงบ ในย่าน Sheung Wan (เชิง หว่าน) ค่ะ
จะเรียกว่าบริเวณนี้เป็นคลื่นลูกที่สองต่อจาก SOHO ก็น่าจะเรียกได้ เพราะเมื่อ SOHO (South of Hollywood Road) นั้นเติบใหญ่จนกลายเป็นถนนการค้า หลายร้านอาหาร และร้านขายของเก๋ๆ ที่หลงรักความสงบต่างก็เฟ้นหาที่อยู่ใหม่ ซึ่งก็ไม่ไกลจากเดิมนัก
ปัจจุบัน POHO มีร้านเบเกอร์รี่ชื่อดัง Po’s Atelier และคาเฟ่อร่อยอยู่หลายร้าน อาทิ Cafe Loisl และ Teakha …
ตอนที่เดินเล่นในย่านนี้ เรายังได้เห็นวิถีชีวิตของคนฮ่องกง ลานบาสเก็ตบอลกลางชุมชนและเด็กหนุ่มทั้งหลาย ร้านกาแฟดั้งเดิม และเหล่าคุณลุงที่จับกลุ่มรวมตัวกันเป็นสมาคมย่อมๆ … เป็นอารมณ์สบายๆที่ไม่เร่งรีบของเมืองยุ่งเหยิงแห่งนี้ค่ะ
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Shueng Wan
No.2 “Tai Hang…โลกเก่าที่ยังหมุนไปในโลกใหม่”
ทุกครั้งที่ไปฮ่องกง เรามักเสาะแสวงหา ย่านใหม่ๆมาให้ใจชื่นฉ่ำ Tai Hang หรือถ๋าย ฮ่าง เป็นย่านที่ได้ยินชื่อเสียงมาเนิ่นนาน แต่เพิ่งจะลองย่างเท้าไปสำรวจอย่างจริงจังเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว
บริเวณนี้รายล้อมไปด้วยห้องแถวและที่พักเก๋ากึกของชาวฮ่องกง … ให้ความรู้สึกดังย้อนเวลากลับไปฮ่องกงเมื่อครั้งสร้างเมือง
หากในวันนี้ชั้นล่างของหลายอาคาร แปรเปลี่ยนเป็นร้านอาหารอร่อย ทุกๆเย็น หนุ่มสาวฮ่องกงที่ทำงานในย่านคอสเวยเบย์มักแวะเวียนมาทานอาหารกันทีนี่ ทำให้ราตรีนี้สนุกสนานขึ้นทันควัน
ร้านอร่อยใน Tai Hang มีมากมาย เช่น Choi’s Kitchen, Lab Made Nitrogen Ice Cream … และอีกหลายร้านที่เอ่ยชื่อแล้วสาวๆจะกรี๊ดกร้าด เช่น Hello Kitty Secret Garden และ Ms B’s Cake ค่ะ
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Causeway Bay และ Tin Hau
เปิด ปิด ร้านอาหารมักเปิดช่วงเย็นตั้งแต่ 17.30 น. เป็นต้นไป
No.1 “Victoria Park…ฟอกปอด ละลายสายตา”
คอสเวย์เบย์เป็นย่านที่เราเลือกพักในเกือบทุกครั้งเมื่อมาฮ่องกงค่ะ และทุกเช้าอีกเช่นกันที่เรามักออกไปจ๊อกกิ้ง
ที่ Victoria Park สวนสาธารณะใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง
ยามเช้าที่อากาศสดชื่น กลุ่มเสื้อหลากสี คุณลุง คุณป้าจะรวมตัวเต้นรำตามจังหวะเพลงกันอย่างสนุกสนาน
เช่นเดียวกับกลางสวนเขียวขจีที่จะกลายเป็นลานกว้างรำไทเก็กที่มีวิวเทือกเขาของเหล่าอาคารโอบล้อม
จ๊อกกิ้งแทรคของที่นี่มีระยะทางประมาณ 700 เมตร พื้นวิ่งทำจากวัสดุนิ่มเพื่อให้เหมาะกับการวิ่งเหยาะๆ
วันไหนที่อากาศดี หนุ่มๆหลายคนยังมาเล่นเรือยนต์ลำเล็ก แข่งกันในบ่อน้ำขนาดย่อมของสวนอีกด้วยค่ะ …
แมกไม้ และเหล่าผู้คนภายในสวนแห่งนี้ หลอมหล่อมรวมกันเป็นประสบการณ์น่าประทับใจ
เผยวิถีชีวิตอีกด้านของชาวฮ่องกง ที่ต่างจากใจกลางเมืองโดยสิ้นเชิง และนี่จึงกลายเป็นฉากประทับใจอันดับหนึ่งของเราค่ะ
ที่ตั้ง 1 Hing Fat Street
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Causeway Bay หรือ Tin Hau
เปิด ปิด 24 ชั่วโมง
30 Oct 2014
0 Comments
เผยความใน … 10 ฉากประทับใจในฮ่องกง ของ “เซียนฮ่องกง”
ทันทีที่หนังสือ “เซียนฮ่องกง” วางแผง ชีวิตฉันก็เปลี่ยนไป จากชื่อเล่นว่า “จูน” ก็กลายเป็น “เซียนจูน” ชื่อใหม่ที่เพื่อนๆเรียกกันสนุกปาก
ห้าปีผ่านมา ฉันยังคงเดินทางบนเส้นทางนี้อย่างไม่เบื่อหน่าย และมักกลับไปเที่ยวเมืองที่เขียนถึงอยู่เนื่องๆ ซึ่งหนึ่งในนั้น แน่นอนว่าเป็น “ฮ่องกง” ที่เราทั้งสองมีฉากประทับใจด้วยกันอยู่หลายฉากเลยทีเดียว
“ฮ่องกง” เป็นเมืองใหญ่ ที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เล็ก ครอบครัวเราไปเที่ยวฮ่องกงกันทุกปี จนกลายเป็นว่า ถ้าปีไหนไม่ได้ไป เหมือนชีวิตจะขาดอะไรไปบางอย่าง
และเมื่อตัดสินใจเขียนหนังสือเล่มนี้ ฉันก็ได้กลับไปฮ่องกงอีกหลายครั้ง แต่การไปในครั้งหลังนี้ มีจุดหมายมุ่งหมายคนละอย่าง ฉันจะอยู่ฮ่องกงนานขึ้น บางครั้งเกือบ 2 อาทิตย์ เพื่อทำความรู้จักเมืองเล็กที่ใจใหญ่แห่งนี้ให้สนิทสนม จนกลั่นออกมาเป็นหนังสือให้คนอ่านได้เดินตามรอยกันได้
No.10 “Canton Road…5th Avenue of Hong Kong”
ถนนแคนตอนที่ถอดยาวเรียบด้านหน้าศูนย์การค้าฮาร์เบอร์ซิตี้ เดิมทีมีชื่อว่า MacDonnell Road ก่อนจะเปลี่ยนเป็น Canton Road ในปี 1909
ในอดีตถนนเส้นนี้มีเพียงศูนย์การค้าฮาร์เบอร์ซิตี้เป็นหัวเรือใหญ่ โดยมีฝั่งตรงข้ามเป็นดงร้านอาหารอร่อย ทั้งโจ๊ก และอาหารจีนเลื่องชื่อ
กาลเวลาผ่านไป พื้นที่สำหรับร้านอาหารอร่อยร่อยหรอยลงไปทุกที เปลี่ยนหน้าตาเป็นถนนช็อปปิ้งเต็มรูปแบบทั้งสองข้างทาง
ทั้งหัวและท้ายถูกคุมเชิงด้วยสองศูนย์การค้าใหญ่ 1881 Heritage และ China Hong Kong City In Town Outlet เอ๊าเล็ตใหญ่ใจกลางเมือง
เหลือที่ตรงกลางให้กลายเป็น Superbrand Road ที่มีหน้าร้านสวยงามของแบรนด์ดังระดับโลก Chanel, Hermes, Louis Vuitton, Gucci, Prada และอื่นๆอีกมากมาย … และในวันนี้ก็คงจะไม่เกินจริงนักหากจะบอกว่า Canton Road ได้กลายเป็น 5th Avenue of Asia ไปเสียแล้ว
ที่ตั้ง Canton Road, Tsim Sha Tsui
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Tsim Sha Tsui
No.9 “Yui Wa Street … เล็กพริกขี้หนู”
Yui Wa Street เป็นถนนเส้นเล็กและสั้น ยามเช้าจะดูหงอยเหงาและหลอนด้วยร้างผู้คน ต่างกับยามสายและค่ำคืนที่ร้านค้า ร้านอาหาร จะทยอยเปิดตัว
ชีวิตคนเมืองเริ่มพลุกพล่านขึ้นมาต่างจากหัววัน
ในช่วง 2-3 ปีหลัง แบรนด์ท้องถิ่น และร้านวินเทจต่างเข้ามาจับจองพื้นที่บนถนนสายนี้กันมากหน้าหลายตา เช่น Shoes Girl, aalis, DYOS, Silly Wardrobe และ Walter Ma ดีไซนเนอร์ชื่อดังของฮ่องกง
เช่นเดียวกับร้านอาหารที่มีให้เลือกมากมายทั้งอาหารญี่ปุ่น ผับ บาร์ และคาเฟ่ชื่อดังของกลุ่ม Caffee Habitu หรือที่รู้จักกันในนาม The Coffee Academic ร้านกาแฟที่กลั่นกาแฟกันสดๆจากหลอดทดลองทางวิทยาศาสตร์ ก็ตั้งอยู่ปลายถนนเส้นนี้ค่ะ
ที่ตั้ง Yui Wa Street ตั้งอยู่ใกล้กับ Times Square
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Causeway Bay
เปิด ปิด ประมาณ 11.00/12.00-21.00 น. ทุกวัน
No.8 “Star Ferry…..ความจริงที่ควรรู้”
2 เป็นเส้นทางของเรือเฟอร์รี่ที่วิ่งระหว่างเกาะฮ่องกง และฝั่งเกาลูน
12 เป็นจำนวนของเรือข้ามฟากที่ให้บริการในปัจจุบัน
126 เป็นจำนวนปีที่เรือข้ามฟากในตำนานนี้เปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไป
70,000 เป็นจำนวนคนที่ใช้บริการเฉลี่ยต่อวัน
และ
26,000,000 เป็นจำนวนคนต่อปีที่เรือข้ามฟากสองชั้นนี้ให้บริการอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ที่ตั้ง ท่าขึ้นเรือ Central Star Ferry Pier และ Tsim Sha Tsui Star Ferry Pier
ราคาตั๋ว 2 เหรียญสำหรับวันธรรมดา และ 2.8 เหรียญสำหรับวันเสาร์และอาทิตย์
No.7 “Good Wish Garden…มุมสงบ ย้อนวันเวลา”
ความศรัทธาและอาณุภาพของวัดหวังต้าเซียน เป็นความจริงที่หลายคนได้ประจักษ์ แต่นอกจากการไปสักการะขอพรให้กับตัวเราและคนที่รักแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีสวนจีนที่งดงาม “Good Wish Garden” ตั้งอยู่ด้านหลังอีกด้วยค่ะ … ศาลาจีนสีแดงตัดกับหลังคาสีเขียว สระน้ำสีมรกตและแมกไม้ที่รายรอบทำให้มุมนี้กลายเป็นมุมสงบที่โปรดปรานของเราทั้งสองคน
หากแวะไปสักการะครั้งหน้า ลองหยุดชม และหายใจวันเวลาของอดีตกาลในสวนจีนแห่งนี้ด้วยนะคะ
ที่ตั้ง 2 Chuk Yuen Village
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Wong Tai Sin Station, Exit B2
เปิด ปิด วัดเปิด 7.00-17.30 น. ทุกวัน และสวนเปิด 9.00-17.00 น. ทุกวัน
No.6 “Caroline Hill…ภาพลวงตา”
ซอยเล็กๆและอาคารเก่าๆ ดูไร้ชีวิตชีวาสายนี้ แท้จริงแล้วเป็นขุมทรัพย์ความอร่อยของเกาะฮ่องกงเลยเชียวค่ะ
ร้านอาหารบน Caroline Hill อาจไม่ใช่ร้านดั้งเดิม ขายติ่มซำ หรือเป็ดย่างหมูแดงอย่างที่ซอกแซกหากัน แต่เป็นร้านกึ่งนานาชาติ ที่เริ่มด้วย Danish Bakery กับแฮมเบอร์เกอร์สไตล์ฮ่องกงที่ต้นซอย ก่อนจะต่อด้วย Ramen Jo ราเมงมิชิลิน และ Burger Room อีกร้านเบอร์เกอร์ ที่หนุ่มสาวฮ่องกงหลงรัก
ที่สำคัญบริเวณนี้ยังใกล้กับ Haven Street ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านไอศกรีมอร่อย Via Tokyo และผับ บาร์ชื่อดังอีกมากมาย
รู้แล้ว ก็ลองแวะไปอิ่มอร่อยกันได้นะ
ที่ตั้ง Causeway Bay
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Causeway Bay
No.5 “Lab Concept…สาวเปรี้ยวแห่งฮ่องกง”
ทุกครั้งที่ไปฮ่องกง เราอดใจไม่ได้ ต้องแวะไปเดินเล่นที่ Lab Concept ทุกครั้งไป
ที่นี่มีสินค้าครบทุกอารมณ์ ทั้งเปรี้ยว เก๋ น่ารักและทันสมัยคล้ายนางแบบสาว Cara Delevingne ที่กำลังดังอยู่บนรันเวย์
แบรนด์ดังมีทั้ง Topshop, Free People, Amika ก่อนจะปิดด้วยแผนกกระเป๋ารองเท้าที่เก๋สะบัดจากทีมงาน Lane Crawford
ร้านอาหารและคาเฟ่ในศูนย์นี้ก็ยังน่านั่ง ตั้งแต่ Arome Bakery Room, Crystal Jade, Ippudo และ Simplylife คาเฟ่ดังที่ หนุ่มสาวฮ่องกงโปรดปราน
แวะไปฮ่องกงครั้งหน้า ลองสละเวลาจากจิมซาโจ๋ย โชยไปโชยมาแถวๆนี้บ้างนะคะ
ที่ตั้ง 2/F, Queensway Plaza, 93 Queensway, Hong Kong
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Admiralty
เปิด ปิด 10.00-21.00 น. ทุกวัน
No.4 “Ozone Bar…เอื้อมฟ้า คว้าดาว”
บาร์แห่งนี้พิชิตสถิติบาร์สูงที่สุดในโลก บนชั้น 118 ของโรงแรมริตซ์คาร์ตั้นค่ะ
ความสูงมิใช่เพียงไฮไลท์เดียวของที่นี่ เพราะการตกแต่งที่งดงามดังสวนสวรรค์ของอีเดนทำให้ Ozone Bar กลายเป็นบาร์หนึ่งเดียว
ที่น่าประทับใจ
ณ ลานกว้างด้านนอก เรายังชะโงกเห็นวิวของอ่าววิคทอเรียรอบด้าน ตึกใหญ่กลายเป็นตึกจิ๋ว ดูแปลกตามากกว่ามุมใดๆ
ค๊อกเทลและ Bar Food ก็ของที่นี่ก็เลิศรส จึงกลายเป็นโมเม็นต์ประทับใจของเราอย่างไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ
ที่ตั้ง ชั้น 118 The Ritz Carlton, International Commerce Centre (ICC)
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Kowloon
เปิด ปิด 17.00-01.00 น. ทุกวัน
No.3 “POHO…มุมสงบที่กิ๊บเก๋”
POHO ย่อมาจาก Po Hing Fong บริเวณที่พักอาศัยเงียบสงบ ในย่าน Sheung Wan (เชิง หว่าน) ค่ะ
จะเรียกว่าบริเวณนี้เป็นคลื่นลูกที่สองต่อจาก SOHO ก็น่าจะเรียกได้ เพราะเมื่อ SOHO (South of Hollywood Road) นั้นเติบใหญ่จนกลายเป็นถนนการค้า หลายร้านอาหาร และร้านขายของเก๋ๆ ที่หลงรักความสงบต่างก็เฟ้นหาที่อยู่ใหม่ ซึ่งก็ไม่ไกลจากเดิมนัก
ปัจจุบัน POHO มีร้านเบเกอร์รี่ชื่อดัง Po’s Atelier และคาเฟ่อร่อยอยู่หลายร้าน อาทิ Cafe Loisl และ Teakha …
ตอนที่เดินเล่นในย่านนี้ เรายังได้เห็นวิถีชีวิตของคนฮ่องกง ลานบาสเก็ตบอลกลางชุมชนและเด็กหนุ่มทั้งหลาย ร้านกาแฟดั้งเดิม และเหล่าคุณลุงที่จับกลุ่มรวมตัวกันเป็นสมาคมย่อมๆ … เป็นอารมณ์สบายๆที่ไม่เร่งรีบของเมืองยุ่งเหยิงแห่งนี้ค่ะ
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Shueng Wan
No.2 “Tai Hang…โลกเก่าที่ยังหมุนไปในโลกใหม่”
ทุกครั้งที่ไปฮ่องกง เรามักเสาะแสวงหา ย่านใหม่ๆมาให้ใจชื่นฉ่ำ Tai Hang หรือถ๋าย ฮ่าง เป็นย่านที่ได้ยินชื่อเสียงมาเนิ่นนาน แต่เพิ่งจะลองย่างเท้าไปสำรวจอย่างจริงจังเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว
บริเวณนี้รายล้อมไปด้วยห้องแถวและที่พักเก๋ากึกของชาวฮ่องกง … ให้ความรู้สึกดังย้อนเวลากลับไปฮ่องกงเมื่อครั้งสร้างเมือง
หากในวันนี้ชั้นล่างของหลายอาคาร แปรเปลี่ยนเป็นร้านอาหารอร่อย ทุกๆเย็น หนุ่มสาวฮ่องกงที่ทำงานในย่านคอสเวยเบย์มักแวะเวียนมาทานอาหารกันทีนี่ ทำให้ราตรีนี้สนุกสนานขึ้นทันควัน
ร้านอร่อยใน Tai Hang มีมากมาย เช่น Choi’s Kitchen, Lab Made Nitrogen Ice Cream … และอีกหลายร้านที่เอ่ยชื่อแล้วสาวๆจะกรี๊ดกร้าด เช่น Hello Kitty Secret Garden และ Ms B’s Cake ค่ะ
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Causeway Bay และ Tin Hau
เปิด ปิด ร้านอาหารมักเปิดช่วงเย็นตั้งแต่ 17.30 น. เป็นต้นไป
No.1 “Victoria Park…ฟอกปอด ละลายสายตา”
คอสเวย์เบย์เป็นย่านที่เราเลือกพักในเกือบทุกครั้งเมื่อมาฮ่องกงค่ะ และทุกเช้าอีกเช่นกันที่เรามักออกไปจ๊อกกิ้ง
ที่ Victoria Park สวนสาธารณะใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง
ยามเช้าที่อากาศสดชื่น กลุ่มเสื้อหลากสี คุณลุง คุณป้าจะรวมตัวเต้นรำตามจังหวะเพลงกันอย่างสนุกสนาน
เช่นเดียวกับกลางสวนเขียวขจีที่จะกลายเป็นลานกว้างรำไทเก็กที่มีวิวเทือกเขาของเหล่าอาคารโอบล้อม
จ๊อกกิ้งแทรคของที่นี่มีระยะทางประมาณ 700 เมตร พื้นวิ่งทำจากวัสดุนิ่มเพื่อให้เหมาะกับการวิ่งเหยาะๆ
วันไหนที่อากาศดี หนุ่มๆหลายคนยังมาเล่นเรือยนต์ลำเล็ก แข่งกันในบ่อน้ำขนาดย่อมของสวนอีกด้วยค่ะ …
แมกไม้ และเหล่าผู้คนภายในสวนแห่งนี้ หลอมหล่อมรวมกันเป็นประสบการณ์น่าประทับใจ
เผยวิถีชีวิตอีกด้านของชาวฮ่องกง ที่ต่างจากใจกลางเมืองโดยสิ้นเชิง และนี่จึงกลายเป็นฉากประทับใจอันดับหนึ่งของเราค่ะ
ที่ตั้ง 1 Hing Fat Street
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Causeway Bay หรือ Tin Hau
เปิด ปิด 24 ชั่วโมง
Related Posts: