ความงดงามที่อ้างว้าง … ความอลังการแต่หนาวเหน็บ ความเย็นชาที่แฝงตัวอยู่ในปราสาทแห่งนี้ ทำให้ฉันสะดุดใจกับที่นี่มาก “Château de Chambord” หรือ ปราสาทชองบอร์ด แห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์
ย้อนกลับไปเมื่อเกือบห้าร้อยปีที่แล้ว กษัติย์หนุ่ม King Francis I ริเริ่มให้ก่อสร้างปราสาทแห่งนี้ เพื่อใช้เป็น บ้านพักสำหรับล่าสัตว์ กีฬาที่นิยมในหมู่คนชั้นสูง
King Francis I
ลุ่มแม่น้ำลัวร์ (Loire Valley) ผืนดินที่กว้างใหญ่กว่า 300 ตารางกิโลเมตร ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางประเทศฝรั่งเศส และไม่ไกลจากกรุงปารีส ถูกเลือกเป็นสถานที่ก่อสร้าง เคียงคู่กับปราสาทอื่นๆซึ่งมีอยู่ถึง 300 ปราสาทในผืนดิน ที่ฉันนิยามให้เป็นเมืองแห่งเทพนิยายอย่างแท้จริง
ท่ามกลางปราสาทนับร้อย Château de Chambord กลับโดดเด่นกว่าใครเพื่อน ด้วยขนาดใหญ่ที่สุด อาคารสูงถึง 156 เมตร หรือตึก 6 ชั้น บันได 77 แห่ง ปล่องไฟ 282 อัน ห้องพัก 426 ห้อง และสวนป่าใหญ่ที่สุดในยุโรปด้วยขนาด 5,440 เฮกเตอร์ ล้อมรอบด้วยกำแพงยาว 32 กิโลเมตร
ทว่า …
Château de Chambord กลับแทบจะไร้ผู้มาพักอาศัย แม้แต่ผู้ให้กำเนิด King Francis I ผู้ริเริ่มก่อสร้าง ก็เคยมาอาศัยเพียง 72 วัน และยังไม่เคยเห็นวันที่ปราสาทนี้สร้างเสร็จด้วยตาเลยสักครั้ง
Louise XIV หรือพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 บุตรชายของ King Francis I ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างจนปราสาทจนเสร็จสมบูรณ์ก็แวะมาเพียง 9 ครั้ง เว้นเสียแต่นักโทษการเมืองลี้ภัย Stanislaus Leszczynki กษัติย์ของโปแลนด์ ที่เคยอยู่ที่นี่ถึง 9 ปี
ภาพจากภายนอก Château de Chambord ดูยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรี ปราสาทสีขาวสะอาดตาทาบกับท้องฟ้าใส ทาวเวอร์หินกลมใหญ่ ดูหนักแน่น … ยอดแหลมของโดมทะยานเสียดฟ้า เป็นความอ่อนช้อยของงานศิลปะแบบฝรั่งเศส รวมกับศิลปะแบบ Renaissance ของอิตาลี ซึ่ง King Francis I ประทับใจและนำกลับมาปรับใช้ที่ปราสาทแห่งนี้
… ว่ากันว่าแม้แต่ Walt Disney นักฝันคนสำคัญของโลก ก็ยังประทับใจปราสาทหลังนี้จนนำไปสร้างเป็นต้นแบบของ เจ้าชายอสูรในนิทาน Beauty & The Beast
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
แต่เหตุไฉนจึงไม่มีใครอยู่ที่ปราสาทหลังนี้? คำตอบนี้ มีเฉลยอยู่ข้างในปราสาทค่ะ …
ทางเข้าชมปราสาทตั้งอยู่ด้านหลัง เช่นเดียวกับจุดขายตั๋ว และร้านขายของที่ระลึก
The Keep หรืออาคารสี่เหลี่ยมจตุรัสเป็นห้องสำคัญที่สุดของปราสาท เป็นศูนย์รวมจิตวิญญานของที่นี่ ห้องนี้มีรูปลักษณ์เหมือนเครื่องหมายบวก มีทางเดินแยกทั้งสี่ และมีบันไดวนอยู่เป็นศูนย์กลางของห้อง
หินอ่อนสีขาวภายในห้องส่งไอเย็นมาเป็นระยะๆ นี่ขนาดฤดูร้อนนะคะ ห้องยังเย็นได้ถึงเพียงนี้
ปล่องไฟมีอยู่มากมายภายในปราสาท หวังเพื่อให้ความอุ่นและคลายความหนาวเหน็บ
บันไดวนหินอ่อนสีขาวนี้ เป็นประติมากรรมที่ล้ำสมัยมากในยุคนั้น ทางขึ้นของบันไดมีสองทาง เวียนคู่ขนานกันไป แต่ไม่มีวันบรรจบกันได้
ไกด์สาวของเราเล่าว่า หลายคนเชื่อว่าบันไดนี้ออกแบบโดย Leonardo Da Vinci แขกคนสำคัญของ King Francis I และ ใช้เป็นทางขึ้นไปบนปราสาทของราชวงศ์แยกกับข้าราชบริพานที่ติดตาม
ชั้นสองของปราสาท ก็ยังคงเป็นห้องสีขาว เวิ้งว้าง เหมือนห้องร้าง ไอเย็นถูกตัวเราเป็นระยะๆ … เพดานหินอ่อนสีขาวสลักตัวหนังสือ F ซึ่งเป็นอักษรย่อ ของ King Francis I และตัว Salamander หรือกิ้งก่าที่เชื่อว่าเป็นสัตว์แข็งแรง เหนือธรรมชาติที่ทนต่อไฟได้ ซึ่ง Salamander เป็นสัตว์สัญลักษณ์ของ King Francis I ค่ะ
ลานกว้างของเทอเรส เป็นอีกมุมที่นักท่องเที่ยวเดินออกมาถ่ายรูป ยอดปราสาทปลายแหลม และวิวกว้างของสวน ยิ่งทำให้ที่นี่ดูไร้ชีวิตชีวา เป็นปราสาทที่อ้างว้างที่สุดที่เคยไปมา
ปัญหาหลักของปราสาทนี้อยู่ที่ความหนาวค่ะ …
ปราสาทสร้างอย่างสวยงาม แต่ไม่คำนึงถึงภูมิอากาศของประเทศฝรั่งเศส และถึงแม้จะมีปล่องไฟอยู่มากมาย มี Tapastry ให้ความอุ่น แต่ก็ยังไม่อบอุ่นเพียงพอที่มนุษย์จะอาศัยได้
อีกทั้งขนาดที่ใหญ่โตมโหราฬ ทำให้การเข้าพักในแต่ละครั้ง ต้องตระเตรียมกำลังคน ม้า สัตว์ และอาหารให้เพียงพอ ซึ่งเป็นความฟุ่มเฟื่อย และนำไปสู่การโค่นล้มราชวงศ์ของฝรั่งเศสในเวลาต่อมา
ดังนั้นจากจำนวนห้องพักกว่า 400 ห้อง มีเพียงไม่กี่ห้องที่มีราชวงศ์เข้าอยู่อาศัยจริงๆ ซึ่งการตกแต่ง ก็หรูหราเหมือนปราสาททั่วไป
Château de Chambord สะท้อนให้เห็นภาพความฟุ่มเฟือยก่อนการล่มสลายของราชวงศ์ฝรั่งเศส … และนั่นจึงทำให้ Château de Chambord เป็นปราสาทที่ยิ่งใหญ่แต่อ้างว้าง สวยงามทว่าหนาวเหน็บแห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์
ของที่ระลึกซึ่งฉันประทับใจมากเป็นธนบัติพิมพ์ลายปราสาท และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของฝรั่งเศส ซึ่งหาซื้อได้ที่ร้านขายของที่ระลึก ตรงทางออกค่ะ
ที่ตั้ง เมือง Blésois, France
โทรศัพท์ +33 2 54 50 50 40
เปิด ปิด เดือนเมษายน – เดือนกันยายน 9.00 – 18.00 น. และ เดือนตุลาคม – เดือนมีนาคม 10.00 – 17.00 น.
ราคาตั๋ว ผู้ใหญ่ 11 ยูโร เด็ก 9 ยูโร ค่าที่จอดรถ 4 ยูโร
www.chambord.org
การเดินทางมาเที่ยวปราสาทในลุ่มแม่น้ำลัวร์
- แนะนำให้ซื้อทัวร์ของ www.viator.com ชื่อโปรแกรม Loire Valley Castles Day Trip: Chambord, Cheverny and Chenonceau ในราคาประมาณ 180 เหรียญสหรัฐต่อคน หรือ www.loirevalleytourism.com
- หากต้องการเดินทางมาที่ Loire Valley ด้วยตนเอง นั่งรถไฟ TGV จากปารีสมาได้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และซื้อทัวร์ต่อที่สถานีปลายทาง ราคาตั๋ว www.raileurope.com
16 Mar 2016
0 Comments
“Château de Chambord” ปราสาทหนาวเหน็บของเจ้าชายอสูร – ฝรั่งเศส
ความงดงามที่อ้างว้าง … ความอลังการแต่หนาวเหน็บ ความเย็นชาที่แฝงตัวอยู่ในปราสาทแห่งนี้ ทำให้ฉันสะดุดใจกับที่นี่มาก “Château de Chambord” หรือ ปราสาทชองบอร์ด แห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์
ย้อนกลับไปเมื่อเกือบห้าร้อยปีที่แล้ว กษัติย์หนุ่ม King Francis I ริเริ่มให้ก่อสร้างปราสาทแห่งนี้ เพื่อใช้เป็น บ้านพักสำหรับล่าสัตว์ กีฬาที่นิยมในหมู่คนชั้นสูง
King Francis I
ลุ่มแม่น้ำลัวร์ (Loire Valley) ผืนดินที่กว้างใหญ่กว่า 300 ตารางกิโลเมตร ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางประเทศฝรั่งเศส และไม่ไกลจากกรุงปารีส ถูกเลือกเป็นสถานที่ก่อสร้าง เคียงคู่กับปราสาทอื่นๆซึ่งมีอยู่ถึง 300 ปราสาทในผืนดิน ที่ฉันนิยามให้เป็นเมืองแห่งเทพนิยายอย่างแท้จริง
ท่ามกลางปราสาทนับร้อย Château de Chambord กลับโดดเด่นกว่าใครเพื่อน ด้วยขนาดใหญ่ที่สุด อาคารสูงถึง 156 เมตร หรือตึก 6 ชั้น บันได 77 แห่ง ปล่องไฟ 282 อัน ห้องพัก 426 ห้อง และสวนป่าใหญ่ที่สุดในยุโรปด้วยขนาด 5,440 เฮกเตอร์ ล้อมรอบด้วยกำแพงยาว 32 กิโลเมตร
ทว่า …
Château de Chambord กลับแทบจะไร้ผู้มาพักอาศัย แม้แต่ผู้ให้กำเนิด King Francis I ผู้ริเริ่มก่อสร้าง ก็เคยมาอาศัยเพียง 72 วัน และยังไม่เคยเห็นวันที่ปราสาทนี้สร้างเสร็จด้วยตาเลยสักครั้ง
Louise XIV หรือพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 บุตรชายของ King Francis I ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างจนปราสาทจนเสร็จสมบูรณ์ก็แวะมาเพียง 9 ครั้ง เว้นเสียแต่นักโทษการเมืองลี้ภัย Stanislaus Leszczynki กษัติย์ของโปแลนด์ ที่เคยอยู่ที่นี่ถึง 9 ปี
ภาพจากภายนอก Château de Chambord ดูยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรี ปราสาทสีขาวสะอาดตาทาบกับท้องฟ้าใส ทาวเวอร์หินกลมใหญ่ ดูหนักแน่น … ยอดแหลมของโดมทะยานเสียดฟ้า เป็นความอ่อนช้อยของงานศิลปะแบบฝรั่งเศส รวมกับศิลปะแบบ Renaissance ของอิตาลี ซึ่ง King Francis I ประทับใจและนำกลับมาปรับใช้ที่ปราสาทแห่งนี้
… ว่ากันว่าแม้แต่ Walt Disney นักฝันคนสำคัญของโลก ก็ยังประทับใจปราสาทหลังนี้จนนำไปสร้างเป็นต้นแบบของ เจ้าชายอสูรในนิทาน Beauty & The Beast
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
แต่เหตุไฉนจึงไม่มีใครอยู่ที่ปราสาทหลังนี้? คำตอบนี้ มีเฉลยอยู่ข้างในปราสาทค่ะ …
ทางเข้าชมปราสาทตั้งอยู่ด้านหลัง เช่นเดียวกับจุดขายตั๋ว และร้านขายของที่ระลึก
The Keep หรืออาคารสี่เหลี่ยมจตุรัสเป็นห้องสำคัญที่สุดของปราสาท เป็นศูนย์รวมจิตวิญญานของที่นี่ ห้องนี้มีรูปลักษณ์เหมือนเครื่องหมายบวก มีทางเดินแยกทั้งสี่ และมีบันไดวนอยู่เป็นศูนย์กลางของห้อง
หินอ่อนสีขาวภายในห้องส่งไอเย็นมาเป็นระยะๆ นี่ขนาดฤดูร้อนนะคะ ห้องยังเย็นได้ถึงเพียงนี้
ปล่องไฟมีอยู่มากมายภายในปราสาท หวังเพื่อให้ความอุ่นและคลายความหนาวเหน็บ
บันไดวนหินอ่อนสีขาวนี้ เป็นประติมากรรมที่ล้ำสมัยมากในยุคนั้น ทางขึ้นของบันไดมีสองทาง เวียนคู่ขนานกันไป แต่ไม่มีวันบรรจบกันได้
ไกด์สาวของเราเล่าว่า หลายคนเชื่อว่าบันไดนี้ออกแบบโดย Leonardo Da Vinci แขกคนสำคัญของ King Francis I และ ใช้เป็นทางขึ้นไปบนปราสาทของราชวงศ์แยกกับข้าราชบริพานที่ติดตาม
ชั้นสองของปราสาท ก็ยังคงเป็นห้องสีขาว เวิ้งว้าง เหมือนห้องร้าง ไอเย็นถูกตัวเราเป็นระยะๆ … เพดานหินอ่อนสีขาวสลักตัวหนังสือ F ซึ่งเป็นอักษรย่อ ของ King Francis I และตัว Salamander หรือกิ้งก่าที่เชื่อว่าเป็นสัตว์แข็งแรง เหนือธรรมชาติที่ทนต่อไฟได้ ซึ่ง Salamander เป็นสัตว์สัญลักษณ์ของ King Francis I ค่ะ
ลานกว้างของเทอเรส เป็นอีกมุมที่นักท่องเที่ยวเดินออกมาถ่ายรูป ยอดปราสาทปลายแหลม และวิวกว้างของสวน ยิ่งทำให้ที่นี่ดูไร้ชีวิตชีวา เป็นปราสาทที่อ้างว้างที่สุดที่เคยไปมา
ปัญหาหลักของปราสาทนี้อยู่ที่ความหนาวค่ะ …
ปราสาทสร้างอย่างสวยงาม แต่ไม่คำนึงถึงภูมิอากาศของประเทศฝรั่งเศส และถึงแม้จะมีปล่องไฟอยู่มากมาย มี Tapastry ให้ความอุ่น แต่ก็ยังไม่อบอุ่นเพียงพอที่มนุษย์จะอาศัยได้
อีกทั้งขนาดที่ใหญ่โตมโหราฬ ทำให้การเข้าพักในแต่ละครั้ง ต้องตระเตรียมกำลังคน ม้า สัตว์ และอาหารให้เพียงพอ ซึ่งเป็นความฟุ่มเฟื่อย และนำไปสู่การโค่นล้มราชวงศ์ของฝรั่งเศสในเวลาต่อมา
ดังนั้นจากจำนวนห้องพักกว่า 400 ห้อง มีเพียงไม่กี่ห้องที่มีราชวงศ์เข้าอยู่อาศัยจริงๆ ซึ่งการตกแต่ง ก็หรูหราเหมือนปราสาททั่วไป
Château de Chambord สะท้อนให้เห็นภาพความฟุ่มเฟือยก่อนการล่มสลายของราชวงศ์ฝรั่งเศส … และนั่นจึงทำให้ Château de Chambord เป็นปราสาทที่ยิ่งใหญ่แต่อ้างว้าง สวยงามทว่าหนาวเหน็บแห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์
ของที่ระลึกซึ่งฉันประทับใจมากเป็นธนบัติพิมพ์ลายปราสาท และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของฝรั่งเศส ซึ่งหาซื้อได้ที่ร้านขายของที่ระลึก ตรงทางออกค่ะ
ที่ตั้ง เมือง Blésois, France
โทรศัพท์ +33 2 54 50 50 40
เปิด ปิด เดือนเมษายน – เดือนกันยายน 9.00 – 18.00 น. และ เดือนตุลาคม – เดือนมีนาคม 10.00 – 17.00 น.
ราคาตั๋ว ผู้ใหญ่ 11 ยูโร เด็ก 9 ยูโร ค่าที่จอดรถ 4 ยูโร
www.chambord.org
การเดินทางมาเที่ยวปราสาทในลุ่มแม่น้ำลัวร์
Related Posts: