การท่องเที่ยวในประเทศที่มีประชากรเป็นพันล้าน และในเซี่ยงไฮ้ เมืองใหญ่ที่สุดของจีนที่มีคนหนาแน่นถึง 19 ล้านคน วันหยุดจึงเป็นวันที่ควรหลีกเลี่ยง และช่วงเทศกาลก็เป็นช่วงที่ไม่ควรไปที่สุด!!!
เซี่ยงไฮ้ครั้งที่ 4 เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2015 ฉันเลือกไปท่องเซี่ยงไฮ้ในวันธรรมดา ในเดือนที่อากาศเย็น และไม่มีเทศกาลอะไรใหญ่โต เพราะทริปนี้มีสูงวัยอายุเหยียบ 70 ไปด้วยกันอีกสองคนค่ะ
เช้า บ่ายและเย็นของวันนี้ ฉันจะพาไปท่อง 3 แลนด์มาร์คของเมือง ที่ไปกี่ครั้งก็ต้องแวะทุกครั้ง เพราะดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์ … เหลือเกิน
ป.ล. ทั้งสามแลนด์มาร์คนี้อยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน และแต่ละสถานีไม่ห่างกัน เดินทางได้ในวันเดียว ดูแผนที่รถไฟใต้ดิน และสถานีได้ในภาพสุดท้าย ของการเดินทางค่ะ
Morning : Yuyuan Garden (สวนอี้หยวน)
สวนอี้หยวน เป็นสวนจีนโดยแท้ มีสะพานไม้ สระน้ำ ปลาคาร์พ บ้านทรงเก๋งจีน ภูเขาหิน มังกรแกะสลัก และต้นไม้เขียวชอุ่มในพื้นที่กว้างใหญ่ หลายไร่ … เป็นสวนที่เปรียบได้กับ Gardens by the Bay ของเซี่ยงไฮ้ แต่ย้อนนาฬิกากลับไปเมื่อสี่ร้อยปีที่แล้ว
ฉันเคยไปที่สวนนี้ครั้งแรกในปี 2003 ผ่านมาหลายสิบปี ฉันกลับไปกี่ครั้ง อี้หยวนก็ยังเหมือนเดิม ยังคงมีกลิ่น อายของจีนโบราณ หรือถ้าจะให้ถูกต้องก็อยู่ในยุคราชวงศ์หมิง ที่เศรษฐีใหญ่ยอดกตัญญู ได้สร้างสวนแห่งนี้ ไว้ให้กับบิดามารดาของเขาอยู่อาศัยในยามชรา
แม้จะแลนด์มาร์คนี้จะต้องเดินเยอะ แต่ตามทางเดินในสวน ก็จะมีจุดนั่งพักเป็นระยะๆ คุณแม่ซึ่งมีปัญหา เข่าเสื่อม จึงพักเหนื่อยได้ตลอดทาง การเข้าชมจึงไม่ทุลักทุเล และเหนื่อยมากนัก
ไฮไลท์ของสวนมีอยู่หลายจุด ไม่ว่าจะเป็นหินก้อนใหญ่ตรงทางเข้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ หรือหยกชิ้น เขื่องที่เปิดให้เข้าชม … ทุกอย่างต้องมีขนาดเป็นมาตรวัด ตามนิสัยหน้าใหญ่ ใจใหญ่ของชาวจีน
แต่ถามฉันว่าชอบอะไรที่อี้หยวน … ฉันของบรรยากาศของสวนนี้ค่ะ ซอกซอยที่ลัดเลาะตามทางเดิน ผ่านต้นไม้ เขียวขจี บ้านจีน และลมเย็นๆทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย และที่สำคัญฉันชอบเขตเมืองเก่ารอบๆสวนอี้หยวน เป็นที่สุด เขตเมืองเก่านี้เราจะเดินผ่านก่อนที่จะเข้ามาที่สวน บ้านเมืองและทางเดินหิน ทำให้ฉันนึกถึงยุธรจักร ต่างๆของจีน แต่ที่นี่ไม่มีจอมยุทธ หรือวิชาตัวเบา มีแต่ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารน่ากิน และขนมอร่อย ระหว่างทางแทนค่ะ
การเดินทาง รถไฟสาย 10 และลงสถานี Yuyuan ทางออก 1 และเดินตามป้าย Yuyuan Garden ประมาณ 5-10 นาที
พิกัด https://goo.gl/maps/KGMzKcj11JP2
ค่าตั๋ว คนละ 40 หยวน ซื้อได้ที่หน้าสวน เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบเข้าฟรี
เปิด ปิด 8.30 – 16.45 น. ทุกวัน
Afternoon : Xin Tian Di (ซิน เทียน ตี้)
เซี่ยงไฮ้ในอุดมคติ น่าจะเป็นชื่อที่เหมาะสมกับ Xin Tian Di (ซิน เทียน ตี้) หรือโลกใบใหม่ในภาษาจีน
ทางเดินหิน กำแพงหิน ประตูหิน บ้านเมืองเก่าแต่ดูแลรักษาอย่างดี เป็นเสน่ห์ของซินเทียนตี้ เมืองในอุดมคติ ที่มีสถาปัตยกรรมแบบ Shikumen (ซิกเหมิน) อยู่สองข้างทาง Shikumen แปลว่าประตูหิน เป็นสถาปัตกรรม แบบจีนที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาผสมนิดๆ และเห็นได้ชัดเจนที่นี่เมืองที่มีแต่หิน
บุคคลิกของซินเทียนตี้น่าจะเปรียบได้ดังทองหล่อของกรุงเทพ ย่านแฮพเพนนิ่งของคนทำงาน เน้นกลุ่มคนต่าง ชาติ ที่แวะมากิน เที่ยว และดื่มตามร้านอาหารและบาร์ชื่ดัง ซึ่ง Ye Shanghai ก็เป็นร้านอาหารมื้อเที่ยงที่ฉัน แนะนำของที่นี่ค่ะ
ที่ตั้ง Shanghai City, South of Huaihai Zhong Lu (ถนน Huaihai Zhong)
พิกัด https://goo.gl/maps/QDN8LUUTZTv
การเดินทาง รถไฟใต้ดินสาย 1, 10 และ 13 ลงที่สถานี Xin Tian Di
Night : The Bun (เดอะ บันด์)
ทุกครั้งที่ฉันไปเดินเล่นที่ทางเดินริม Huangpu River (แม่น้ำหวงผู่) หรือที่เรียกกันว่า The Bun (เดอะ บันด์) ภาพของเมืองบูดาเปสต์ก็ผุดขึ้นมาทุกครั้งค่ะ สองเมืองนี้มีความละม้ายกันในความทรงจำของฉัน … เซี่ยงไฮ้แบ่งออกเป็นสองฝั่ง เหมือนกับเมืองบูดอและเมืองแป๊ชต์ของฮังการี แต่ที่นี่มีชื่อว่า Puxi (ผู่ซี) และ Pudong (ผู่ตง) ซึ่งเป็นย่านเมืองใหม่ของเซี่ยงไฮ้ที่มีหอคอยไข่มุกเป็นจุดดึงสายตา
สถาปัตยกรรมตะวันตกแบบที่คุ้นเคยในยุโรปจำนวนยี่สิบกว่าตึกที่เรียงหน้ากระดานตาม ZhongShan Road (ถนนจงซาน) ทำให้เซี่ยงไฮ้มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เป็นจุดขายของคำจำกัดความว่า “Paris of the East”
อาคารเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นในยุคที่จีนอนุญาติให้ชาวตะวันตก ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน และดัชท์ เข้ามาค้าขายในเซี่ยงไฮ้ เมืองท่าสำคัญของจีน
ช่วงเวลาที่ The Bund ฉายแสงและตระการที่สุด ก็คือยามราตรี ทุกตึกจะเปิดไฟ เปล่งแสงแสดงความยิ่งใหญ่ ตลอดความยาว 1.5 กิโลเมตร รวมด้วยความโดดเด่นของโลกแห่งอนาคตของผู่ตงฝั่งตรงข้าม
The Bund ในวันธรรมดา คนไม่เยอะนัก เดินเล่น ถ่ายรูปได้อย่างสบายใจ ต่างจากวันหยุด หรือช่วงที่ตรงกับเทศกาล … ผู้คนนับหมื่นจะเบียดเสียดกันบนทางเดินสายนี้ จนฉันเคยถอดใจไปแล้วครั้งหนึ่ง
ที่ตั้ง ZhongShan Road
พิกัด https://goo.gl/maps/QcQ8ZYs1z4o
การเดินทาง รถไฟฟ้าสาย 2 และ 10 สถานี East Nanjing Road และเดินอีกประมาณ 10 นาทีมาทิศของ แม่น้ำหวงผู่
3 แลนด์มาร์คนี้เชื่อมโยงกันอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ หนุ่มสาวที่ยังแข็งแรง น่าจะเก็บทั้ง 3 แลนด์มาร์คได้ในวันเดียว และถ้ามีเวลาเหลือก็แวะไปเดินเล่นที่ Nanjing Lu หรือถนนนานจิ่ง ถนนช้อปปิ้งของสายสำคัญของ เซี่ยงไฮ้ได้อีกด้วยค่ะ
แผนที่การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน และสถานีของ Yuyuan Garden, Xin Tian Di และ The Bun
http://www.shmetro.com/zbdt/overall/english_large.jpg
11 Jan 2017
0 Comments
เช้า สาย และค่ำ กับ 3 แลนด์มาร์คของเซี่ยงไฮ้
การท่องเที่ยวในประเทศที่มีประชากรเป็นพันล้าน และในเซี่ยงไฮ้ เมืองใหญ่ที่สุดของจีนที่มีคนหนาแน่นถึง 19 ล้านคน วันหยุดจึงเป็นวันที่ควรหลีกเลี่ยง และช่วงเทศกาลก็เป็นช่วงที่ไม่ควรไปที่สุด!!!
เซี่ยงไฮ้ครั้งที่ 4 เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2015 ฉันเลือกไปท่องเซี่ยงไฮ้ในวันธรรมดา ในเดือนที่อากาศเย็น และไม่มีเทศกาลอะไรใหญ่โต เพราะทริปนี้มีสูงวัยอายุเหยียบ 70 ไปด้วยกันอีกสองคนค่ะ
เช้า บ่ายและเย็นของวันนี้ ฉันจะพาไปท่อง 3 แลนด์มาร์คของเมือง ที่ไปกี่ครั้งก็ต้องแวะทุกครั้ง เพราะดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์ … เหลือเกิน
ป.ล. ทั้งสามแลนด์มาร์คนี้อยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน และแต่ละสถานีไม่ห่างกัน เดินทางได้ในวันเดียว ดูแผนที่รถไฟใต้ดิน และสถานีได้ในภาพสุดท้าย ของการเดินทางค่ะ
Morning : Yuyuan Garden (สวนอี้หยวน)
สวนอี้หยวน เป็นสวนจีนโดยแท้ มีสะพานไม้ สระน้ำ ปลาคาร์พ บ้านทรงเก๋งจีน ภูเขาหิน มังกรแกะสลัก และต้นไม้เขียวชอุ่มในพื้นที่กว้างใหญ่ หลายไร่ … เป็นสวนที่เปรียบได้กับ Gardens by the Bay ของเซี่ยงไฮ้ แต่ย้อนนาฬิกากลับไปเมื่อสี่ร้อยปีที่แล้ว
ฉันเคยไปที่สวนนี้ครั้งแรกในปี 2003 ผ่านมาหลายสิบปี ฉันกลับไปกี่ครั้ง อี้หยวนก็ยังเหมือนเดิม ยังคงมีกลิ่น อายของจีนโบราณ หรือถ้าจะให้ถูกต้องก็อยู่ในยุคราชวงศ์หมิง ที่เศรษฐีใหญ่ยอดกตัญญู ได้สร้างสวนแห่งนี้ ไว้ให้กับบิดามารดาของเขาอยู่อาศัยในยามชรา
แม้จะแลนด์มาร์คนี้จะต้องเดินเยอะ แต่ตามทางเดินในสวน ก็จะมีจุดนั่งพักเป็นระยะๆ คุณแม่ซึ่งมีปัญหา เข่าเสื่อม จึงพักเหนื่อยได้ตลอดทาง การเข้าชมจึงไม่ทุลักทุเล และเหนื่อยมากนัก
ไฮไลท์ของสวนมีอยู่หลายจุด ไม่ว่าจะเป็นหินก้อนใหญ่ตรงทางเข้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ หรือหยกชิ้น เขื่องที่เปิดให้เข้าชม … ทุกอย่างต้องมีขนาดเป็นมาตรวัด ตามนิสัยหน้าใหญ่ ใจใหญ่ของชาวจีน
แต่ถามฉันว่าชอบอะไรที่อี้หยวน … ฉันของบรรยากาศของสวนนี้ค่ะ ซอกซอยที่ลัดเลาะตามทางเดิน ผ่านต้นไม้ เขียวขจี บ้านจีน และลมเย็นๆทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย และที่สำคัญฉันชอบเขตเมืองเก่ารอบๆสวนอี้หยวน เป็นที่สุด เขตเมืองเก่านี้เราจะเดินผ่านก่อนที่จะเข้ามาที่สวน บ้านเมืองและทางเดินหิน ทำให้ฉันนึกถึงยุธรจักร ต่างๆของจีน แต่ที่นี่ไม่มีจอมยุทธ หรือวิชาตัวเบา มีแต่ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารน่ากิน และขนมอร่อย ระหว่างทางแทนค่ะ
การเดินทาง รถไฟสาย 10 และลงสถานี Yuyuan ทางออก 1 และเดินตามป้าย Yuyuan Garden ประมาณ 5-10 นาที
พิกัด https://goo.gl/maps/KGMzKcj11JP2
ค่าตั๋ว คนละ 40 หยวน ซื้อได้ที่หน้าสวน เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบเข้าฟรี
เปิด ปิด 8.30 – 16.45 น. ทุกวัน
Afternoon : Xin Tian Di (ซิน เทียน ตี้)
เซี่ยงไฮ้ในอุดมคติ น่าจะเป็นชื่อที่เหมาะสมกับ Xin Tian Di (ซิน เทียน ตี้) หรือโลกใบใหม่ในภาษาจีน
ทางเดินหิน กำแพงหิน ประตูหิน บ้านเมืองเก่าแต่ดูแลรักษาอย่างดี เป็นเสน่ห์ของซินเทียนตี้ เมืองในอุดมคติ ที่มีสถาปัตยกรรมแบบ Shikumen (ซิกเหมิน) อยู่สองข้างทาง Shikumen แปลว่าประตูหิน เป็นสถาปัตกรรม แบบจีนที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาผสมนิดๆ และเห็นได้ชัดเจนที่นี่เมืองที่มีแต่หิน
บุคคลิกของซินเทียนตี้น่าจะเปรียบได้ดังทองหล่อของกรุงเทพ ย่านแฮพเพนนิ่งของคนทำงาน เน้นกลุ่มคนต่าง ชาติ ที่แวะมากิน เที่ยว และดื่มตามร้านอาหารและบาร์ชื่ดัง ซึ่ง Ye Shanghai ก็เป็นร้านอาหารมื้อเที่ยงที่ฉัน แนะนำของที่นี่ค่ะ
ที่ตั้ง Shanghai City, South of Huaihai Zhong Lu (ถนน Huaihai Zhong)
พิกัด https://goo.gl/maps/QDN8LUUTZTv
การเดินทาง รถไฟใต้ดินสาย 1, 10 และ 13 ลงที่สถานี Xin Tian Di
Night : The Bun (เดอะ บันด์)
ทุกครั้งที่ฉันไปเดินเล่นที่ทางเดินริม Huangpu River (แม่น้ำหวงผู่) หรือที่เรียกกันว่า The Bun (เดอะ บันด์) ภาพของเมืองบูดาเปสต์ก็ผุดขึ้นมาทุกครั้งค่ะ สองเมืองนี้มีความละม้ายกันในความทรงจำของฉัน … เซี่ยงไฮ้แบ่งออกเป็นสองฝั่ง เหมือนกับเมืองบูดอและเมืองแป๊ชต์ของฮังการี แต่ที่นี่มีชื่อว่า Puxi (ผู่ซี) และ Pudong (ผู่ตง) ซึ่งเป็นย่านเมืองใหม่ของเซี่ยงไฮ้ที่มีหอคอยไข่มุกเป็นจุดดึงสายตา
สถาปัตยกรรมตะวันตกแบบที่คุ้นเคยในยุโรปจำนวนยี่สิบกว่าตึกที่เรียงหน้ากระดานตาม ZhongShan Road (ถนนจงซาน) ทำให้เซี่ยงไฮ้มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เป็นจุดขายของคำจำกัดความว่า “Paris of the East”
อาคารเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นในยุคที่จีนอนุญาติให้ชาวตะวันตก ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน และดัชท์ เข้ามาค้าขายในเซี่ยงไฮ้ เมืองท่าสำคัญของจีน
ช่วงเวลาที่ The Bund ฉายแสงและตระการที่สุด ก็คือยามราตรี ทุกตึกจะเปิดไฟ เปล่งแสงแสดงความยิ่งใหญ่ ตลอดความยาว 1.5 กิโลเมตร รวมด้วยความโดดเด่นของโลกแห่งอนาคตของผู่ตงฝั่งตรงข้าม
The Bund ในวันธรรมดา คนไม่เยอะนัก เดินเล่น ถ่ายรูปได้อย่างสบายใจ ต่างจากวันหยุด หรือช่วงที่ตรงกับเทศกาล … ผู้คนนับหมื่นจะเบียดเสียดกันบนทางเดินสายนี้ จนฉันเคยถอดใจไปแล้วครั้งหนึ่ง
ที่ตั้ง ZhongShan Road
พิกัด https://goo.gl/maps/QcQ8ZYs1z4o
การเดินทาง รถไฟฟ้าสาย 2 และ 10 สถานี East Nanjing Road และเดินอีกประมาณ 10 นาทีมาทิศของ แม่น้ำหวงผู่
3 แลนด์มาร์คนี้เชื่อมโยงกันอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ หนุ่มสาวที่ยังแข็งแรง น่าจะเก็บทั้ง 3 แลนด์มาร์คได้ในวันเดียว และถ้ามีเวลาเหลือก็แวะไปเดินเล่นที่ Nanjing Lu หรือถนนนานจิ่ง ถนนช้อปปิ้งของสายสำคัญของ เซี่ยงไฮ้ได้อีกด้วยค่ะ
แผนที่การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน และสถานีของ Yuyuan Garden, Xin Tian Di และ The Bun
http://www.shmetro.com/zbdt/overall/english_large.jpg
Related Posts: