ตอนเขียนไกด์บุ๊ค ด้วยเงื่อนไขของหนังสือ ฉันต้องเก็บรายละเอียดของทุกสถานที่และกิจกรรมให้ได้ มักเป็นกลาง และไม่ใช้มาตราฐานของตัวเองเป็นตัววัด … แต่เมื่อเขียนบล็อก จุดมุ่งหมายของบทความนั้นต่างกัน วันนี้ฉันจึงใส่ความเป็นตัวเองเข้าไป แนะนำเฉพาะสิ่งที่ชอบและสิ่งที่ใช่ในแต่ละเมือง
กิจกรรมไหนทำแล้วไม่สนุก ก็ละไว้ ร้านไหนไปกินแล้วไม่ถูกปาก ก็บอกกันตรงๆ … และนี่ก็คือ 12 To Do Lists ที่ชอบที่สุดของเมลเบริน์ค่ะ
ใครมีเวลาน้อย ก็เลือกเฉพาะกิจกรรมที่ชอบ และถ้าถามว่าเวลาเท่าไหร่ที่ควรใช้รู้จักเมลเบริน์ บอกเลยว่า กี่วันก็ไม่พอค่ะ แต่ถ้าเอาที่อิ่มใจ กลับมาแล้วไม่รู้สึกว่าเราพลาดอะไร 3 วัน ก็น่าจะเป็นคำตอบของฉัน
“นั่งรถสำรวจเมืองด้วย City Circle Tram สาย 35”
กิจกรรมแรกที่อยากให้ทำ เป็นทางลัดรู้จักเมลเบริน์ค่ะ … City Circle Tram ก็คือรถแทรมรุ่น W-Class จำลอง วิ่งรอบหัวใจเมือง CBD (Central Business District)
รถแทรมคันนี้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย มีเสียงบรรยายตามสาย บอกเล่าประวัติของเมืองและสต็อปแต่ละจุด นอกจากนั้นในบางช่วงเวลา ยังมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ อยากไปไหน ลงจุดใด และเดินไปยังไง ถามเจ้าหน้าที่ได้
รถแทรมสาย 35 นี้ จะทำให้เรารู้จักเมลเบริน์ภายในเวลา 30-40 นาที เห็นภาพคร่าวๆของเมือง และ Landmark สำคัญว่าอยู่ตรงไหนช่วยให้เราวางแผนการเที่ยวได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
ไอเดียนี้ดีต่อใจจริงๆ .. ขอชมเชยอีกครั้งค่ะ
“ดื่มด่ำกับจตุรัสทันสมัย Federation Square”
Fed Sq คือชื่อเล่นของจตุรัสสำคัญอันดับ 6 ของโลกค่ะ … ตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ 15 ปีก่อน Fed Sq ก็ต้อนรับผู้คนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ด้วยกิจกรรมกลางแจ้ง คอนเสริต์ และพิพิธภัณฑ์ชั้นเยี่ยมที่ซุกซ่อนอยู่ในอาคารทรงเลขาคณิต
สิ่งก่อสร้างสำคัญที่อยู่ในระยะสายตา มีทั้ง Flinders Street Railway Station ชุมทางรถไฟสำคัญของเมือง เปิดมาแล้วเกือบสองศตวรรษ ในอดีตเคยเป็นชุมทางพลุกพล่านที่สุดของโลก แต่น่าเสียดายวันที่ไปปิดซ่อมแซ่ม จึงไม่ได้เห็นสถาปัตยกรรมแบบ East Indian ในดินแดนจิงโจ้
นอกจากนั้นยังมี St. Paul’s Cathedral โบสถ์นีโอกอธิค ยอดแหลม สร้างด้วยอิฐสีแดงอยู่เป็นพื้นหลัง ภายในตกแต่งด้วยโมเสคและงานไม้แกะสลักสวยงาม
นักท่องเที่ยวควรแวะมาขอข้อมูลที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ด้านหน้าของจตุรัส และเพื่ออรรถรสในการชม ควรดื่มด่ำบรรยากาศด้วยการนั่งเล่นที่ลานขั้นบันไดในโมงยามที่ต่างกันของกลางวันและกลางคืนค่ะ
“มื้อเที่ยงใน Laneways ชื่อดัง”
ถ้าอยากเห็นแสงสีของเมลเบริน์ต้องไปเดิน Laneways ตรอกเล็กซอยน้อยทั้งหลายค่ะ ประเภทของ Laneways มีอยู่สองชนิด ถ้าไม่อาร์ตซี่ ศิลปะจ๋า ก็จะเป็นตรอกคาเฟ่ & ร้านอาหาร
Laneways สายแรกของเมืองที่ใครๆก็ไม่ควรพลาด ก็คือ Degraves St. ที่อัดแน่นไปด้วยคาเฟ่ ร้านอาหาร และร้านตัดผม? (เมลเบริน์มีร้าน barber เยอะค่ะ) และ Degraves Espresso Bar ก็เป็นสต็อปดังของตรอกนี้ มีที่นั่งทั้งด้านในและด้านนอก ฉันสั่ง Panini และสามีสั่งสปาเก็ตตี้เนื้อมากินกัน รสชาติอาหารใช้ได้ ให้คะแนนกลางๆ แต่บรรยากาศดีค่ะ
อีก Laneways ที่น่าสนใจไม่น้อยก็คือ Centre Plc (Place) ซึ่งเดินต่อจาก Degraves St. ได้ ตรอกนี้จะแคบแต่มีร้านน่าหม่ำอยู่หลายร้านเลย เช่น Shan Dong MaMa Mini อาหารจีน เกี๊ยวชื่อดังของเมือง หรือ Hell’s Kitchen ค่ะ
“ถ่ายรูปอวดโซเซียลที่ Graffiti Laneways”
คนเมืองนี้น่าจะชอบระบายความในใจในที่สาธารณะ เดินไปตามถนนหนทาง ก็จะเห็นงานศิลปะตามกำแพง รวมถึงตัวหนังสือขูดขีดไว้หลายจุดรวมทั้งในห้องน้ำค่ะ
ทางการของเมืองคงเห็นความสามารถพิเศษด้านนี้ จึงจัดให้มี เขต Graffiti Tolerance Zone ซึ่งตรอกกราฟิตี้ที่ดังที่สุดของเมือง ก็คือ Hosier Lane ค่ะ
ผลงานศิลปะที่วาดเขียนบนกำแพงรวมถึงถังขยะในตรอกนี้ ได้รับใบเขียวจากผู้ดูแลเมืองให้ขีดเขียนได้อิสระ และมีงานศิลปะชิ้นใหม่ๆ มาให้ชมเป็นระยะ
ช่วงกลางวันคนค่อนข้างเยอะค่ะ มาช่วงพลบค่ำคนจะน้อยกว่า แสงธรรมชาติก็ยังพอมี แถมตรอกนี้ยังมีสปอร์ตไลท์ติดเป็นจุดๆ เหมือนสเตจชั้นดี ถ่ายรูปสวยทั้งกลางวันและกลางคืนเลย (อย่าลืมเอาขาตั้งกล้องมาด้วยจะช่วยให้ภาพคมชัดขึ้นค่ะ)
เลียบๆเคียงๆริมแม่น้ำ Yarra River
เห็นทางเท้าริมแม่น้ำทีไร อดใจไม่ไหวค่ะ ต้องก้าวขาลงไปเดินเลียบสายน้ำทุกครั้ง … แม่น้ำยาร่าสายนี้ ก็คงเหมือนกับเจ้าพระยา เทมส์ หรือแซนด์ที่ไหลผ่านเมืองเอกทั่วโลก สร้างความเย็นใจ และภูมิทรรศน์น่าชมให้กับเมืองใหญ่
สายน้ำกว่าสองร้อยกิโลเมตร ไหลผ่ากลางเมลเบริน์ ก่อนจะไปสู่ยาร่าวัลเลย์ (Yarra Valley) แหล่งปลูกไร่องุ่นชั้นนำ และออกสู่ทะเลในที่สุด
จาก Fed Sq มีบันไดลงไปยังทางเดินเลียบแม่น้ำ หรือจะข้ามสะพานไปยังฝั่ง Southgate และหันกลับมามองตึกสูง ที่กระจุกตัวเป็นกลุ่มของเมลเบริน์ก็ได้
ยามราตรี ท่ามกลางอุณภูมิ 12 องศา ฉันและสามีกุมคอเสื้อให้กระชับขึ้น ลมเย็นปะทะใบหน้า แต่เราก็ยังเดินเล่นชิลๆ ชมแสงสีของเมืองทางฝั่ง Southgate ก่อนจะข้ามสะพาน Evan Walk ไปยังฝั่งตัวเมือง … สุขใจจริงๆค่ะ
“ทัวร์ชมคุกเก่า Old Melbourne Gaol”
คุกเก่ากว่าสองร้อยปีแห่งนี้ ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม ทัวร์ชมคุกมีอยู่ด้วยกัน 2 ส่วน หนึ่ง คือ Old Melbourne Gaol คุกที่จองจำนักโทษและประหารชีวิตผู้กระทำความผิดมาแล้วไม่น้อยกว่า 136 คน
ภายในพิพิธภัณฑ์ของ Old Melbourne Gaol ห้องคุมขังนักโทษถูกเปลี่ยนเป็นห้องจัดแสดง นำเสนอวิธีการลงโทษ อุปกรณ์ทรมาน รวมถึงชีวะประวัติของนักโทษคนสำคัญ Ned Kelly โจรป่าชื่อดังในตำนานของรัฐวิคทอเรียค่ะ
บรรยากาศในคุกนี้ หลอนและสยองนิดๆ แสงทึมๆและไอเย็นที่ซึมผ่านพื้นและผนังหิน บวกกับรูปปั้นส่วนหัวของนักโทษที่จัดแสดงอยู่แต่ละห้องทำให้ขนลุกชันได้เป็นระยะ
อีกส่วนของพิพิธภัณฑ์ก็คือสถานีตำรวจเก่า ในแต่ละวันจะมีรอบการเข้าชม Police Watch House Experience อยู่ 3-4 รอบ การเข้าชมในส่วนนี้ จะมีนายจ่า Sargent มาพาเดิน มีการเล่น Role Play โดยตัวเราจะกลายเป็นนักโทษ ทำให้เรา รู้จักขั้นตอนการปฏิบัติต่อนักโทษที่กระทำความผิดในอดีต
ไฮไลท์ของทัวร์นี้ คงอยู่ที่เราจะได้เข้าไปนั่งในห้องคุมขังนักโทษจริงๆ นายตำรวจจะปิดไฟจนมืดจนทำให้รู้สึกอึดอัด แม้จะเป็นเพียงเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น …
ก่อนกลับอย่าลืมถ่ายรูป mugshot ไว้เป็นที่ระลึกด้วยนะคะ … ทัวร์ชมคุกครั้งแรกของฉันและสามีสนุกมากกว่าที่คิดไว้ เราจึงโหวตให้เป็นประสบการณ์ที่โปรดที่ไม่ควรพลาดของเมลเบริน์เลยค่ะ
“ตื่นตะลึงกับห้องสมุดสวยงามที่สุด State Library of Victoria”
ขุมทรัพย์ทางปัญญาของเมือง ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Old Melbourne Gaol เดินถึงกันได้ภายในไม่กี่นาทีค่ะ State Library of Victoria อ้าแขนรับทุกคนด้วยรอยยิ้มและปราศจากค่าใช้จ่ายใดๆ
ถ้าคุณพอจะมีเวลา ฉันอยากให้ค่อยๆเดินชมทีละห้อง ดูความยิ่งใหญ่ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการอ่านซึ่งเป็นพื้นฐานของความรู้ทั้งมวล
แต่ถ้าคุณมีเวลาน้อย หลายคนคงเลือกทางลัด ขึ้นลิฟท์ไปชมไฮไลท์กันที่ Reading Room ชั้น 4 ตะลึงกับความอลังการของโถงห้องอ่านหนังสือ กับโดมกระขนาดมหึมาที่ปลดปล่อยแสงธรรมชาติลงมายังด้านล่าง รวมถึงหนังสือหลายล้านเล่ม ที่เรียงรายอยู่ตามชั้นต่างๆ
และถ้าคุณสังเกตดูดีๆ ห้องอ่านหนังสือขนาดแปดเหลี่ยมที่โต๊ะเก้าอี้จัดวางเหมือนดาวกระจายนี้ หนาแน่นไปได้ผู้คน คอมพิวเตอร์กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญบนโต๊ะ และมุมซ้ายมือก็ยังเป็นจุดดวลหมากรุก กิจกรรมที่คนเมลเบริน์ น่าจะชื่นชอบกันไม่น้อย
“ทอดน่องใน Royal Botanic Gardens”
ฉันและสามีมักจะใจอ่อนกับสวนเขียวขจีที่เราชอบจ้อกกิ้งกันตอนเช้าๆ …
Royal Botanic Gardens มีขนาดใหญ่โตมโหราฬ หากจะเดินให้ครบก็คงจะใช้เวลานาน เส้นทางเดินก็มีหลายสาย เช่น Australian Forest Walk, Fern Gully หรือจะเป็น Camelia Garden
ใครมีเวลาไม่มาก ฉันแนะนำให้เดินเล่นในระยะทางสั้นๆ ใช้เวลาเพียง 20 นาที ไปยัง Shrine of Remembrance ค่ะ จะผ่านสนามหญ้าเขียวขจี นาฬิกาดอกไม้ อนุเสาวรีย์ค่ะ
“Shrine of Remembrance”
อนุสรณ์สถานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารหาญ 1,900 คน ผู้เสียชีวิตในตะวันออกกลางช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ค่ะ
Shrine of Remembrance ตั้งอยู่ห่างจาก NGV (National Gallery of Victoria) เพียง 15-20 นาทีเท่านั้น เดินผ่าน Royal Botanic Gardens สักพักก็จะเห็นอนุสรณ์แห่งนี้ตั้งอยู่ลิบๆที่ปลายถนน
ในวันที่ฉันไปเยี่ยมชม มีการแสดง Ray of Lights พอดี … แสง Spotlight ที่ส่องผ่านหินจารึกกลางห้อง รำลึกถึงผู้เสียชีวิต พร้อมกับเสียงเพลงคลอเบาๆ ทำให้ทั้งห้องเงียบงัน ก่อนหลายคนจะน้ำตาซึมด้วยคำพูดสุดท้ายที่ถูกพูดซ้ำและชัดเจนว่า “We will remember you” “We will remember you”
คุณลุงผู้ดูแล Shrine of Remembrance เล่าให้ฟังหลังจากจบการแสดง Ray of Lights ว่า ศพของทหารทั้ง 1,900 คน ไม่ได้ถูกส่งกลับมาที่รัฐวิคทอเรีย ครอบครัวและญาติสนิทของทหารที่เสียชีวิตจึงไร้ที่พึ่งทางใจ และตัดสินใจรวบรวมเงินก่อสร้างอนุสรณ์แห่งนี้ เพื่อรำลึกและคลายความคิดถึงคนในครอบครัวที่เสียสละชีวิตเพื่อชาติค่ะ
“ชื่นชมฝีมือศิลปินชาวออสซี่ที่ The Ian Potter Centre”
ในบริเวณเดียวกับ Federation Square มีพิพิธภัณฑ์น่าชมอยู่ 2 แห่งค่ะ Ian Potter Centre เป็นแห่งแรก และถือเป็นส่วนหนึ่งของ National Gallery of Victoria (NGV)
ผลงานใน Ian Potter Centre เปิดให้ชมฟรีที่ชั้น 2 และ 3 เป็นผลงานของศิลปินชาวออสเตรเลีย ตั้งแต่ยุคอาณานิคม ยุคขุดทอง ยุคใหม่ รวมถึงศิลปะของชาวอะบิริจิ้นชนพื้นเมืองของประเทศ
ด้วยการจัดการและจำนวนห้องที่ไม่เยอะ ทำให้เดินง่าย ชิ้นงานแต่ละชิ้นถูกเขียนบรรยายให้เข้าใจง่าย หนึ่งชั่วโมงที่เดินชมจึงไม่น่าเบื่อเลยค่ะ สนุกและได้ความรู้ด้วยกลับมาด้วย
“ท่องโลกภาพยนตร์ ACMI”
ACMI ย่อมาจาก Australian Centre for the Moving Image พูดง่ายๆก็คือพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมโลกของภาพยนต์ วิวัฒนาการของภาพ เสียง จนมาถึงยุคดิจิตอลอย่างทุกวันนี้
ACMI เป็นที่ชื่นชอบของสามีมาก คนรักหนังต้องถูกใจ เพราะที่นี่มีอุปกรณ์และเรื่องราวให้ชมอย่างละเอียด อีกทั้งยังมี เรื่องราวของผู้กำกับและดาราออสซี่ดังๆหลายคน เช่น Cate Blanchett หรือ George Miller ผู้กำกับ Mad Maxx และ Happy Feet
มุมโปรดของสามี ก็คือห้อง Matrix อุโมงค์ดิจิตัลที่ให้เราเข้าไปออกท่าทาง โดยภาพที่ออกมาจะคล้ายกับหนังเรื่อง Matrix เลยค่ะ … สนุกและฮาดี
“ขับรถเที่ยว Day Trip รอบๆเมลเบริน์”
รอบๆรัศมีของเมลเบริน์ยังมี Day Trip ที่สนใจอยู่หลายกิจกรรมค่ะ ตลอด 8 วันในเมลเบริน์ ฉันไป Day Trip สลับกับเที่ยวในตัวเมือง … วันไหนอากาศดี ก็ขับรถออกไปนอกเมือง แต่ถ้าวันไหนฝนตก ก็อยู่ในเมืองไป (เช็คสภาพอากาศก่อนล่วงหน้า 1 วัน เพื่อจองรถค่ะ) และนี่ก็คือ 5 Day Trip ที่แนะนำสำหรับทริปเมลเบริน์
Yarra Valley เหมาะสำหรับคนรักไวน์ พื้นที่ของออสเตรเลียตรงนี้ มีอุณภูมิเหมาะสมกับการปลูกองุ่น ไวน์ที่ได้ของโลกใหม่จึงรสจัดกว่าที่อื่นของประเทศ การเดินทางจากเมลเบริน์ไปใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ (รายละเอียดของ ทริปนี้จะเขียนเล่าให้ฟังต่อไปค่ะ)
Great Ocean Road เส้นทางเลียบมหาสมุทรกว่าสองร้อยกิโลนี้ สวยงามบาดตา แต่เป็นทริปโหดที่ใช้เวลาประมาณ 10-12 ชั่วโมง ผ่านเส้นทางคดเคี้ยว เลี้ยวหักศอกในบางช่วง แต่อย่างที่บอกไป Long journey pays the rewards เพราะจุดหมายนั้นสวยงามน่าประทับใจจริงๆค่ะ
Phillip Island และ Penguin Parade ฉันเคยไปทัวร์ชมนกเพนกวินตัวจิ๋วนี้แล้วเมื่อสิบปีก่อน คราวนี้เลยข้ามไป แต่ก็อยากแนะนำให้สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กค่ะ เพราะบน Phillip Island ยังมีกิจกรรมสนุกมากมาย เด็กๆน่าจะชอบใจค่ะ
Ballarat Sovereign Hill เป็นอีกทริปสำหรับเด็กๆ ฉันจำได้ว่าเคยไปร่อนทองที่หมู่บ้านจำลอง Sovereign Hill บ้านเรือน สร้างน่ารัก คล้ายๆกับยุคคาวบอย สนุกค่ะ เด็กๆน่าจะชอบอีกเหมือนกัน
Puffing Billy & Healesvill Sanctuary เป็นเดย์ทริปที่อยากไปมากที่สุด แต่เพราะอากาศหนาว คงเดินป่าไม่สนุก ฝนก็ตกเกือบทุกวันเพราะอยู่ในช่วงเปลี่ยนฤดู ฉันจึงอดขึ้นรถไฟหัวไอน้ำแล่นผ่านป่าเขียวของเมืองค่ะ
26 Sep 2017
0 Comments
My 12 Favorite Things to do in Melbourne
ตอนเขียนไกด์บุ๊ค ด้วยเงื่อนไขของหนังสือ ฉันต้องเก็บรายละเอียดของทุกสถานที่และกิจกรรมให้ได้ มักเป็นกลาง และไม่ใช้มาตราฐานของตัวเองเป็นตัววัด … แต่เมื่อเขียนบล็อก จุดมุ่งหมายของบทความนั้นต่างกัน วันนี้ฉันจึงใส่ความเป็นตัวเองเข้าไป แนะนำเฉพาะสิ่งที่ชอบและสิ่งที่ใช่ในแต่ละเมือง
กิจกรรมไหนทำแล้วไม่สนุก ก็ละไว้ ร้านไหนไปกินแล้วไม่ถูกปาก ก็บอกกันตรงๆ … และนี่ก็คือ 12 To Do Lists ที่ชอบที่สุดของเมลเบริน์ค่ะ
ใครมีเวลาน้อย ก็เลือกเฉพาะกิจกรรมที่ชอบ และถ้าถามว่าเวลาเท่าไหร่ที่ควรใช้รู้จักเมลเบริน์ บอกเลยว่า กี่วันก็ไม่พอค่ะ แต่ถ้าเอาที่อิ่มใจ กลับมาแล้วไม่รู้สึกว่าเราพลาดอะไร 3 วัน ก็น่าจะเป็นคำตอบของฉัน
“นั่งรถสำรวจเมืองด้วย City Circle Tram สาย 35”
กิจกรรมแรกที่อยากให้ทำ เป็นทางลัดรู้จักเมลเบริน์ค่ะ … City Circle Tram ก็คือรถแทรมรุ่น W-Class จำลอง วิ่งรอบหัวใจเมือง CBD (Central Business District)
รถแทรมคันนี้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย มีเสียงบรรยายตามสาย บอกเล่าประวัติของเมืองและสต็อปแต่ละจุด นอกจากนั้นในบางช่วงเวลา ยังมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ อยากไปไหน ลงจุดใด และเดินไปยังไง ถามเจ้าหน้าที่ได้
รถแทรมสาย 35 นี้ จะทำให้เรารู้จักเมลเบริน์ภายในเวลา 30-40 นาที เห็นภาพคร่าวๆของเมือง และ Landmark สำคัญว่าอยู่ตรงไหนช่วยให้เราวางแผนการเที่ยวได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
ไอเดียนี้ดีต่อใจจริงๆ .. ขอชมเชยอีกครั้งค่ะ
“ดื่มด่ำกับจตุรัสทันสมัย Federation Square”
Fed Sq คือชื่อเล่นของจตุรัสสำคัญอันดับ 6 ของโลกค่ะ … ตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ 15 ปีก่อน Fed Sq ก็ต้อนรับผู้คนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ด้วยกิจกรรมกลางแจ้ง คอนเสริต์ และพิพิธภัณฑ์ชั้นเยี่ยมที่ซุกซ่อนอยู่ในอาคารทรงเลขาคณิต
สิ่งก่อสร้างสำคัญที่อยู่ในระยะสายตา มีทั้ง Flinders Street Railway Station ชุมทางรถไฟสำคัญของเมือง เปิดมาแล้วเกือบสองศตวรรษ ในอดีตเคยเป็นชุมทางพลุกพล่านที่สุดของโลก แต่น่าเสียดายวันที่ไปปิดซ่อมแซ่ม จึงไม่ได้เห็นสถาปัตยกรรมแบบ East Indian ในดินแดนจิงโจ้
นอกจากนั้นยังมี St. Paul’s Cathedral โบสถ์นีโอกอธิค ยอดแหลม สร้างด้วยอิฐสีแดงอยู่เป็นพื้นหลัง ภายในตกแต่งด้วยโมเสคและงานไม้แกะสลักสวยงาม
นักท่องเที่ยวควรแวะมาขอข้อมูลที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ด้านหน้าของจตุรัส และเพื่ออรรถรสในการชม ควรดื่มด่ำบรรยากาศด้วยการนั่งเล่นที่ลานขั้นบันไดในโมงยามที่ต่างกันของกลางวันและกลางคืนค่ะ
“มื้อเที่ยงใน Laneways ชื่อดัง”
ถ้าอยากเห็นแสงสีของเมลเบริน์ต้องไปเดิน Laneways ตรอกเล็กซอยน้อยทั้งหลายค่ะ ประเภทของ Laneways มีอยู่สองชนิด ถ้าไม่อาร์ตซี่ ศิลปะจ๋า ก็จะเป็นตรอกคาเฟ่ & ร้านอาหาร
Laneways สายแรกของเมืองที่ใครๆก็ไม่ควรพลาด ก็คือ Degraves St. ที่อัดแน่นไปด้วยคาเฟ่ ร้านอาหาร และร้านตัดผม? (เมลเบริน์มีร้าน barber เยอะค่ะ) และ Degraves Espresso Bar ก็เป็นสต็อปดังของตรอกนี้ มีที่นั่งทั้งด้านในและด้านนอก ฉันสั่ง Panini และสามีสั่งสปาเก็ตตี้เนื้อมากินกัน รสชาติอาหารใช้ได้ ให้คะแนนกลางๆ แต่บรรยากาศดีค่ะ
อีก Laneways ที่น่าสนใจไม่น้อยก็คือ Centre Plc (Place) ซึ่งเดินต่อจาก Degraves St. ได้ ตรอกนี้จะแคบแต่มีร้านน่าหม่ำอยู่หลายร้านเลย เช่น Shan Dong MaMa Mini อาหารจีน เกี๊ยวชื่อดังของเมือง หรือ Hell’s Kitchen ค่ะ
“ถ่ายรูปอวดโซเซียลที่ Graffiti Laneways”
คนเมืองนี้น่าจะชอบระบายความในใจในที่สาธารณะ เดินไปตามถนนหนทาง ก็จะเห็นงานศิลปะตามกำแพง รวมถึงตัวหนังสือขูดขีดไว้หลายจุดรวมทั้งในห้องน้ำค่ะ
ทางการของเมืองคงเห็นความสามารถพิเศษด้านนี้ จึงจัดให้มี เขต Graffiti Tolerance Zone ซึ่งตรอกกราฟิตี้ที่ดังที่สุดของเมือง ก็คือ Hosier Lane ค่ะ
ผลงานศิลปะที่วาดเขียนบนกำแพงรวมถึงถังขยะในตรอกนี้ ได้รับใบเขียวจากผู้ดูแลเมืองให้ขีดเขียนได้อิสระ และมีงานศิลปะชิ้นใหม่ๆ มาให้ชมเป็นระยะ
ช่วงกลางวันคนค่อนข้างเยอะค่ะ มาช่วงพลบค่ำคนจะน้อยกว่า แสงธรรมชาติก็ยังพอมี แถมตรอกนี้ยังมีสปอร์ตไลท์ติดเป็นจุดๆ เหมือนสเตจชั้นดี ถ่ายรูปสวยทั้งกลางวันและกลางคืนเลย (อย่าลืมเอาขาตั้งกล้องมาด้วยจะช่วยให้ภาพคมชัดขึ้นค่ะ)
เลียบๆเคียงๆริมแม่น้ำ Yarra River
เห็นทางเท้าริมแม่น้ำทีไร อดใจไม่ไหวค่ะ ต้องก้าวขาลงไปเดินเลียบสายน้ำทุกครั้ง … แม่น้ำยาร่าสายนี้ ก็คงเหมือนกับเจ้าพระยา เทมส์ หรือแซนด์ที่ไหลผ่านเมืองเอกทั่วโลก สร้างความเย็นใจ และภูมิทรรศน์น่าชมให้กับเมืองใหญ่
สายน้ำกว่าสองร้อยกิโลเมตร ไหลผ่ากลางเมลเบริน์ ก่อนจะไปสู่ยาร่าวัลเลย์ (Yarra Valley) แหล่งปลูกไร่องุ่นชั้นนำ และออกสู่ทะเลในที่สุด
จาก Fed Sq มีบันไดลงไปยังทางเดินเลียบแม่น้ำ หรือจะข้ามสะพานไปยังฝั่ง Southgate และหันกลับมามองตึกสูง ที่กระจุกตัวเป็นกลุ่มของเมลเบริน์ก็ได้
ยามราตรี ท่ามกลางอุณภูมิ 12 องศา ฉันและสามีกุมคอเสื้อให้กระชับขึ้น ลมเย็นปะทะใบหน้า แต่เราก็ยังเดินเล่นชิลๆ ชมแสงสีของเมืองทางฝั่ง Southgate ก่อนจะข้ามสะพาน Evan Walk ไปยังฝั่งตัวเมือง … สุขใจจริงๆค่ะ
“ทัวร์ชมคุกเก่า Old Melbourne Gaol”
คุกเก่ากว่าสองร้อยปีแห่งนี้ ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม ทัวร์ชมคุกมีอยู่ด้วยกัน 2 ส่วน หนึ่ง คือ Old Melbourne Gaol คุกที่จองจำนักโทษและประหารชีวิตผู้กระทำความผิดมาแล้วไม่น้อยกว่า 136 คน
ภายในพิพิธภัณฑ์ของ Old Melbourne Gaol ห้องคุมขังนักโทษถูกเปลี่ยนเป็นห้องจัดแสดง นำเสนอวิธีการลงโทษ อุปกรณ์ทรมาน รวมถึงชีวะประวัติของนักโทษคนสำคัญ Ned Kelly โจรป่าชื่อดังในตำนานของรัฐวิคทอเรียค่ะ
บรรยากาศในคุกนี้ หลอนและสยองนิดๆ แสงทึมๆและไอเย็นที่ซึมผ่านพื้นและผนังหิน บวกกับรูปปั้นส่วนหัวของนักโทษที่จัดแสดงอยู่แต่ละห้องทำให้ขนลุกชันได้เป็นระยะ
อีกส่วนของพิพิธภัณฑ์ก็คือสถานีตำรวจเก่า ในแต่ละวันจะมีรอบการเข้าชม Police Watch House Experience อยู่ 3-4 รอบ การเข้าชมในส่วนนี้ จะมีนายจ่า Sargent มาพาเดิน มีการเล่น Role Play โดยตัวเราจะกลายเป็นนักโทษ ทำให้เรา รู้จักขั้นตอนการปฏิบัติต่อนักโทษที่กระทำความผิดในอดีต
ไฮไลท์ของทัวร์นี้ คงอยู่ที่เราจะได้เข้าไปนั่งในห้องคุมขังนักโทษจริงๆ นายตำรวจจะปิดไฟจนมืดจนทำให้รู้สึกอึดอัด แม้จะเป็นเพียงเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น …
ก่อนกลับอย่าลืมถ่ายรูป mugshot ไว้เป็นที่ระลึกด้วยนะคะ … ทัวร์ชมคุกครั้งแรกของฉันและสามีสนุกมากกว่าที่คิดไว้ เราจึงโหวตให้เป็นประสบการณ์ที่โปรดที่ไม่ควรพลาดของเมลเบริน์เลยค่ะ
“ตื่นตะลึงกับห้องสมุดสวยงามที่สุด State Library of Victoria”
ขุมทรัพย์ทางปัญญาของเมือง ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Old Melbourne Gaol เดินถึงกันได้ภายในไม่กี่นาทีค่ะ State Library of Victoria อ้าแขนรับทุกคนด้วยรอยยิ้มและปราศจากค่าใช้จ่ายใดๆ
ถ้าคุณพอจะมีเวลา ฉันอยากให้ค่อยๆเดินชมทีละห้อง ดูความยิ่งใหญ่ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการอ่านซึ่งเป็นพื้นฐานของความรู้ทั้งมวล
แต่ถ้าคุณมีเวลาน้อย หลายคนคงเลือกทางลัด ขึ้นลิฟท์ไปชมไฮไลท์กันที่ Reading Room ชั้น 4 ตะลึงกับความอลังการของโถงห้องอ่านหนังสือ กับโดมกระขนาดมหึมาที่ปลดปล่อยแสงธรรมชาติลงมายังด้านล่าง รวมถึงหนังสือหลายล้านเล่ม ที่เรียงรายอยู่ตามชั้นต่างๆ
และถ้าคุณสังเกตดูดีๆ ห้องอ่านหนังสือขนาดแปดเหลี่ยมที่โต๊ะเก้าอี้จัดวางเหมือนดาวกระจายนี้ หนาแน่นไปได้ผู้คน คอมพิวเตอร์กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญบนโต๊ะ และมุมซ้ายมือก็ยังเป็นจุดดวลหมากรุก กิจกรรมที่คนเมลเบริน์ น่าจะชื่นชอบกันไม่น้อย
“ทอดน่องใน Royal Botanic Gardens”
ฉันและสามีมักจะใจอ่อนกับสวนเขียวขจีที่เราชอบจ้อกกิ้งกันตอนเช้าๆ …
Royal Botanic Gardens มีขนาดใหญ่โตมโหราฬ หากจะเดินให้ครบก็คงจะใช้เวลานาน เส้นทางเดินก็มีหลายสาย เช่น Australian Forest Walk, Fern Gully หรือจะเป็น Camelia Garden
ใครมีเวลาไม่มาก ฉันแนะนำให้เดินเล่นในระยะทางสั้นๆ ใช้เวลาเพียง 20 นาที ไปยัง Shrine of Remembrance ค่ะ จะผ่านสนามหญ้าเขียวขจี นาฬิกาดอกไม้ อนุเสาวรีย์ค่ะ
“Shrine of Remembrance”
อนุสรณ์สถานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารหาญ 1,900 คน ผู้เสียชีวิตในตะวันออกกลางช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ค่ะ
Shrine of Remembrance ตั้งอยู่ห่างจาก NGV (National Gallery of Victoria) เพียง 15-20 นาทีเท่านั้น เดินผ่าน Royal Botanic Gardens สักพักก็จะเห็นอนุสรณ์แห่งนี้ตั้งอยู่ลิบๆที่ปลายถนน
ในวันที่ฉันไปเยี่ยมชม มีการแสดง Ray of Lights พอดี … แสง Spotlight ที่ส่องผ่านหินจารึกกลางห้อง รำลึกถึงผู้เสียชีวิต พร้อมกับเสียงเพลงคลอเบาๆ ทำให้ทั้งห้องเงียบงัน ก่อนหลายคนจะน้ำตาซึมด้วยคำพูดสุดท้ายที่ถูกพูดซ้ำและชัดเจนว่า “We will remember you” “We will remember you”
คุณลุงผู้ดูแล Shrine of Remembrance เล่าให้ฟังหลังจากจบการแสดง Ray of Lights ว่า ศพของทหารทั้ง 1,900 คน ไม่ได้ถูกส่งกลับมาที่รัฐวิคทอเรีย ครอบครัวและญาติสนิทของทหารที่เสียชีวิตจึงไร้ที่พึ่งทางใจ และตัดสินใจรวบรวมเงินก่อสร้างอนุสรณ์แห่งนี้ เพื่อรำลึกและคลายความคิดถึงคนในครอบครัวที่เสียสละชีวิตเพื่อชาติค่ะ
“ชื่นชมฝีมือศิลปินชาวออสซี่ที่ The Ian Potter Centre”
ในบริเวณเดียวกับ Federation Square มีพิพิธภัณฑ์น่าชมอยู่ 2 แห่งค่ะ Ian Potter Centre เป็นแห่งแรก และถือเป็นส่วนหนึ่งของ National Gallery of Victoria (NGV)
ผลงานใน Ian Potter Centre เปิดให้ชมฟรีที่ชั้น 2 และ 3 เป็นผลงานของศิลปินชาวออสเตรเลีย ตั้งแต่ยุคอาณานิคม ยุคขุดทอง ยุคใหม่ รวมถึงศิลปะของชาวอะบิริจิ้นชนพื้นเมืองของประเทศ
ด้วยการจัดการและจำนวนห้องที่ไม่เยอะ ทำให้เดินง่าย ชิ้นงานแต่ละชิ้นถูกเขียนบรรยายให้เข้าใจง่าย หนึ่งชั่วโมงที่เดินชมจึงไม่น่าเบื่อเลยค่ะ สนุกและได้ความรู้ด้วยกลับมาด้วย
“ท่องโลกภาพยนตร์ ACMI”
ACMI ย่อมาจาก Australian Centre for the Moving Image พูดง่ายๆก็คือพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมโลกของภาพยนต์ วิวัฒนาการของภาพ เสียง จนมาถึงยุคดิจิตอลอย่างทุกวันนี้
ACMI เป็นที่ชื่นชอบของสามีมาก คนรักหนังต้องถูกใจ เพราะที่นี่มีอุปกรณ์และเรื่องราวให้ชมอย่างละเอียด อีกทั้งยังมี เรื่องราวของผู้กำกับและดาราออสซี่ดังๆหลายคน เช่น Cate Blanchett หรือ George Miller ผู้กำกับ Mad Maxx และ Happy Feet
มุมโปรดของสามี ก็คือห้อง Matrix อุโมงค์ดิจิตัลที่ให้เราเข้าไปออกท่าทาง โดยภาพที่ออกมาจะคล้ายกับหนังเรื่อง Matrix เลยค่ะ … สนุกและฮาดี
“ขับรถเที่ยว Day Trip รอบๆเมลเบริน์”
รอบๆรัศมีของเมลเบริน์ยังมี Day Trip ที่สนใจอยู่หลายกิจกรรมค่ะ ตลอด 8 วันในเมลเบริน์ ฉันไป Day Trip สลับกับเที่ยวในตัวเมือง … วันไหนอากาศดี ก็ขับรถออกไปนอกเมือง แต่ถ้าวันไหนฝนตก ก็อยู่ในเมืองไป (เช็คสภาพอากาศก่อนล่วงหน้า 1 วัน เพื่อจองรถค่ะ) และนี่ก็คือ 5 Day Trip ที่แนะนำสำหรับทริปเมลเบริน์
Yarra Valley เหมาะสำหรับคนรักไวน์ พื้นที่ของออสเตรเลียตรงนี้ มีอุณภูมิเหมาะสมกับการปลูกองุ่น ไวน์ที่ได้ของโลกใหม่จึงรสจัดกว่าที่อื่นของประเทศ การเดินทางจากเมลเบริน์ไปใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ (รายละเอียดของ ทริปนี้จะเขียนเล่าให้ฟังต่อไปค่ะ)
Great Ocean Road เส้นทางเลียบมหาสมุทรกว่าสองร้อยกิโลนี้ สวยงามบาดตา แต่เป็นทริปโหดที่ใช้เวลาประมาณ 10-12 ชั่วโมง ผ่านเส้นทางคดเคี้ยว เลี้ยวหักศอกในบางช่วง แต่อย่างที่บอกไป Long journey pays the rewards เพราะจุดหมายนั้นสวยงามน่าประทับใจจริงๆค่ะ
Phillip Island และ Penguin Parade ฉันเคยไปทัวร์ชมนกเพนกวินตัวจิ๋วนี้แล้วเมื่อสิบปีก่อน คราวนี้เลยข้ามไป แต่ก็อยากแนะนำให้สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กค่ะ เพราะบน Phillip Island ยังมีกิจกรรมสนุกมากมาย เด็กๆน่าจะชอบใจค่ะ
Ballarat Sovereign Hill เป็นอีกทริปสำหรับเด็กๆ ฉันจำได้ว่าเคยไปร่อนทองที่หมู่บ้านจำลอง Sovereign Hill บ้านเรือน สร้างน่ารัก คล้ายๆกับยุคคาวบอย สนุกค่ะ เด็กๆน่าจะชอบอีกเหมือนกัน
Puffing Billy & Healesvill Sanctuary เป็นเดย์ทริปที่อยากไปมากที่สุด แต่เพราะอากาศหนาว คงเดินป่าไม่สนุก ฝนก็ตกเกือบทุกวันเพราะอยู่ในช่วงเปลี่ยนฤดู ฉันจึงอดขึ้นรถไฟหัวไอน้ำแล่นผ่านป่าเขียวของเมืองค่ะ
Related Posts: