กว่า 2 ปีที่ชื่อเสียงของร้านข้าวและเชฟวิชิตโด่งดังมากระทบหู แต่เพราะช่วงนั้นยังอาศัยอยู่ที่สิงคโปร์ ตารางสำหรับ Chef’s Table จึงไม่ลงตัวสักที แต่วันนี้ “ข้าว” เปิดให้บริการร้านอาหารเต็มรูปแบบ ไม่ได้มีแค่ Chef’s Table อีกต่อไป เมนู A la carte ของมื้อกลางวันและเย็นทำให้ฉันรีบนัดน้องๆรวมตัวไปชิมฝีมือเชฟวิชิตเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาค่ะ
ความประทับใจแรกคือที่จอดรถที่มีล้นเหลือ ต่างจากร้านอาหารในซอยเอกมัยและทองหล่อทั่วไป บรรยากาศของร้าน ก็ดูสบายตา ใช้ไม้เนื้ออ่อนตกแต่ง แต่ก็แต้มด้วยความเป็นไทย เป็นดีไซน์ที่โปร่ง โล่ง และนั่งสบายบนโซฟานุ่มบุนวมมุมนี้
รายการเครื่องดื่มของ “ข้าว” น่าตื่นตาตื่นใจมากค่ะ ค๊อกเทลชื่อน่าฟังมีให้เลือกลาะลานตา แต่เพราะยังเที่ยงวันอยู่ เลยของดแอลกอฮอลล์ และสั่งสมูตตี้มะพร้าวอัญชัญ หวานมันและหอมกะทิ ต่อด้วยน้ำมะตูม และน้ำส้มเสาวรส มาเพิ่มความสดชื่นกันคนละแก้ว
ถัดมาเป็นเซ็ตของว่างรวม (420 บาท) อาหารทานเล่น 4 ชนิด ในชามลายไทย ประกอบด้วยหมี่กรอบ พล่าปลาทู ทอดมัดกุ้งหมึก และยำส้มโอ เซ็ตนี้พอร์ชั่นดูน้อยแต่กินกัน 4 คนสบายๆค่ะ
หมี่กรอบทอดได้กรอบกริบ สะเด็ดน้ำมันแห้งไม่เลี่ยน แต่รสชาติค่อนข้างอ่อน
ทอดมันกุ้งหมึก อร่อยค่ะ ลาดน้ำซอสสีส้มหวานๆ กลอมกล่อมดี
มาถึงเมนูหลักกันบ้าง พนักงานบอกว่า ซิกเนเจอร์ของร้านที่ควรสั่งก็คือจานที่เป็นรูปใหญ่ในเมนู เราจึงเปิดเมนูและไล่เรียงสั่งกันมา 3 จาน
แกงเผ็ดปูกับใบชะพลู (540 บาท)
ผัดพริกขิงปลาดุกฟู (320 บาท)
อร่อยเด็ดที่สุดเมนูนี้ค่ะ
ไข่เจียวปู (520 บาท)
ส่วนจานสุดท้ายเป็น request ของโป่ง ไม่ใช่ซิกเนเจอร์ เนื้อย่างข้าวคั่วจิ้มแจ่ว (520 บาท)
รสชาติอาหารทุกจานออกไปทางกลมกล่อมและอ่อนโยน กินได้เรื่อยๆ อาจไม่จัดจ้านเหมือนทำทานที่บ้าน แต่ก็มีความละเมียดละไมแทรกอยู่ เช่นเดียวกับเทคนิคพิเศษซึ่งเชื่อว่าเชฟวิชิตเป็นคนออกแบบ ตัวอย่าง ไข่เจียวปู ทอดได้กรอบด้านนอกแต่ด้านในเยิ้มฉ่ำเหมือนไข่ออมเล็ต หรือจะเป็นผัดพริกขิงปลาดุกฟู ที่กลายเป็นเมนูโปรด ของทุกคน เพราะเนื้อปลาดุกถูกยีให้ฟูและกรอบ รสชาติหวานและเผ็ดลงตัว แทรกเข้าไปในเนื้อปลาดุก ที่สำคัญไม่แฉะและไร้น้ำมันมันย่องค่ะ
ก่อนจะไปถึงบทสรุปของ “ข้าว” เรามาชมขนมหวานกันก่อน ถ้วยแรกเป็นบัวลอยไข่เค็ม (160 บาท) ตามมาด้วย ถั่วแปปไอศกรีมมะพร้าว (180 บาท) สาคูข้าวโพด (120 บาท) และขนมไทยรวม (280 บาท) ซึ่งเป็นจานพิเศษ จากทางร้านมองให้เพื่อเซอร์ไพร์น้องมิ้ง น้องเล็กของเรา
บัวลอยไข่เค็ม
ถั่วแปป ไอศกรีมมะพร้าว
สาคูข้าวโพด
ขนมไทยรวม มีขนมชั้น ข้าวเหนียวแก้ว เปียกปู พร้อมกับผงชาเขียวเขียน Happy Birthday ค่ะ
บทสรุปของ “ข้าว” กลายเป็นความหนักใจของกรรมการทั้ง 3 คน เพราะถึงแม้ 2 เมนูชูโรง ผัดพริกขิงปลาดุก และบัวลอยไข่เค็ม จะอร่อยเด็ด ทว่าจานอื่นยังขาดหมัดฮุ๊กที่จะน๊อกเราได้ทั้งโต๊ะ คะแนนของร้านจึงให้ได้ยากมาก แต่ถ้าจะต้องกัดฟันกันจริงๆ ฉันให้ 3/5 ค่ะ และถึงแม้คะแนนจะยังไม่อร่อยเกินความคาดอร่อย แต่ฉันก็มั่นใจว่า จะกลับไปกินอีกแน่นอน เพราะ “ข้าว” ยังมีอีกหลายเมนูที่อยากชิม และฉันก็เชื่อว่าด้วยว่าจะไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
ป.ล. ร้านนี้ยังเหมาะกับแขกชาวต่างชาติด้วยค่ะ พาเพื่อต่างทวีปมาอวดได้อย่างไม่อายใครเลย
ที่ตั้ง 15 เอกมัย ซอย 10 คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพ
เปิด ปิด วันอังคาร – อาทิตย์ 12:00 – 15:00 น. และ 18:00 – 23:59 น. ปิดวันจันทร์
โทรศัพท์ 02-381-2575 หรือ 098-829-8878
ราคาเฉลี่ยคนละ 800 – 1,200 บาท
http://khaogroup.com
24 Nov 2017
0 Comments
Khao (ข้าว) ✪✪✪
กว่า 2 ปีที่ชื่อเสียงของร้านข้าวและเชฟวิชิตโด่งดังมากระทบหู แต่เพราะช่วงนั้นยังอาศัยอยู่ที่สิงคโปร์ ตารางสำหรับ Chef’s Table จึงไม่ลงตัวสักที แต่วันนี้ “ข้าว” เปิดให้บริการร้านอาหารเต็มรูปแบบ ไม่ได้มีแค่ Chef’s Table อีกต่อไป เมนู A la carte ของมื้อกลางวันและเย็นทำให้ฉันรีบนัดน้องๆรวมตัวไปชิมฝีมือเชฟวิชิตเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาค่ะ
ความประทับใจแรกคือที่จอดรถที่มีล้นเหลือ ต่างจากร้านอาหารในซอยเอกมัยและทองหล่อทั่วไป บรรยากาศของร้าน ก็ดูสบายตา ใช้ไม้เนื้ออ่อนตกแต่ง แต่ก็แต้มด้วยความเป็นไทย เป็นดีไซน์ที่โปร่ง โล่ง และนั่งสบายบนโซฟานุ่มบุนวมมุมนี้
รายการเครื่องดื่มของ “ข้าว” น่าตื่นตาตื่นใจมากค่ะ ค๊อกเทลชื่อน่าฟังมีให้เลือกลาะลานตา แต่เพราะยังเที่ยงวันอยู่ เลยของดแอลกอฮอลล์ และสั่งสมูตตี้มะพร้าวอัญชัญ หวานมันและหอมกะทิ ต่อด้วยน้ำมะตูม และน้ำส้มเสาวรส มาเพิ่มความสดชื่นกันคนละแก้ว
ถัดมาเป็นเซ็ตของว่างรวม (420 บาท) อาหารทานเล่น 4 ชนิด ในชามลายไทย ประกอบด้วยหมี่กรอบ พล่าปลาทู ทอดมัดกุ้งหมึก และยำส้มโอ เซ็ตนี้พอร์ชั่นดูน้อยแต่กินกัน 4 คนสบายๆค่ะ
หมี่กรอบทอดได้กรอบกริบ สะเด็ดน้ำมันแห้งไม่เลี่ยน แต่รสชาติค่อนข้างอ่อน
ทอดมันกุ้งหมึก อร่อยค่ะ ลาดน้ำซอสสีส้มหวานๆ กลอมกล่อมดี
มาถึงเมนูหลักกันบ้าง พนักงานบอกว่า ซิกเนเจอร์ของร้านที่ควรสั่งก็คือจานที่เป็นรูปใหญ่ในเมนู เราจึงเปิดเมนูและไล่เรียงสั่งกันมา 3 จาน
แกงเผ็ดปูกับใบชะพลู (540 บาท)
ผัดพริกขิงปลาดุกฟู (320 บาท)
อร่อยเด็ดที่สุดเมนูนี้ค่ะ
ไข่เจียวปู (520 บาท)
ส่วนจานสุดท้ายเป็น request ของโป่ง ไม่ใช่ซิกเนเจอร์ เนื้อย่างข้าวคั่วจิ้มแจ่ว (520 บาท)
รสชาติอาหารทุกจานออกไปทางกลมกล่อมและอ่อนโยน กินได้เรื่อยๆ อาจไม่จัดจ้านเหมือนทำทานที่บ้าน แต่ก็มีความละเมียดละไมแทรกอยู่ เช่นเดียวกับเทคนิคพิเศษซึ่งเชื่อว่าเชฟวิชิตเป็นคนออกแบบ ตัวอย่าง ไข่เจียวปู ทอดได้กรอบด้านนอกแต่ด้านในเยิ้มฉ่ำเหมือนไข่ออมเล็ต หรือจะเป็นผัดพริกขิงปลาดุกฟู ที่กลายเป็นเมนูโปรด ของทุกคน เพราะเนื้อปลาดุกถูกยีให้ฟูและกรอบ รสชาติหวานและเผ็ดลงตัว แทรกเข้าไปในเนื้อปลาดุก ที่สำคัญไม่แฉะและไร้น้ำมันมันย่องค่ะ
ก่อนจะไปถึงบทสรุปของ “ข้าว” เรามาชมขนมหวานกันก่อน ถ้วยแรกเป็นบัวลอยไข่เค็ม (160 บาท) ตามมาด้วย ถั่วแปปไอศกรีมมะพร้าว (180 บาท) สาคูข้าวโพด (120 บาท) และขนมไทยรวม (280 บาท) ซึ่งเป็นจานพิเศษ จากทางร้านมองให้เพื่อเซอร์ไพร์น้องมิ้ง น้องเล็กของเรา
บัวลอยไข่เค็ม
ถั่วแปป ไอศกรีมมะพร้าว
สาคูข้าวโพด
ขนมไทยรวม มีขนมชั้น ข้าวเหนียวแก้ว เปียกปู พร้อมกับผงชาเขียวเขียน Happy Birthday ค่ะ
บทสรุปของ “ข้าว” กลายเป็นความหนักใจของกรรมการทั้ง 3 คน เพราะถึงแม้ 2 เมนูชูโรง ผัดพริกขิงปลาดุก และบัวลอยไข่เค็ม จะอร่อยเด็ด ทว่าจานอื่นยังขาดหมัดฮุ๊กที่จะน๊อกเราได้ทั้งโต๊ะ คะแนนของร้านจึงให้ได้ยากมาก แต่ถ้าจะต้องกัดฟันกันจริงๆ ฉันให้ 3/5 ค่ะ และถึงแม้คะแนนจะยังไม่อร่อยเกินความคาดอร่อย แต่ฉันก็มั่นใจว่า จะกลับไปกินอีกแน่นอน เพราะ “ข้าว” ยังมีอีกหลายเมนูที่อยากชิม และฉันก็เชื่อว่าด้วยว่าจะไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
ป.ล. ร้านนี้ยังเหมาะกับแขกชาวต่างชาติด้วยค่ะ พาเพื่อต่างทวีปมาอวดได้อย่างไม่อายใครเลย
ที่ตั้ง 15 เอกมัย ซอย 10 คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพ
เปิด ปิด วันอังคาร – อาทิตย์ 12:00 – 15:00 น. และ 18:00 – 23:59 น. ปิดวันจันทร์
โทรศัพท์ 02-381-2575 หรือ 098-829-8878
ราคาเฉลี่ยคนละ 800 – 1,200 บาท
http://khaogroup.com
Related Posts: