ทริปฉุกละหุกนี้จองทุกอย่างเสร็จสรรพ EMS อย่างด่วนภายในไม่กี่วัน … สำหรับการเดินทางไกล 2 อาทิตย์ที่มีสูงวัยอายุเกิน 70 ปี และเด็กต่ำกว่า 12 ขวบอีก 2 คน รวมทั้งหมด 8 ชีวิต เรียกกว่าฉุกละหุกจริงๆค่ะ แต่เพราะทุกคนอยากไปเที่ยว และเที่ยวนี้ต้องเป็นยุโรปเท่านั้น ฉันจึงรีบค้นหาตั๋วชั้นธุรกิจราคาถูก และเมื่อเจอ สปอนเซอร์ใหญ่ (คุณพ่อ) จึงให้รูดปรื้ดในบัดดล !!!
สายการบิน Qatar Airways เป็นประสบการณ์ใหม่ของครอบครัว ทุกคนแอบหวั่นใจและหวั่นกลิ่น แม้ฉันจะให้ความ มั่นใจอย่างไรเพราะเคยใช้บริการไปลอนดอนมาแล้ว แต่ความกังขาของทุกคนก็ยังมีอยู่จนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่อง …
บล็อกชั้นธรุกิจของ Qatar Airways www.qatarairways.com น่าจะมีรีวิวให้อ่านได้ทั่วไป ฉันจึงไม่ขอเล่ารายละเอียด แต่จะรวบตึงเอาเฉพาะจุดเด่นและจุดด้อยมาเล่าให้ฟังอย่างกระชับแต่เห็นภาพแน่นอนค่ะ
Qatar Airways Bangkok Premium Lounge
ห้องเลาจน์ของ Qatar Airways ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดใหม่เมื่อต้นปี 62 ทุกอย่างภายในยังใหม่เอี่ยม และโอ่โถง ห้องอาหารหลักกว้างขว้าง มีโซฟาหนังหรูประดับ กลางห้องเป็นเคาน์เตอร์อาหารและเครื่องดื่ม มีโต๊ะทานอาหารหลายโต๊ะตั้งอยู่ข้างๆ ห้องเลาจน์นี้มีจุดถ่ายรูปมากมายค่ะ และยังมีหลายห้องหลายโซนอีกด้วย โดยรวมตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่มีความวิ้งวับและดวงดาวประกายแสงแทรกอยู่ตามสไตล์อาหรับราตรี
อาหารเช้าของวันนั้น มีบริการทั้งอาหารร้อนและของทานเล่น เช่น ผลไม้ แซนด์วิช เครื่องดื่มก็ครบครัน เช่น กาแฟ หรือฮ๊อตช้อกโกแล็ต จะดื่มเหล้า จิบไวน์ ก็มีให้ตั้งแต่เช้าตรู่ แต่เมนูถูกใจสูงวัยและสองลิงจะเป็นอะไรได้ถ้าไม่ใช่ไข่สารพัดอย่าง … ถือเป็นการเริ่นต้น journey ที่แฮปปี้กันถ้วนหน้าค่ะ
Qatar Airways Aircraft
การเดินทางทริปนี้ เราเปลี่ยนเครื่องกันที่ Doha เลยได้นั่งเครื่องบินของ Qatar Airways กันถึง 4 ลำ แต่ละลำก็มีที่นั่ง และการจัดวางที่ต่างกันไป สรุปออกมาสั้นๆได้ดังนี้ค่ะ
Q Suites เป็นที่นั่งชั้นธุรกิจที่มีบริการในบางเครื่องของรุ่น Boeing 777 และ A350 เราได้นั่งในห้อง Q Suites กัน 2 ไฟลท์ ระหว่าง Bangkok – Doha และ Vinenn – Doha
ผู้โดยสารที่ได้ห้องแบบ Q Suites นี้จะรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวขั้นสูงสุด สไลด์ประตูปิดเมื่อไหร่ก็จะเกิดความสงบและปลีกวิเวกไม่เหมือนกับนั่งเครื่องบินเลย ที่นั่ง Q Suites นี้ให้อารมณ์ประหนึ่งนั่งชั้น First Class ของสายการบินอื่น และที่พิเศษย่ิงไปกว่านั้นก็คือ เมื่อมาเป็นคู่ ปรับเก้าอี้ให้นอนราบ เอาที่กั้นออก จะเหมือนได้นอนเตียงเดียวกัน และถ้ามากัน 4 คน เลือกที่นั่งหันหน้าเข้าหากัน และลดที่กั้นลง ก็จะได้เป็นหนึ่งห้องใหญ่ เป็น Family Room บนอากาศ ที่หลานๆแฮปปี้กันมาก เรียกร้องจะนั่งแต่ห้อง Q Suites ในทุกไฟลท์ เพราะที่นั่งใหญ่ เบาะหนังนุ่มสบาย ที่เก็บของเยอะ และ leg rooms กว้างขวางค่ะ
สำหรับเครื่องลำอื่นที่ไม่ใช่ Q Suites ที่นั่งชั้นธุรกิจก็จะเป็นคอกเล็กๆ เหมือนของสายการบินทั่วไป เครื่อง A350 จาก Doha-Vienna จะมีเลาจน์ขนาดเล็กให้บริการตรงกลางห้อง หลังจากเครื่องขึ้นก็จะมีเครื่องดื่มและกับแกล้มเสิร์ฟ แต่เราไม่ได้ใช้บริการเลยค่ะ ผล๊อยหลับตั้งแต่ก่อน take off เสียอีก
เครื่องลำสุดท้ายที่ได้บินกลับจาก Doha – Bangkok เป็นเครื่องบินรุ่น A330 เป็นเครื่องรุ่นเล็กและเก่าที่สุด หากเทียบกับ A350 และ Boing 777 (เครื่องโบอิ้งก็เก่า แต่ปรับปรุงภายในใหม่เอี่ยมเลยค่ะ) ที่นั่งชั้นธุรกิจของ A330 ก็จะเล็กตามทรงของเครื่อง นอนไม่ค่อยสบาย อึดอัดกว่าถ้าเทียบกับ Q Suites ที่หรูหราหมาเห่าดัง Kardasian Family (หลานสาวกล่าวไว้ ป้าเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ชมค่ะ)
อาหารบนเครื่องบิน ถูกปากทุกคนอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ ทั้งอาหารว่าง จานหลัก ขนมหวาน เครื่องดื่ม ค๊อกเทล รวมถึง welcome drink ถ้วยสีเขียวที่มีตะไคร้ผสมด้วย จะมีก็แต่อาหารเช้าที่ไม่ค่อยปลื้มกันเท่าไหร่ แต่โดยรวมให้คะแนนเกือบเต็ม
ใบหน้าของหลานชายที่ได้ของที่ระลึกจากพี่แอร์คนสวยทุกไฟล์ …
เอนเตอร์เทนเม้นต์ครบครัน หลานชายเล่นเกมส์ยิงยาว 4 ชั่วโมง หลานสาวก็ซึ้งกับหนังเรื่อง The Sound of Music ที่ Julie Andrews แสดง ก่อนจะดูของจริงที่เมือง Salzburg
Flight Information : ขาไป
QR831 ออกจาก BKK 9.05 น. ถึง Doha 12.05 น. ด้วยเครื่อง Boeing 777-300ER ที่นั่งแบบ Q Suites
เวลาบินประมาณ 7ชั่วโมง เปลี่ยนเครื่องประมาณ 3 ชั่วโมง
QR185 ออกจาก Doha 15.45 น. ถึง Vienna 20.25 น. ด้วยเครื่อง A350
เวลาบิน5 ชั่วโมง 35 นาที
Flight Information : ขากลับ
QR184 ออกจาก Vienna 18.30 น. ถึง Doha 00.45 น. ด้วยเครื่อง A350 ที่นั่งแบบ Q Suites
เวลาบิน 5 ชั่วโมง 35 นาที เปลี่ยนเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
QR836 ออกจาก Doha 2.15 น. ถึง BKK 13.30 น. เครื่อง A330
เวลาบินประมาณ 7 ชั่วโมง
Al Mourjan Business Lounge
สูงวัยถามว่า พักเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน Doha ตั้ง 3 ชั่วโมงแล้วจะเบื่อไหม? ฉันตอบได้อย่างไม่ต้องคิดเลยว่าไม่เบื่อ แน่นอน แถมจะติดใจเสียอีก เพราะเลาจน์ของประเทศบ้านเกิดเค้าใหญ่โตมโหราฬ ประมาณโรงแรม 5 ดาว ขนาดเกือบเท่าหนึ่งฟลอร์ช้อปปิ้งของศูนย์การค้าในประเทศไทย
เก้าอี้นั่งพักก็มีให้นั่งเป็นร้อยๆชุด แต่ละจุดก็คนละดีไซน์ เครื่องดื่มไม่เคยขาดสาย แต่ถ้าจะกินอาหารทีบริการอยู่ 2 ร้านค่ะ ห้องอาหารชั้นลอย เดินขึ้นบันไดวนไป เป็นห้องอาหารหลัก บริการอาหารร้อนแบบบุฟเฟต์ ต่างจากเมื่อ 2 ปีก่อน มี a la carte menu จาก เชฟมิชลินด้วย
ส่วนอีกห้องอาหารอยู่ชั้นล่าง เดินไปสุดทางจะเจอร้านอาหารแบบ light meal พวกแซนด์วิชและซุป สรุปเรากินทั้ง 2 ร้านเพราะเครื่องบินดีเลย์ค่ะ จากเปลี่ยนเครื่อง 3 ชั่วโมง กลายเป็น 4 ชั่วโมง30 นาที แต่ก็ไม่เบื่อนะ ยังยืนยันคำเดิม 555 คงเพราะมากันทั้งครอบครัว มีเด็กๆคุยเล่น เซ็งๆก็เดินไปอาบน้ำ shower gel หอมกรุ่น หรือไม่ก็เดินลงไปช้อปปิ้ง เครื่องสำอางใน Duty Free ที่ Doha ราคาถูกค่ะ แบรนด์ Cliniqueและ MAC ที่ซื้อมาราคาดีกว่า Duty Free ที่สิงคโปร์ และไทยแลนด์อีก (ลูกค้าชั้นประหยัดที่สนใจเข้าห้องเลาจน์ ก็ซื้อ pass ได้ค่ะ ถ้าเปลี่ยนเครื่องนานๆ ก็ลองคิดดู รายละเอียดมีอยู่ในนี้ https://www.qatarairways.com/en/lounges/al-mourjan.html)
บทสรุปของชั้นธุรกิจสายการบิน Qatar Airways ครอบครัวเราให้กัน 5 ดาวเต็ม … คุณพ่อหลงรักบริการที่เอาใจใส่ของแอร์ในทุกไฟล์ และจากที่เคยมีคำถาม กลายเป็นถามกลับว่า “Qatar Airways มีบินไปญี่ปุ่นบ้างไหม” “เส้นทางนี้มีบินหรือเปล่า” เพราะใจหลังจากนี้คิดอยากจะนั่งแต่ Qatar Airways ไปเสียแล้ว 555
แต่นั่น … เป็นบทสรุปของครอบครัวค่ะ บทสรุปของป้า คนจองและเลื่อนตั๋วให้กับทุกคน ให้คะแนน Qatar Airways ที่ 4 ดาว หัก 1 คะแนนเพราะ 3 สาเหตุนี้
1. หมายเลขติดต่อออฟฟิสของ Qatar Airways ในกรุงเทพโทรติดยากมาก เสริช์ในเน็ตดูถึงรู้ว่า หัวข้อนี้ขึ้นเทรนด์อันดับหนึ่งในพันทิปกันเลย ร้องเรียนกันขนาดนี้น่าจะแก้ไขอย่างเร่งด่วนนะคะ
2. ถ้าต้องเปลี่ยนไฟล์ทเดินทาง ราคาตั๋วจะคิดใหม่ กลายเป็นตั๋วราคาสูงลิบ (น่าจะเพราะเป็นตั๋วชั้นธุรกิจราคาโปรโมชั่น) สามีที่ค้นพบว่าวีซ่าหมดอายุก่อนบิน 2 วัน เลยตัดสินใจยกเลิกตั๋วเดิม cancelation fee ประมาณหนึ่งหมื่นบาท และซื้อใหม่ทั้งไปและกลับหลังจากได้วีซ่าในราคาใกล้เคียงเดิม
3. สุดท้ายเป็นระบบการจอง Wheelchair ของคุณแม่ ซึ่งน่าสงสารที่สุด ดันปวดเข่าอย่างหนักก่อนบินเพียง 3 อาทิตย์ จะผ่าก็ไม่ทัน จึงขอใช้บริการ Wheelchair ตั้งแต่เคาน์เตอร์เช็คอินไปส่งถึงประตูเครื่อง ฉันระบุไปในระบบทุกไฟลท์ แต่กลับต้องรอรถเข็นกว่า 20 นาทีถึง 3 สนามบิน เจ้าหน้าที่ไม่เตรียมไว้ให้ก็เลยไม่รู้ว่าจะให้ระบุไปทำไมในระบบ เพราะสุดท้ายก็ต้องเรียกและรอ ยกเว้นไฟลท์ขากลับ Doha-BKK เท่านั้นที่โชคดีมีเจ้าหน้าที่มายืนรออยู่ที่ประตูเครื่อง
Moxy Vienna Airport
กว่าจะมาถึงสนามบินเวียนาก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน หรือเช้าตรู่ของกรุงเทพ … นี่เราเดินทางกันกว่า 20 ชั่วโมงเลย หรือ แต่ทำไมไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าไหร่ คงเพราะ “เก้าอี้มันนั่งสบาย กลายเป็นเตียงนอน 180 องศาได้เลย” หลานสาวบอก 55
Moxy Vienna Airport อยู่ใกล้กับสนามบินเวียนาค่ะ เดินลอดอุโมงค์ใต้ดินจากสนามบิน โผล่มาก็เจอโรงแรมอยู่ ข้างหน้าเลย หลังจากเช็คอินและจ่ายเงินค่าห้องเสร็จ เราก็เดินขึ้นห้องพักอย่างสโลสเล ฉันจองห้อง Moxy Sleeper Double สำหรับผู้ใหญ่ 2 คน 2 ห้อง และ Moxy Family Sleeper สำหรับ 4 คน มีเตียงนอนควีน และโซฟาเบดหนึ่งตัว สำหรับครอบครัวน้องสาว ห้องพักของโรงแรมมีขนาดเล็กเหมาะสำหรับค้างคืนเดียว เอาไว้ซุกตัวนอนก่อนเดินทางต่อ
รูปภาพจากเว็บของโรงแรม (เรามาถึงตอนกลางคืน ง่วงเกินจะถ่ายรูปค่ะ)
Sofa Bed ที่เปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งเตียงของห้อง Moxy Family Sleeper สำหรับ 4 คน
ล็อบบี้ของโรงแรมเป็น Open Space เป็นทั้งห้องรับแขก บาร์ และ co-working space ในบริเวณเดียวกัน ข้างผนังเป็นชั้นวางอาหาร และเครื่องดื่ม ให้ลูกค้าบริการตัวเอง หยิบแล้วก็มาจ่ายเงินที่รีเซพชั่น โรงแรมนี้อยู่ภายใต้เครือ Marriot การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกจึงครบถ้วนค่ะ บรรยากาศ และการตกแต่งสนุกสนาน วัยรุ่นและเป็นกันเอง
บทเรียนที่ 1 หากบินสายการบินที่ต้องต่อเครื่อง ควรบินระหว่างวันและถึงตอนกลางคืนให้สูงวัยได้พักผ่อน นอนให้อิ่มแล้วค่อยเดินทางต่อในวันถัดไป ซึ่งสนามบินทั่วๆไปจะมีโรงแรมใกล้สนามบิน และบริษัทรถเช่าก็มักจะอยู่ในบริเวณเดียวกัน สะดวกสบาย และไม่เหนื่อยสำหรับผู้สูงอายุค่ะ
(Ausfahrtsstraße 4, Vienna 1300 Austria ห้องคู่ ราคา 117.20 ยูโร ห้อง 4 คน ราคา 157.20 ยูโร หรือประมาณ 4,100 – 5,500 บาทต่อคืน https://www.marriott.com/hotels/travel/vieox-moxy-vienna-airport/)
16 Sep 2019
0 Comments
ทริปหอยทาก ออสเตรีย-ฮังการี-เช็ค : วันที่ 1 บินบนพรมแดงสู่ Vienna ด้วยสายการบิน Qatar Airways
ทริปฉุกละหุกนี้จองทุกอย่างเสร็จสรรพ EMS อย่างด่วนภายในไม่กี่วัน … สำหรับการเดินทางไกล 2 อาทิตย์ที่มีสูงวัยอายุเกิน 70 ปี และเด็กต่ำกว่า 12 ขวบอีก 2 คน รวมทั้งหมด 8 ชีวิต เรียกกว่าฉุกละหุกจริงๆค่ะ แต่เพราะทุกคนอยากไปเที่ยว และเที่ยวนี้ต้องเป็นยุโรปเท่านั้น ฉันจึงรีบค้นหาตั๋วชั้นธุรกิจราคาถูก และเมื่อเจอ สปอนเซอร์ใหญ่ (คุณพ่อ) จึงให้รูดปรื้ดในบัดดล !!!
สายการบิน Qatar Airways เป็นประสบการณ์ใหม่ของครอบครัว ทุกคนแอบหวั่นใจและหวั่นกลิ่น แม้ฉันจะให้ความ มั่นใจอย่างไรเพราะเคยใช้บริการไปลอนดอนมาแล้ว แต่ความกังขาของทุกคนก็ยังมีอยู่จนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่อง …
บล็อกชั้นธรุกิจของ Qatar Airways www.qatarairways.com น่าจะมีรีวิวให้อ่านได้ทั่วไป ฉันจึงไม่ขอเล่ารายละเอียด แต่จะรวบตึงเอาเฉพาะจุดเด่นและจุดด้อยมาเล่าให้ฟังอย่างกระชับแต่เห็นภาพแน่นอนค่ะ
Qatar Airways Bangkok Premium Lounge
ห้องเลาจน์ของ Qatar Airways ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดใหม่เมื่อต้นปี 62 ทุกอย่างภายในยังใหม่เอี่ยม และโอ่โถง ห้องอาหารหลักกว้างขว้าง มีโซฟาหนังหรูประดับ กลางห้องเป็นเคาน์เตอร์อาหารและเครื่องดื่ม มีโต๊ะทานอาหารหลายโต๊ะตั้งอยู่ข้างๆ ห้องเลาจน์นี้มีจุดถ่ายรูปมากมายค่ะ และยังมีหลายห้องหลายโซนอีกด้วย โดยรวมตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่มีความวิ้งวับและดวงดาวประกายแสงแทรกอยู่ตามสไตล์อาหรับราตรี
อาหารเช้าของวันนั้น มีบริการทั้งอาหารร้อนและของทานเล่น เช่น ผลไม้ แซนด์วิช เครื่องดื่มก็ครบครัน เช่น กาแฟ หรือฮ๊อตช้อกโกแล็ต จะดื่มเหล้า จิบไวน์ ก็มีให้ตั้งแต่เช้าตรู่ แต่เมนูถูกใจสูงวัยและสองลิงจะเป็นอะไรได้ถ้าไม่ใช่ไข่สารพัดอย่าง … ถือเป็นการเริ่นต้น journey ที่แฮปปี้กันถ้วนหน้าค่ะ
Qatar Airways Aircraft
การเดินทางทริปนี้ เราเปลี่ยนเครื่องกันที่ Doha เลยได้นั่งเครื่องบินของ Qatar Airways กันถึง 4 ลำ แต่ละลำก็มีที่นั่ง และการจัดวางที่ต่างกันไป สรุปออกมาสั้นๆได้ดังนี้ค่ะ
Q Suites เป็นที่นั่งชั้นธุรกิจที่มีบริการในบางเครื่องของรุ่น Boeing 777 และ A350 เราได้นั่งในห้อง Q Suites กัน 2 ไฟลท์ ระหว่าง Bangkok – Doha และ Vinenn – Doha
ผู้โดยสารที่ได้ห้องแบบ Q Suites นี้จะรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวขั้นสูงสุด สไลด์ประตูปิดเมื่อไหร่ก็จะเกิดความสงบและปลีกวิเวกไม่เหมือนกับนั่งเครื่องบินเลย ที่นั่ง Q Suites นี้ให้อารมณ์ประหนึ่งนั่งชั้น First Class ของสายการบินอื่น และที่พิเศษย่ิงไปกว่านั้นก็คือ เมื่อมาเป็นคู่ ปรับเก้าอี้ให้นอนราบ เอาที่กั้นออก จะเหมือนได้นอนเตียงเดียวกัน และถ้ามากัน 4 คน เลือกที่นั่งหันหน้าเข้าหากัน และลดที่กั้นลง ก็จะได้เป็นหนึ่งห้องใหญ่ เป็น Family Room บนอากาศ ที่หลานๆแฮปปี้กันมาก เรียกร้องจะนั่งแต่ห้อง Q Suites ในทุกไฟลท์ เพราะที่นั่งใหญ่ เบาะหนังนุ่มสบาย ที่เก็บของเยอะ และ leg rooms กว้างขวางค่ะ
สำหรับเครื่องลำอื่นที่ไม่ใช่ Q Suites ที่นั่งชั้นธุรกิจก็จะเป็นคอกเล็กๆ เหมือนของสายการบินทั่วไป เครื่อง A350 จาก Doha-Vienna จะมีเลาจน์ขนาดเล็กให้บริการตรงกลางห้อง หลังจากเครื่องขึ้นก็จะมีเครื่องดื่มและกับแกล้มเสิร์ฟ แต่เราไม่ได้ใช้บริการเลยค่ะ ผล๊อยหลับตั้งแต่ก่อน take off เสียอีก
เครื่องลำสุดท้ายที่ได้บินกลับจาก Doha – Bangkok เป็นเครื่องบินรุ่น A330 เป็นเครื่องรุ่นเล็กและเก่าที่สุด หากเทียบกับ A350 และ Boing 777 (เครื่องโบอิ้งก็เก่า แต่ปรับปรุงภายในใหม่เอี่ยมเลยค่ะ) ที่นั่งชั้นธุรกิจของ A330 ก็จะเล็กตามทรงของเครื่อง นอนไม่ค่อยสบาย อึดอัดกว่าถ้าเทียบกับ Q Suites ที่หรูหราหมาเห่าดัง Kardasian Family (หลานสาวกล่าวไว้ ป้าเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ชมค่ะ)
อาหารบนเครื่องบิน ถูกปากทุกคนอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ ทั้งอาหารว่าง จานหลัก ขนมหวาน เครื่องดื่ม ค๊อกเทล รวมถึง welcome drink ถ้วยสีเขียวที่มีตะไคร้ผสมด้วย จะมีก็แต่อาหารเช้าที่ไม่ค่อยปลื้มกันเท่าไหร่ แต่โดยรวมให้คะแนนเกือบเต็ม
ใบหน้าของหลานชายที่ได้ของที่ระลึกจากพี่แอร์คนสวยทุกไฟล์ …
เอนเตอร์เทนเม้นต์ครบครัน หลานชายเล่นเกมส์ยิงยาว 4 ชั่วโมง หลานสาวก็ซึ้งกับหนังเรื่อง The Sound of Music ที่ Julie Andrews แสดง ก่อนจะดูของจริงที่เมือง Salzburg
Flight Information : ขาไป
QR831 ออกจาก BKK 9.05 น. ถึง Doha 12.05 น. ด้วยเครื่อง Boeing 777-300ER ที่นั่งแบบ Q Suites
เวลาบินประมาณ 7ชั่วโมง เปลี่ยนเครื่องประมาณ 3 ชั่วโมง
QR185 ออกจาก Doha 15.45 น. ถึง Vienna 20.25 น. ด้วยเครื่อง A350
เวลาบิน5 ชั่วโมง 35 นาที
Flight Information : ขากลับ
QR184 ออกจาก Vienna 18.30 น. ถึง Doha 00.45 น. ด้วยเครื่อง A350 ที่นั่งแบบ Q Suites
เวลาบิน 5 ชั่วโมง 35 นาที เปลี่ยนเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
QR836 ออกจาก Doha 2.15 น. ถึง BKK 13.30 น. เครื่อง A330
เวลาบินประมาณ 7 ชั่วโมง
Al Mourjan Business Lounge
สูงวัยถามว่า พักเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน Doha ตั้ง 3 ชั่วโมงแล้วจะเบื่อไหม? ฉันตอบได้อย่างไม่ต้องคิดเลยว่าไม่เบื่อ แน่นอน แถมจะติดใจเสียอีก เพราะเลาจน์ของประเทศบ้านเกิดเค้าใหญ่โตมโหราฬ ประมาณโรงแรม 5 ดาว ขนาดเกือบเท่าหนึ่งฟลอร์ช้อปปิ้งของศูนย์การค้าในประเทศไทย
เก้าอี้นั่งพักก็มีให้นั่งเป็นร้อยๆชุด แต่ละจุดก็คนละดีไซน์ เครื่องดื่มไม่เคยขาดสาย แต่ถ้าจะกินอาหารทีบริการอยู่ 2 ร้านค่ะ ห้องอาหารชั้นลอย เดินขึ้นบันไดวนไป เป็นห้องอาหารหลัก บริการอาหารร้อนแบบบุฟเฟต์ ต่างจากเมื่อ 2 ปีก่อน มี a la carte menu จาก เชฟมิชลินด้วย
ส่วนอีกห้องอาหารอยู่ชั้นล่าง เดินไปสุดทางจะเจอร้านอาหารแบบ light meal พวกแซนด์วิชและซุป สรุปเรากินทั้ง 2 ร้านเพราะเครื่องบินดีเลย์ค่ะ จากเปลี่ยนเครื่อง 3 ชั่วโมง กลายเป็น 4 ชั่วโมง30 นาที แต่ก็ไม่เบื่อนะ ยังยืนยันคำเดิม 555 คงเพราะมากันทั้งครอบครัว มีเด็กๆคุยเล่น เซ็งๆก็เดินไปอาบน้ำ shower gel หอมกรุ่น หรือไม่ก็เดินลงไปช้อปปิ้ง เครื่องสำอางใน Duty Free ที่ Doha ราคาถูกค่ะ แบรนด์ Cliniqueและ MAC ที่ซื้อมาราคาดีกว่า Duty Free ที่สิงคโปร์ และไทยแลนด์อีก (ลูกค้าชั้นประหยัดที่สนใจเข้าห้องเลาจน์ ก็ซื้อ pass ได้ค่ะ ถ้าเปลี่ยนเครื่องนานๆ ก็ลองคิดดู รายละเอียดมีอยู่ในนี้ https://www.qatarairways.com/en/lounges/al-mourjan.html)
บทสรุปของชั้นธุรกิจสายการบิน Qatar Airways ครอบครัวเราให้กัน 5 ดาวเต็ม … คุณพ่อหลงรักบริการที่เอาใจใส่ของแอร์ในทุกไฟล์ และจากที่เคยมีคำถาม กลายเป็นถามกลับว่า “Qatar Airways มีบินไปญี่ปุ่นบ้างไหม” “เส้นทางนี้มีบินหรือเปล่า” เพราะใจหลังจากนี้คิดอยากจะนั่งแต่ Qatar Airways ไปเสียแล้ว 555
แต่นั่น … เป็นบทสรุปของครอบครัวค่ะ บทสรุปของป้า คนจองและเลื่อนตั๋วให้กับทุกคน ให้คะแนน Qatar Airways ที่ 4 ดาว หัก 1 คะแนนเพราะ 3 สาเหตุนี้
1. หมายเลขติดต่อออฟฟิสของ Qatar Airways ในกรุงเทพโทรติดยากมาก เสริช์ในเน็ตดูถึงรู้ว่า หัวข้อนี้ขึ้นเทรนด์อันดับหนึ่งในพันทิปกันเลย ร้องเรียนกันขนาดนี้น่าจะแก้ไขอย่างเร่งด่วนนะคะ
2. ถ้าต้องเปลี่ยนไฟล์ทเดินทาง ราคาตั๋วจะคิดใหม่ กลายเป็นตั๋วราคาสูงลิบ (น่าจะเพราะเป็นตั๋วชั้นธุรกิจราคาโปรโมชั่น) สามีที่ค้นพบว่าวีซ่าหมดอายุก่อนบิน 2 วัน เลยตัดสินใจยกเลิกตั๋วเดิม cancelation fee ประมาณหนึ่งหมื่นบาท และซื้อใหม่ทั้งไปและกลับหลังจากได้วีซ่าในราคาใกล้เคียงเดิม
3. สุดท้ายเป็นระบบการจอง Wheelchair ของคุณแม่ ซึ่งน่าสงสารที่สุด ดันปวดเข่าอย่างหนักก่อนบินเพียง 3 อาทิตย์ จะผ่าก็ไม่ทัน จึงขอใช้บริการ Wheelchair ตั้งแต่เคาน์เตอร์เช็คอินไปส่งถึงประตูเครื่อง ฉันระบุไปในระบบทุกไฟลท์ แต่กลับต้องรอรถเข็นกว่า 20 นาทีถึง 3 สนามบิน เจ้าหน้าที่ไม่เตรียมไว้ให้ก็เลยไม่รู้ว่าจะให้ระบุไปทำไมในระบบ เพราะสุดท้ายก็ต้องเรียกและรอ ยกเว้นไฟลท์ขากลับ Doha-BKK เท่านั้นที่โชคดีมีเจ้าหน้าที่มายืนรออยู่ที่ประตูเครื่อง
Moxy Vienna Airport
กว่าจะมาถึงสนามบินเวียนาก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน หรือเช้าตรู่ของกรุงเทพ … นี่เราเดินทางกันกว่า 20 ชั่วโมงเลย หรือ แต่ทำไมไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าไหร่ คงเพราะ “เก้าอี้มันนั่งสบาย กลายเป็นเตียงนอน 180 องศาได้เลย” หลานสาวบอก 55
Moxy Vienna Airport อยู่ใกล้กับสนามบินเวียนาค่ะ เดินลอดอุโมงค์ใต้ดินจากสนามบิน โผล่มาก็เจอโรงแรมอยู่ ข้างหน้าเลย หลังจากเช็คอินและจ่ายเงินค่าห้องเสร็จ เราก็เดินขึ้นห้องพักอย่างสโลสเล ฉันจองห้อง Moxy Sleeper Double สำหรับผู้ใหญ่ 2 คน 2 ห้อง และ Moxy Family Sleeper สำหรับ 4 คน มีเตียงนอนควีน และโซฟาเบดหนึ่งตัว สำหรับครอบครัวน้องสาว ห้องพักของโรงแรมมีขนาดเล็กเหมาะสำหรับค้างคืนเดียว เอาไว้ซุกตัวนอนก่อนเดินทางต่อ
รูปภาพจากเว็บของโรงแรม (เรามาถึงตอนกลางคืน ง่วงเกินจะถ่ายรูปค่ะ)
Sofa Bed ที่เปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งเตียงของห้อง Moxy Family Sleeper สำหรับ 4 คน
ล็อบบี้ของโรงแรมเป็น Open Space เป็นทั้งห้องรับแขก บาร์ และ co-working space ในบริเวณเดียวกัน ข้างผนังเป็นชั้นวางอาหาร และเครื่องดื่ม ให้ลูกค้าบริการตัวเอง หยิบแล้วก็มาจ่ายเงินที่รีเซพชั่น โรงแรมนี้อยู่ภายใต้เครือ Marriot การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกจึงครบถ้วนค่ะ บรรยากาศ และการตกแต่งสนุกสนาน วัยรุ่นและเป็นกันเอง
บทเรียนที่ 1 หากบินสายการบินที่ต้องต่อเครื่อง ควรบินระหว่างวันและถึงตอนกลางคืนให้สูงวัยได้พักผ่อน นอนให้อิ่มแล้วค่อยเดินทางต่อในวันถัดไป ซึ่งสนามบินทั่วๆไปจะมีโรงแรมใกล้สนามบิน และบริษัทรถเช่าก็มักจะอยู่ในบริเวณเดียวกัน สะดวกสบาย และไม่เหนื่อยสำหรับผู้สูงอายุค่ะ
(Ausfahrtsstraße 4, Vienna 1300 Austria ห้องคู่ ราคา 117.20 ยูโร ห้อง 4 คน ราคา 157.20 ยูโร หรือประมาณ 4,100 – 5,500 บาทต่อคืน https://www.marriott.com/hotels/travel/vieox-moxy-vienna-airport/)
Related Posts: