เมลเบิร์นน่ารู้ : ประวัติ การเดินทาง อากาศ เวลา และวีซ่าออสเตรเลีย

เมลเบิร์น (Melbourne) ได้รับเลือกให้เป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก (The World’s Most Liveable City) ติดต่อกันถึง 7 ปีซ้อน จากการจัดอันดับของ The Economist Annual Global Liveability Report

ประวัติเมลเบิร์น

  • กลุ่มคนชาติแรกในเมลเบิร์นคือ Woiwrrung Group ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้มาแล้วกว่า 30,000 ปี
  • ปี 1851 เป็นยุคขุดทอง (Gold Rush) ชาวยุโรปจำนวนหนึ่งหลั่งไหลเข้ามา มีนักสำรวจหลายคนมาที่ Port Phillip Bay จนกระทั้งปี 1835 นาย John Batman ชาวนาผู้ร่ำรวยของ Tasmanian ล่องเรือมาที่ปากแม่น้ำ Yarra และซื้อพื้นดินในบริเวณนี้ และพัฒนาให้เจริญรุ่งเรือง จึงถือเป็นจุดกำเนิดของ Melbourne ที่ในขณะนั้นรู้จักกันว่า Batmania
  • เมลเบิร์นเป็นเมืองหลวงของรัฐวิคตอเรีย ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย มีประชากรหนาแน่นรองเป็น อันดับสองของประเทศ เมลเบิร์นมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี เป็นศูนย์กลางทางการเงิน คมนาคม และวัฒนธรรมของประเทศ อีกทั้งยังมีท่าอากาศยานนานาชาติ ท่าเรือ และรถไฟเชื่อมเมืองใหญ่ๆของประเทศ เข้าด้วยกัน

From Bangkok to Melbourne

การบินไทยมีบินตรงสู่ประเทศออสเตรเลีย 4 เมือง Brisbane, Melbourne, Perth และ Sydney

ขาไป มี 2 ไฟลท์

TG 465 ออกเดินทาง 00:15 Suvarnabhumi International Airport (BKK) -‎ 12:05 Melbourne Airport (MEL)‎ เวลาบิน 8 ชั่วโมง 50 นาที ด้วยเครื่อง 777-300

TG 461 ออกเดินทาง 08:10 Suvarnabhumi International Airport (BKK)‎ – 20:00 Melbourne Airport (MEL)‎ เวลาบิน 8 ชั่วโมง 50 นาที ด้วยเครื่อง 777-300

ขากลับ มี 2 ไฟลท์

TG 466 ออกเดินทาง 15:15 Melbourne Airport (MEL)‎ – 21:45 Suvarnabhumi International Airport (BKK)‎ เวลาบิน 9 ชั่วโมง 30 นาที ด้วยเครื่อง 777-300

TG 462 ออกเดินทาง 23:30 Melbourne Airport (MEL)‎ – 06:00 +1 day Suvarnabhumi International Airport (BKK)‎ เวลาบิน 9 ชั่วโมง 30 นาที ด้วยเครื่อง 777-300

ราคาตั๋ว (ราคาจองก่อนเดินทางประมาณ 30 วัน)

Economy Class ประมาณ 22,000-25,000 บาท

Business Class ประมาณ 75,000-80,000 บาท

จากสนามบินสู่ตัวเมือง

  1. Taxi : ใช้เวลาเดินทาง 20-35 นาที ค่าแท็กซี่ $55-65 เหรียญต่อคัน หนึ่งคันนั่งได้ 4 คน และใส่กระเป๋าเดิน ทางใหญ่ได้ 2-4 ใบ

  1. Skybus : รถบัสพิเศษที่วิ่งระหว่างสนามบินและตัวเมืองเมลเบิร์นตลอด 24 ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทาง 20-30 นาที ราคาเที่ยวเดียว $19 ไปกลับ $37 ซื้อตั๋วได้ที่บู๊ธใน Terminal 1 & 3 โดยรถที่วิ่งเข้าตัวเมืองจะจอดที่ Southern Cross Station ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อรถแทรมฟรีในเมือง รถแท็กซี่ หรือเดินไปยังที่พักในตัวเมืองได้ https://www.skybus.com.au 
  1. Public Transport Victoria : เป็นการเดินทางเข้าเมืองที่ราคาถูกที่สุด ประมาณ $7 ในวันหยุด และ $3.50 ในวันธรรมดา โดยจะต้องซื้อ Myki Card สำหรับเดินทางเข้าในเมือง ขึ้นรถบัสหมายเลข 901 มาที่ Broadmeadows Station และเปลี่ยนไปยังเส้นทางต่อไปในเมือง

พักย่านไหนดี?

เพื่อนคนไทยที่ใช้ชีวิตในเมลเบิร์นมานานกว่า 20 ปี แนะนำย่านที่พักในเมลเบิร์นไว้ 2 แห่งค่ะ

  1. ถ้าชอบความสะดวกสบาย ก็ต้องอยู่ใน City Center ห้องพักอาจจะเล็กหน่อยเพราะเป็นตึกเก่า แต่พิกัดก็ใกล้ กับแหล่งช้อปปิ้ง แลนด์มาร์คท่องเที่ยว แถมยังมีบริการรถแทรมฟรี ที่เรียกกว่า Free Tram Zone อีกด้วย
  1. ถ้าชอบความทันสมัย ห้องใหญ่ วิวสวย ก็ต้องอยู่ Southbank ฝั่งตรงข้ามกับตัวเมือง เพราะเป็นเมืองใหม่ ร้านอาหารอร่อยเยอะ ใช้เวลาเดินเข้าเมืองผ่านแม่น้ำยาร่าสัก 5-10 นาที เท่านั้น

 

การเดินทางภายในตัวเมือง

ในเขตเมืองเป็น Free Tram Zone จึงไม่ต้องใช้บัตรเดินทางใดๆทั้งสิ้นในการขึ้นรถแทรมไฟฟ้า ขึ้นลงจุดใดก็ได้ รวมถึงรถรางหมายเลข 35 ฟรีทุกสาย

แต่ถ้าจะเดินทางออกนอกเขตของเมือง ต้องซื้อบัตร Myki Cards ที่ใช้ขึ้นรถไฟ แทรม และบัส ซึ่งบัตร Myki Cards มีขาย ทางออนไลน์ ตามสถานีรถไฟ และร้านสะดวกซื้อต่างๆที่มีป้าย Myki Card สำหรับนักท่องเที่ยวมี Myky Card พิเศษ รวม ส่วนลดและค่าเข้าแหล่งท่องเที่ยวต่างๆด้วย www.myki.com.au

แผนที่ Free Tram Zone

 

สภาพภูมิอากาศ

เมลเบริน์มีภูมิอากาศแบบ 4 ฤดู

ฤดูร้อน :           ธ.ค. – ก.พ. ประมาณ 13 – 26 องศา

ฤดูใบไม้ร่วง :     มี.ค. – พ.ค. ประมาณ 8 – 24 องศา

ฤดูหนาว :         มิ.ย. – ส.ค. ประมาณ 6 – 15 องศา

ฤดูใบไม้ผลิ :      ก.ย. – พ.ย. ประมาณ 8 – 22 องศา

 

กระแสไฟฟ้า

ออสเตรเลีย 240 V 50 Hz

รูปภาพหัวปลั๊ก

 

เวลา

เร็วกว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง แต่ในช่วงฤดูร้อนจะมีการปรับเวลาให้เร็วขึ้นอีก 1 ชั่วโมง (Daylight Saving) จึงจะเร็วกว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมงในช่วงฤดูร้อน

 

อัตราแลกเปลี่ยน

ออสเตรเลียใช้สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) และอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน ณ เดือนตุลาคม 2560 อยู่ที่ 26.50 บาทต่อ 1 AUD

ธนบัตรมีใบละ 5, 20, 50 และ 100 ดอลลาร์ ส่วนเหรียญจะมี 2 แบบ เหรียญทอง 1 ดอลลาร์ และ 2 ดอลลาร์ ส่วนเหรียญเงิน 5, 10, 20 และ 50เซ็นต์

 

ซิมมือถือ

ปัจจุบันมีซิมให้เลือกใช้หลายบริษัท แต่ฉันมี Sim2fly ซึ่งใช้มาแล้วหลายประเทศ จึงเพียงแค่เพิ่มเงินให้เท่ากับแพ็คเก็จ ออสเตรเลีย 399 บาท ใช้เน็ตได้ 4G จำนวน 4GB ระยะเวลา 8 วัน

http://www.ais.co.th/roaming/sim2fly/en/

วีซ่า

วีซ่าประเทศออสเตรเลียขอได้ 2 ช่องทางค่ะ

  1. ออนไลน์ (ต้องสร้าง account ของตัวเองที่ https://online.immi.gov.au/lusc/register และ กรอกใบสมัคร https://online.immi.gov.au/lusc/login)
  1. ผ่านบริษัท VFS

วิธีการขอออนไลน์สะดวกสำหรับคนที่อยู่ต่างจังหวัด แต่เพราะบริษัท VFS อยู่ใกล้บ้านและยังไงเสียเราก็ต้องไปเก็บ รายละเอียดไบโอเมตทริกซ์ (ลายนิ้วมือและรูปภาพ) ฉันจึงเลือกไปยื่นผ่านบริษัท VFS ตามขั้นตอนปกติ โดยวีซ่าที่ขอ เป็นวีซ่านักท่องเที่ยวแบบมัลติเพล (Multiple) เข้าออสเตเลียได้หลายครั้ง ดังนั้นขั้นตอนขอวีซ่าต่อไปนี้จะเป็นการขอ ผ่าน VFS ค่ะ

 

ที่ตั้งของบริษัท VFS

ศูนย์ยื่นวีซ่าออสเตรเลีย อาคารเดอะเทรนดี้ ออฟฟิศ ชั้น 28 สุขุมวิท ซอย 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ +66(0) 2118 7100 อีเมล info.dibpth@vfshelpline.com

สถานีรถไฟฟ้า นานา และเดินเข้าซอยสุขุมวิท 13 ไปประมาณ 50 เมตร อาคารเดอะเทรนดี้อยู่ ทางด้ายซ้ายมือ

 

ค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่าออสเตรเลีย

วีซ่าท่องเที่ยว คนละ 3,800 บาท

ค่าบริการของ VFS คนละ 883 บาท

ชำระเป็นเงินสดได้ที่เคาน์เตอร์

รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.vfsglobal.com/Australia/Thailand/thai/visitor_visa.html

 

เอกสารในการขอวีซ่าออสเตรเลีย

  • แบบฟอร์ม 1419 https://www.border.gov.au/Forms/Documents/1419.pdf
  • สำเนาหนังสือเดินทาง และประวัติการเดินทางต่างๆ ด้วยการถ่ายเอกสารหน้าอื่นๆที่มี VISA และตราประทับ จำนวน 1 ชุด (นำตัวจริงไปด้วย)
  • สำเนาหนังสือเดินทาง เฉพาะหน้าแรก 1 ชุด ไว้สำหรับติดกับใบเสร็จรับเงิน และนำมารับวีซ่า
  • รูปถ่าย 2 รูป ขนาด 45 mm x 35 mm และเขียนชื่อด้านหลังรูป
  • สำเนาบัตรประชาชน (นำตัวจริงไปด้วย)
  • สำเนาทะเบียนบ้าน (นำตัวจริงไปด้วย)
  • สำเนาทะเบียนสมรส
  • หลักฐานทางการเงิน
    • พนักงานบริษัท ​: ใบรับรองเงินเดือน หนังสือรับรองการจ้างงาน หรือ Employment Letter และ Book Bank ย้อนหลัง 6 เดือน (นำตัวจริงของ Book Bank ไปด้วย)
    • คนที่ไม่ได้ทำงาน หรือแม่บ้าน ให้นำเอกสาร/หลักฐานทาง การเงินที่มีถ่ายเอกสาร และนำ Book Bank ตัวจริงไปด้วย และแนะนำให้สามีเขียนจดหมายรับรอง หรือสปอนเซอร์การเดินทาง หากสามีทำงาบริษัท
    • นักเรียนหรือนักศึกษา ใช้หนังสือรับรองสถานการณ์เป็นนักเรียนหรือนักศึกษา

 

* หนังสือเดินทาง (Passport) ฉบับจริง ที่มีอายุการใช้งานเหลืออย่างน้อย 6 เดือน

*เอกสารที่เป็นสำเนาทุกรายการ รบกวนเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง

* เวลายื่นใบสมัครและเก็บข้อมูลไบโอเมตทริกซ์ 08.30-15.00 น. วันจันทร์ ถึง วันศุกร์

 

เอกสารอื่นๆที่ทางสถานฑูตไม่ได้ขอ แต่เราสามารถเตรียมได้ถ้ามี

  • ประกันภัยการเดินทาง
  • ตั๋วเครื่องบิน / เอกสารการจองตั๋วไป-กลับ
  • ใบจองโรงแรม

 

ข้อดีของการขอวีซ่าออสเตรเลีย

  • ข้อมูลในใบสมัครไม่เยอะ และไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีก็กรอกเสร็จ
  • เอกสารในการขอวีซ่าไม่เยอะเหมือนวีซ่าประเทศอังกฤษ เชงเก้น และอเมริกา
  • ไม่ต้องโทรจองนัดขอนวีซ่า* VFS รับ walk-in ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30-15.00 น.
  • สามารถเอาหนังสือเดินทางกลับได้ทันที ไม่ต้องทิ้งหนังสือเดินทางไว้ในช่วงที่รอผลการอนุมัติ (ชอบใจที่สุดก็ข้อนี้เลยค่ะ เพราะเรายังเดินทางไปเที่ยวประเทศอื่นได้ในช่วงที่รอวีซ่าออสเตรเลียอนุมัติ)
  • *กรณียื่นใบสมัครเป็นกรุ๊ปตั้งแต่ 9 คนขึ้นไป ต้องทำการนัดหมายเพื่อยื่นใบสมัคร โดยการส่งอีเมลมาที่ appointmentsagent.dibpth@vfshelpline.com และรอการตอบกลับอีเมลเพื่อยืนยันเวลานัดหมาย

 

ขั้นตอนการติดตามสถานะใบสมัครและการรับผลอนุมัติ

หลังจากยื่นใบสมัครครบ เจ้าหน้าที่ VFS จะสอบถามว่า ต้องการให้แจ้งสถานะใบสมัครอย่างไร ผ่าน SMS หรือไม่ หรือผ่านเว็บไซต์ของ VFS ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่าย ฉันเลือกช่องทางผ่านเว็บไซต์ เช็คข้อมูลเอง หลังจากยื่น 10 วัน เพียงแค่กรอกหมายเลข VLN และวันเดือนปีเกิดเท่านั้น

เมื่อขึ้นข้อความให้ไปติดต่อที่ VFS รับเอกสาร นั่นหมายความว่าผลวีซ่าออกแล้ว แต่เราจะต้องไปรับผลเอง (ฝากคนอื่นไปรับ มอบอำนาจได้)

ผลวีซ่าจะเป็น ซองจดหมาย เปิดออกมาและอ่านข้อมูลว่าวีซ่าอนุมัติตั้งแต่วันที่เท่าไหร่จนถึงเท่าไหร่ ซึ่งของฉันโชคดี ได้อนุมัติ เป็นเวลาถึง 3 ปี เข้าออกประเทศออสเตรเลียได้ไม่จำกัด แต่ห้ามอยู่เกิน 3 เดือน ห้ามทำงาน แต่เรียนหนังสือได้ค่ะ

ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากประวัติการเดินทาง ฉันเคยมาเที่ยวซิดนีย์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และในส่วนของใบสมัคร ฉันกรอกข้อ 2-3-4 ที่สอบถามเรื่องขอวีซ่าดังนี้ค่ะ

ข้อ 2 บอกวันที่เดินทางเข้าและออกประเทศออสเตรเลีย

ข้อ 3 ฉันเลือก 3 เดือน 

ข้อ 4 ฉันเลือก Yes และให้เหตุผลว่า Because Australia is a beautiful country and I want to see other part/ cities of Australia more.

http://www.vfsglobal.com/Australia/Thailand/thai/track_application.html

 

ผลพิจารณาอนุมัติวีซ่ารับได้ที่อาคารเดอะเทรนดี้เช่นเดิม เวลา 10.00 – 16.30 น. วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ และรับแทนคนอื่น ได้ แต่ต้องมีการมอบอำนาจและนำเอกสารของผู้รับไปด้วยพร้อมกับเซ็นต์กำกับทุกฉบับ

เว็บไซต์ของ VFS และข้อมูลเพิ่มเติม http://www.vfsglobal.com/Australia/Thailand/thai/index.html

เว็ปไซต์             www.visitmelbourne.com