เมื่อ 30-40 ปีก่อน ถ้าเราไปหัวหิน คุณพ่อคุณแม่จะต้องแวะเมืองเพชร เข้าห้องน้ำ กินก๋วยเตี๋ยว และซื้อขนมหม้อแกงของแม่ต่างๆเป็นข้อบังคับ
จำไม่ได้จริงๆว่า เราเลิกขับรถเข้าไปในตัวเมืองเพชรกันตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกที ห้องน้ำตามปั๊มดีๆก็มีเยอะ และหม้อแกงแม่ต่างๆ ก็ย้ายสำมะโนครัวมาตั้งถิ่นฐานอยู่ริมถนน จนการแวะเมืองเพชรกลายเป็นเรื่องแปลกไปเลย
เพชรบุรี ไม่ได้แปลว่าเมืองที่มีเพชร แต่ผันเสียงมาจากเมืองพริบพรี ตั้งแต่สมัยมะโว้ ปัจจุบันตั้งอยู่ในภาคกลางตอนล่าง เชื่อมกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมืองหน้าด่านของภาคใต้ เป็นเมืองพักผ่อนที่มีทั้งชายหาด แม่น้ำเพชรบุรี เขื่อนแก่งกระจาน และต้นตาลสัญลักษณ์ของเมือง
ทริปนี้ฉันพักโรงแรมบนหาดชะอำ อำเภอใต้สุดของเพชรบุรี (ติดกับหัวหิน) เลยถือโอกาสสำรวจเมืองเพชรสักหน่อย หลังจากที่ไม่ได้แวะมานานแสนนาน …
วันแรก
(กรุงเทพ – ร้านกาแฟร้อยปี – สวนตาลลุงถนอม – ผัดไทยท่ายาง – VALA Hua Hin Nu Chapters Hotel)
เพียงชั่วโมงเศษจากกรุงเทพ เราแวะเติมกาแฟให้ตาสว่างกันที่ “ร้านกาแฟบ้านร้อยปี” คาเฟ่น่ารัก ริมถนนเพชรเกษม ที่เปิดมา 4-5 ปี แต่ฉันแทบไม่เคยสังเกตเห็นเลย ร้านกาแฟบ้านร้อยปีตั้งอยู่ในบ้านไม้แบบโบราณ ใต้ถุนบ้านเป็นร้านกาแฟ มีขนมและอาหารจานเดียว ให้ลูกค้านั่งกินในบรรยากาศวินเทจ กับมุมสะสม รวมถึงของเก่าที่เล่าเรื่องในอดีต รวมถึงเรื่องราวของเมืองเพชรบุรี นอกจากนั้นสวนด้านหน้าและหลังของร้านเต็มไปด้วยต้นไม้สวยร่มรื่น นั่งจิบกาแฟ ละเลียดเค้กในสวนก็ลมเย็นสบายดีค่ะ
หลังจากสั่ง “เพชรบุรี Coffee” และ “Espresso ลอยแก้วปั่น” เราก็จิบเครื่องดื่มปล่อยอารมณ์ อยู่ที่ใต้ถุนของบ้าน ลุงถูกใจ Espresso ลอยแก้วปั่นเป็นพิเศษ บอกว่าเหมือนกินลูกตาลเชื่อมกับกาแฟ ดื่มจนหมดแก้วแล้วก็ หันมามองด้วยสายตาจ๋อยๆและรำพึงว่า น้ำตาลจะขึ้นอีกไหมเนี่ย แหม … คงไม่หล่ะค่ะลุง ฉันตอบ (131/2หมู่1ต.ต้นมะม่วงอ.เมืองเพชรบุรี ตำบล ต้นมะม่วง เพชรบุรี เปิด-ปิด 9.00-18.00 น. ทุกวัน ปิดวันพุธ)
เช็คอินถัดไปเป็นแหล่งการเรียนรู้ภูมิปัญญาตาลโตนดของลุงถนอม วิทยากรเรื่องต้นตาลคนเดียวของจังหวัดเพชรบุรี “สวนตาลลุงถนอม”ปลูกต้นตาลเอกลักษณ์ของเมืองเพชร กว่า 10 ไร่ ขับรถเข้าฝ่าต้นตาลเข้ามา ก็ให้รู้สึกเหมือนกำลังบุกดงตาล จากที่เห็นริมถนนใหญ่ ก็ได้ใกล้ชิดขึ้น ภายในสวนร่มรื่นดีค่ะ ใบตาลช่วงปกคลุมฟ้า และบังแดดจ้า ลุงถนอมคงเห็นภาพนี้ เลยติดเปลญวนให้ลูกค้านั่งเล่น และเปิดร้านขายของเล็กๆอยู่ในบริเวณสวน ทำน้ำตาลสดกันสดๆเลย นอกจากนั้นยังมีสินค้าอื่นที่ผลิตจากต้นตาล เช่นลูกตาลเชื่อม และขนมตาลให้ซื้ออีกด้วย (ม.4 ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด เพชรบุรี เปิด-ปิด 8.30 – 18.00 น. ทุกวัน)
และสต็อปสุดท้ายของวันก่อนเช็คอินเข้าโรงแรม ก็คือ “ผัดไทยท่ายาง” ผัดไทยร้อยปี สืบสานสูตรอร่อยผ่าน 3 เจเนเรชั่นของเมืองเพชร ร้านอยู่ใกล้ตลาดสด ในใต้ถุนบ้านไม้สองชั้นที่มีคุณยายวัยเฉียดแปดสิบ ทายาทรุ่นที่สอง ยืนผัดอยู่ด้วยในครัว หลานชายคุณยายบอกกับฉันว่า “ให้คุณยายทำงานทุกวัน ช่วยให้กระชุ่มกระช่วยและแข็งแรง”
เมนูเที่ยงนี้ เริ่มด้วยลูกชิ้นทอดรองท้อง ต่อด้วยข้าวผัดกระเพราปู อีกเมนูชื่อดัง และผัดไทยหมู ที่ใช้เวลานานหน่อยกว่าจะได้ลิ้มลองความอร่อย และถึงแม้หน้าตาของผัดไทยท่ายางดูจืดไปนิด แต่กินแล้วไม่ผิดหวังค่ะ รสชาติอร่อยกลมกล่อม เส้นจันทร์นุ่มกำลังดี นี่ถ้าไม่ติดว่ารอคิวนาน ลุงบอกจะสั่งเพิ่มอีกหนึ่งจานเลย (ตำบล ท่ายาง อำเภอท่ายาง เพชรบุรี เปิด-ปิด 9.00 – 16.00 น. ทุกวัน)
VALA Hua Hin Nu Chapters Hotel โรงแรมเปิดใหม่ล่าสุดที่กำลังฮิตของหนุ่มสาว อ่านว่า “วาลา” อยู่ใกล้ๆกับ Regent Cha-am และอยู่บนหาดชะอำ แต่ใช้นามสกุลหัวหินค่ะ (55) ฉันจองห้อง Mini Suite Pool Access เพราะรู้ใจลุงว่าชอบว่ายน้ำออกกำลังกาย ตื่นเช้ามาก็เดินลงสระได้ทันที และก็ไม่ผิดหวังด้วยค่ะ เพราะห้องใหญ่ อยู่สบายกว่า 60 ตารางเมตร มีเฉลียงใหญ่หน้าห้อง นั่งจิบไวน์ ดินเนอร์ หรือจะทำงาน ก็เห็นวิวเด่นของโรงแรม นั่นก็คือสระว่ายน้ำหินอ่อน ยาวกว่า 40 เมตร
ดินเนอร์คืนนี้ เราลอง Tapas อร่อยของห้องอาหารหนึ่งเดียวของโรงแรม รสชาติดี ราคาสูงหน่อย แต่ก็ได้คูปองส่วนลดเราเที่ยวด้วยกันมาช่วยประหยัดเงิน ก่อนนอน เราเดินเล่นริมหาดชะอำที่เงียบเหงาในช่วงโควิท เดินไป ไม่กี่นาทีก็ถึง Regent Cha-am โรงแรมเก่าแก่ที่ยังดูแลรักษาดี และพบกว่า Peppina On the Beach ร้านอิตาเลี่ยนโปรดของลุง ย้ายมาเปิดที่นี่เอง (849, 21 ถ.เพชรเกษม ตำบล ชะอำ อำเภอชะอำ เพชรบุรี 76120 www.valahuahin.com/th/)
วันที่ 2
(VALA Hua Hin Nu Chapters Hotel – ตลาดท่ายาง (ทองม้วน และขนมหวาน) – เปลญวน – กรุงเทพ)
VALA Hua Hin Nu Chapters Hotel เช้านี้ฟ้ามีเมฆปกคลุม อากาศชื้น แต่ก็ยังพอมีลมทะเลอยู่บ้าง ลุงกับป้าตื่นเช้ากว่าหนุ่มสาวที่เข้าพัก เลยไปนั่งกินอาหารเช้าตั้งแต่ 7 โมงกว่า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แขกยังไม่พลุกพล่าน ได้เดินเลือกอาหาร สั่งเมนูไข่ และขนมปังสังขยาแบบสบายๆ
อาหารเช้าของ VALA Hua Hin มีตัวเลือกค่อนข้างน้อย เบเกอร์รี่พอใช้ได้ แต่ไม่ค่อยเด็ด พนักงานน้อยและดูวุ่นวายมากในช่วง rush hours ประมาณ 8-9 โมง แต่ชอบใจสุดก็รถเข็นน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋คันนี้แหล่ะ รถตั้งอยู่ด้านนอกร้าน คนคงไม่ค่อยเห็น ลุงเลยเปรมใจกับปาท่องโก๋จิ้มนมสดทุกเช้า
(จริงๆแล้วฉันพักที่โรงแรมนี้ 2 คืน แต่วันที่สอง แทบไม่ได้ทำอะไร หรือออกไปไหนเลย ลุงนั่งทำงานครึ่งวัน และป้าก็เดินถ่ายรูป ว่ายน้ำ เย็นก็สั่งพิซซ่า Peppina มากิน เป็นชีวิตชิลๆ เหมือนฝรั่งมีอายุ ที่เคยเห็นตอนเด็กๆ ว่าชอบคลุกตัวอยู่แต่ในโรงแรม แต่กลับมีความสุข บล็อกนี้เลยแนะนำเป็น 2 วัน 1 คืนแทนค่ะ)
ขากลับกรุงเทพ ลุงขอแวะตลาดท่าย่างอีกครั้ง เปล่า … ลุงไม่ได้กลับไปกินผัดไทยท่ายาง แต่ไปซื้อ “ท้องม้วนแม่เล็ก” เจ้าประจำของลุง และต่อด้วย “แอนขนมหวาน” ที่มีขนมหวานไทยอร่อยมากมาย ทั้งครองแครง ข้าวเหนียวถั่วดำ สาคูข้าวโพด และอื่นๆ ทั้งสองร้านนี้อยู่บนถนนเส้นเดียวกับร้านผัดไทยท่ายาง หาที่จอดรถยากหน่อย แต่ก็พอมี และเดินมา 3 ร้านนี้ได้เลยค่ะ
จากนั้นก็ตรงมาที่ร้านอาหารชื่อดังของเมืองเพชร “เปลญวน เพชรบุรี” ร้านอาหารขนาดใหญ่ในโรงอาหารที่ตกแต่งได้แปลกดี มีทั้งของเก่า รูปปั้นยอดมนุษย์ จักรยาน อารมณ์คล้ายบ้านไม้ชายน้ำที่ปากช่อง จนกลายเป็นจุดถ่ายรูปของแขก อาหารของเปลญวนยังอร่อย และราคาดีอีกด้วย ทอดมันปลาอินทรีย์ (90 บาท) ไข่ฟูปูม้วน (200 บาท) และแกงคั่วหัวตาลหมูย่าง (100 บาท) อิ่ม อร่อย และสนุกด้วยค่ะ สัญญาว่าจะกลับมาอีกในวันที่โควิทซาลงแน่นอน (21 66 หมู่ที่ 6 ซอย เทศบาลบ้านลาด ตำบล ท่าเสน อำเภอบ้านลาด เพชรบุรี เปิด-ปิด 10.30 – 22.00 น. ทุกวัน)
29 Dec 2020
0 Comments
เที่ยวเมืองพริบพรี (เพชรบุรี) 2 วัน 1 คืน – เพชรบุรี
เมื่อ 30-40 ปีก่อน ถ้าเราไปหัวหิน คุณพ่อคุณแม่จะต้องแวะเมืองเพชร เข้าห้องน้ำ กินก๋วยเตี๋ยว และซื้อขนมหม้อแกงของแม่ต่างๆเป็นข้อบังคับ
จำไม่ได้จริงๆว่า เราเลิกขับรถเข้าไปในตัวเมืองเพชรกันตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกที ห้องน้ำตามปั๊มดีๆก็มีเยอะ และหม้อแกงแม่ต่างๆ ก็ย้ายสำมะโนครัวมาตั้งถิ่นฐานอยู่ริมถนน จนการแวะเมืองเพชรกลายเป็นเรื่องแปลกไปเลย
เพชรบุรี ไม่ได้แปลว่าเมืองที่มีเพชร แต่ผันเสียงมาจากเมืองพริบพรี ตั้งแต่สมัยมะโว้ ปัจจุบันตั้งอยู่ในภาคกลางตอนล่าง เชื่อมกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมืองหน้าด่านของภาคใต้ เป็นเมืองพักผ่อนที่มีทั้งชายหาด แม่น้ำเพชรบุรี เขื่อนแก่งกระจาน และต้นตาลสัญลักษณ์ของเมือง
ทริปนี้ฉันพักโรงแรมบนหาดชะอำ อำเภอใต้สุดของเพชรบุรี (ติดกับหัวหิน) เลยถือโอกาสสำรวจเมืองเพชรสักหน่อย หลังจากที่ไม่ได้แวะมานานแสนนาน …
วันแรก
(กรุงเทพ – ร้านกาแฟร้อยปี – สวนตาลลุงถนอม – ผัดไทยท่ายาง – VALA Hua Hin Nu Chapters Hotel)
เพียงชั่วโมงเศษจากกรุงเทพ เราแวะเติมกาแฟให้ตาสว่างกันที่ “ร้านกาแฟบ้านร้อยปี” คาเฟ่น่ารัก ริมถนนเพชรเกษม ที่เปิดมา 4-5 ปี แต่ฉันแทบไม่เคยสังเกตเห็นเลย ร้านกาแฟบ้านร้อยปีตั้งอยู่ในบ้านไม้แบบโบราณ ใต้ถุนบ้านเป็นร้านกาแฟ มีขนมและอาหารจานเดียว ให้ลูกค้านั่งกินในบรรยากาศวินเทจ กับมุมสะสม รวมถึงของเก่าที่เล่าเรื่องในอดีต รวมถึงเรื่องราวของเมืองเพชรบุรี นอกจากนั้นสวนด้านหน้าและหลังของร้านเต็มไปด้วยต้นไม้สวยร่มรื่น นั่งจิบกาแฟ ละเลียดเค้กในสวนก็ลมเย็นสบายดีค่ะ
หลังจากสั่ง “เพชรบุรี Coffee” และ “Espresso ลอยแก้วปั่น” เราก็จิบเครื่องดื่มปล่อยอารมณ์ อยู่ที่ใต้ถุนของบ้าน ลุงถูกใจ Espresso ลอยแก้วปั่นเป็นพิเศษ บอกว่าเหมือนกินลูกตาลเชื่อมกับกาแฟ ดื่มจนหมดแก้วแล้วก็ หันมามองด้วยสายตาจ๋อยๆและรำพึงว่า น้ำตาลจะขึ้นอีกไหมเนี่ย แหม … คงไม่หล่ะค่ะลุง ฉันตอบ (131/2หมู่1ต.ต้นมะม่วงอ.เมืองเพชรบุรี ตำบล ต้นมะม่วง เพชรบุรี เปิด-ปิด 9.00-18.00 น. ทุกวัน ปิดวันพุธ)
เช็คอินถัดไปเป็นแหล่งการเรียนรู้ภูมิปัญญาตาลโตนดของลุงถนอม วิทยากรเรื่องต้นตาลคนเดียวของจังหวัดเพชรบุรี “สวนตาลลุงถนอม”ปลูกต้นตาลเอกลักษณ์ของเมืองเพชร กว่า 10 ไร่ ขับรถเข้าฝ่าต้นตาลเข้ามา ก็ให้รู้สึกเหมือนกำลังบุกดงตาล จากที่เห็นริมถนนใหญ่ ก็ได้ใกล้ชิดขึ้น ภายในสวนร่มรื่นดีค่ะ ใบตาลช่วงปกคลุมฟ้า และบังแดดจ้า ลุงถนอมคงเห็นภาพนี้ เลยติดเปลญวนให้ลูกค้านั่งเล่น และเปิดร้านขายของเล็กๆอยู่ในบริเวณสวน ทำน้ำตาลสดกันสดๆเลย นอกจากนั้นยังมีสินค้าอื่นที่ผลิตจากต้นตาล เช่นลูกตาลเชื่อม และขนมตาลให้ซื้ออีกด้วย (ม.4 ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด เพชรบุรี เปิด-ปิด 8.30 – 18.00 น. ทุกวัน)
และสต็อปสุดท้ายของวันก่อนเช็คอินเข้าโรงแรม ก็คือ “ผัดไทยท่ายาง” ผัดไทยร้อยปี สืบสานสูตรอร่อยผ่าน 3 เจเนเรชั่นของเมืองเพชร ร้านอยู่ใกล้ตลาดสด ในใต้ถุนบ้านไม้สองชั้นที่มีคุณยายวัยเฉียดแปดสิบ ทายาทรุ่นที่สอง ยืนผัดอยู่ด้วยในครัว หลานชายคุณยายบอกกับฉันว่า “ให้คุณยายทำงานทุกวัน ช่วยให้กระชุ่มกระช่วยและแข็งแรง”
เมนูเที่ยงนี้ เริ่มด้วยลูกชิ้นทอดรองท้อง ต่อด้วยข้าวผัดกระเพราปู อีกเมนูชื่อดัง และผัดไทยหมู ที่ใช้เวลานานหน่อยกว่าจะได้ลิ้มลองความอร่อย และถึงแม้หน้าตาของผัดไทยท่ายางดูจืดไปนิด แต่กินแล้วไม่ผิดหวังค่ะ รสชาติอร่อยกลมกล่อม เส้นจันทร์นุ่มกำลังดี นี่ถ้าไม่ติดว่ารอคิวนาน ลุงบอกจะสั่งเพิ่มอีกหนึ่งจานเลย (ตำบล ท่ายาง อำเภอท่ายาง เพชรบุรี เปิด-ปิด 9.00 – 16.00 น. ทุกวัน)
VALA Hua Hin Nu Chapters Hotel โรงแรมเปิดใหม่ล่าสุดที่กำลังฮิตของหนุ่มสาว อ่านว่า “วาลา” อยู่ใกล้ๆกับ Regent Cha-am และอยู่บนหาดชะอำ แต่ใช้นามสกุลหัวหินค่ะ (55) ฉันจองห้อง Mini Suite Pool Access เพราะรู้ใจลุงว่าชอบว่ายน้ำออกกำลังกาย ตื่นเช้ามาก็เดินลงสระได้ทันที และก็ไม่ผิดหวังด้วยค่ะ เพราะห้องใหญ่ อยู่สบายกว่า 60 ตารางเมตร มีเฉลียงใหญ่หน้าห้อง นั่งจิบไวน์ ดินเนอร์ หรือจะทำงาน ก็เห็นวิวเด่นของโรงแรม นั่นก็คือสระว่ายน้ำหินอ่อน ยาวกว่า 40 เมตร
ดินเนอร์คืนนี้ เราลอง Tapas อร่อยของห้องอาหารหนึ่งเดียวของโรงแรม รสชาติดี ราคาสูงหน่อย แต่ก็ได้คูปองส่วนลดเราเที่ยวด้วยกันมาช่วยประหยัดเงิน ก่อนนอน เราเดินเล่นริมหาดชะอำที่เงียบเหงาในช่วงโควิท เดินไป ไม่กี่นาทีก็ถึง Regent Cha-am โรงแรมเก่าแก่ที่ยังดูแลรักษาดี และพบกว่า Peppina On the Beach ร้านอิตาเลี่ยนโปรดของลุง ย้ายมาเปิดที่นี่เอง (849, 21 ถ.เพชรเกษม ตำบล ชะอำ อำเภอชะอำ เพชรบุรี 76120 www.valahuahin.com/th/)
วันที่ 2
(VALA Hua Hin Nu Chapters Hotel – ตลาดท่ายาง (ทองม้วน และขนมหวาน) – เปลญวน – กรุงเทพ)
VALA Hua Hin Nu Chapters Hotel เช้านี้ฟ้ามีเมฆปกคลุม อากาศชื้น แต่ก็ยังพอมีลมทะเลอยู่บ้าง ลุงกับป้าตื่นเช้ากว่าหนุ่มสาวที่เข้าพัก เลยไปนั่งกินอาหารเช้าตั้งแต่ 7 โมงกว่า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แขกยังไม่พลุกพล่าน ได้เดินเลือกอาหาร สั่งเมนูไข่ และขนมปังสังขยาแบบสบายๆ
อาหารเช้าของ VALA Hua Hin มีตัวเลือกค่อนข้างน้อย เบเกอร์รี่พอใช้ได้ แต่ไม่ค่อยเด็ด พนักงานน้อยและดูวุ่นวายมากในช่วง rush hours ประมาณ 8-9 โมง แต่ชอบใจสุดก็รถเข็นน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋คันนี้แหล่ะ รถตั้งอยู่ด้านนอกร้าน คนคงไม่ค่อยเห็น ลุงเลยเปรมใจกับปาท่องโก๋จิ้มนมสดทุกเช้า
(จริงๆแล้วฉันพักที่โรงแรมนี้ 2 คืน แต่วันที่สอง แทบไม่ได้ทำอะไร หรือออกไปไหนเลย ลุงนั่งทำงานครึ่งวัน และป้าก็เดินถ่ายรูป ว่ายน้ำ เย็นก็สั่งพิซซ่า Peppina มากิน เป็นชีวิตชิลๆ เหมือนฝรั่งมีอายุ ที่เคยเห็นตอนเด็กๆ ว่าชอบคลุกตัวอยู่แต่ในโรงแรม แต่กลับมีความสุข บล็อกนี้เลยแนะนำเป็น 2 วัน 1 คืนแทนค่ะ)
ขากลับกรุงเทพ ลุงขอแวะตลาดท่าย่างอีกครั้ง เปล่า … ลุงไม่ได้กลับไปกินผัดไทยท่ายาง แต่ไปซื้อ “ท้องม้วนแม่เล็ก” เจ้าประจำของลุง และต่อด้วย “แอนขนมหวาน” ที่มีขนมหวานไทยอร่อยมากมาย ทั้งครองแครง ข้าวเหนียวถั่วดำ สาคูข้าวโพด และอื่นๆ ทั้งสองร้านนี้อยู่บนถนนเส้นเดียวกับร้านผัดไทยท่ายาง หาที่จอดรถยากหน่อย แต่ก็พอมี และเดินมา 3 ร้านนี้ได้เลยค่ะ
จากนั้นก็ตรงมาที่ร้านอาหารชื่อดังของเมืองเพชร “เปลญวน เพชรบุรี” ร้านอาหารขนาดใหญ่ในโรงอาหารที่ตกแต่งได้แปลกดี มีทั้งของเก่า รูปปั้นยอดมนุษย์ จักรยาน อารมณ์คล้ายบ้านไม้ชายน้ำที่ปากช่อง จนกลายเป็นจุดถ่ายรูปของแขก อาหารของเปลญวนยังอร่อย และราคาดีอีกด้วย ทอดมันปลาอินทรีย์ (90 บาท) ไข่ฟูปูม้วน (200 บาท) และแกงคั่วหัวตาลหมูย่าง (100 บาท) อิ่ม อร่อย และสนุกด้วยค่ะ สัญญาว่าจะกลับมาอีกในวันที่โควิทซาลงแน่นอน (21 66 หมู่ที่ 6 ซอย เทศบาลบ้านลาด ตำบล ท่าเสน อำเภอบ้านลาด เพชรบุรี เปิด-ปิด 10.30 – 22.00 น. ทุกวัน)
Related Posts: