น่านน่า “อร่อย”

บล๊อกน่าน แบ่งออกเป็น 3 บล็อกด้วยกันค่ะ เร่ิมด้วย น่านน่า “เที่ยว” ซึ่งคลอดออกไปแล้ว ตามมาด้วย น่านน่า “อร่อย” ในวันนี้ และ น่านน่า “พัก” ที่กำลังคัดเลือกรูปสวยๆอยู่

ในบล็อกน่านน่า “อร่อย” เราเลือกเฉพาะร้านที่ไปกินแล้วอร่อยจริง สวยจริง คุ้มค่าจริงเท่านั้น ร้านไหน คาเฟ่ใด ไปแล้วและลงคะแนนเสียงกันว่าไม่ปลื้ม เราก็ไม่แนะนำค่ะ บล็อกนี้น่าจะมีประมาณ 14 ร้าน ล้วนเป็นร้านดังของเมืองน่าน ที่ตอกย้ำอีกครั้งว่าดีจริง ^^

กิน หรือ GIN (ตัวเมืองน่าน)

บอกตามตรงว่าลังเลที่จะมาดินเนอร์ที่ร้าน “กิน” เหตุผลที่ติดในใจ คือ ไม่เชื่อว่าร้านอาหารไทยที่ขายทั้งอาหารไทย และอาหารต่างประเทศ จะอร่อย พูดง่ายๆว่าไม่เชื่อมือพ่อครัวที่บอกว่าเก่งอาหารของสองซีกโลกนั่นเอง … แต่ด้วยสีหน้าของหลานๆ ที่ดูออกว่าหิวจนกินช้างได้ทั้งตัว ป้าเลยไม่อยากจะเลือกมาก และก็ดีเสียอีกที่ร้านแบบสองสัญชาติจะมีเมนูให้หลานๆเลือกเยอะ เราเลยสั่งอาหารกันแบบงงๆ เช่นชุดเรียกน้ำย่อย ที่มีไส้อั่ว ปอเปี๊ยะทอด ทอดมันกุ้ง คู่กับซุปครีมเห็ด และยำปลาดุกฟู คู่กับข้าวผัดปลาแซลม่อน แต่เราก็ยังไม่ลืมหมูผัดมะแขว่น และเมนูดังอื่นๆของร้าน ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมา กลับดีกว่าที่คิดไว้ (มาก) รสชาติอาหารทุกจานอร่อย เด็กๆชอบ ผู้ใหญ่ก็แฮปปี้ ร้านเองก็ตกแต่งได้ดี สะอาด เย็นสบาย บริการดี และอาหารเร็วทันใจ … (มะแขว่น เครื่องเทศประจำจังหวัด ที่ให้ความรู้สึกเหมือนหม่าล่า เผ็ดๆซ่าๆ แปลกและอร่อยดีค่ะ) (ที่ตั้ง 242/6 ห้อง112-116 ถ.มหายศ , ในเวียง, น่าน, จ.น่าน, 55000 เปิด ปิด 10.30 – 22.00 น. ทุกวัน)

สุริยาการ์เด้น (ตัวเมืองน่าน)

นางเอกของร้านนี้ คือ แม่น้ำน่าน นามสกุล สายสงบนิ่ง อากาศคืนนั้นเรียกว่าหนาวเลยค่ะ (ปลายเดือนพฤศจิกายน) หนาวจนเราต้องย้ายโต๊ะจากชั้นดาดฟ้า ที่รับลมเย็นเต็มแรงม้า ลงมาชั้นล่าง ในห้องกระจก ทันสมัย เดาว่าสร้างขึ้นใหม่ เพราะสุริยาการ์เด้นมีประวัติกว่า 40 ปี เป็นหนึ่งร้านอาหารอร่อย บรรยากาศดีของเมืองน่านค่ะ ถามถึงรสชาติอาหาร (ไทย) ใช้ได้ค่ะ มีเมนูให้เลือกเยอะ เด็กๆชอบ เหมาะกับครอบครัว (ที่ตั้ง 9 ถนน สุมนเทวราช ซอย มะโน ในเวียง, น่าน, จ.น่าน, 55000 เปิด ปิด 11.00 – 23.00 น. ทุกวัน)

 

น. น่านคาเฟ่ (ตัวเมืองน่าน)

อารมณ์ของคาเฟ่นี้เหมือนกับบ้านไม้ในเมือง Takayama ที่ญี่ปุ่น มีเสน่ห์ น่ามอง แถมด้านในยังตกแต่งน่ารัก เดินเก็บรายละเอียดก็สนุกแล้ว กาแฟของ น.น่านคาเฟ่ มาจากเมืองน่านเป็นหลัก กรรมวิธีอย่าง Specialty แท้ ทั้งกาแฟดริป และ Syphon นอกจากนั้นยังเป็นทางผ่านก่อนไปสักการะพระธาตุเขาน้อยด้วย มาตอนเช้าตรู่คนน้อย จิบ Americano ร้อนๆ สักแก้วให้อุ่นตัว (ที่ตั้ง 58 ถนน สุมนเทวราช เทศบาลเมืองน่าน, จังหวัดน่าน 55000 เปิด ปิด 8.00 – 17.00 น. ทุกวัน)

ขนมหวานป้านิ่ม (ตัวเมืองน่าน)

แปลกดีนะ ที่ขนมหวานแบบไทยๆ กลายเป็น A Must ของเมืองน่าน และร้านของป้านิ่มก็ไม่ได้จะอยู่ในตัวเมืองอะไร เดินทางก็ไม่ได้ง่าย (แต่ก็ไม่ยาก แค่ต้องมีรถ) กลับมีลูกค้ามาต่อคิวยาวทุกคืนๆ จนบ้านของป้านิ่มต้องขยายพื้นที่ สร้างห้องหับไว้รับลูกค้าโดยเฉพาะในยามค่ำคืน ที่แถวสั่งขนมจะยาวเป็นหางว่าวอย่างที่เห็น

เราโชคดีที่คืนนั้นได้เจอกับป้านิ่มตัวเป็นๆ เพราะไกด์ท้องถิ่นบอกว่า หลังๆป้านิ่มสุขภาพไม่ค่อยดี บางครั้งไม่ได้ออกมารับลูกค้า แต่วันนั้นป้ามายืนยิ้มแป้น ตักขนมหวานให้เราอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเลย

เมนูที่สั่ง แน่นอนว่าต้องมีบัวลอย (อร่อยมาก) ข้าวฟ่าง-ข้าวเหนียว (อร่อย) ข้าวเหนียวดำเปียก (พอใช้ได้) และน้ำแข็งไสลาดน้ำหวาน เพราะเจ้าหลานสองคน กลับไม่ชอบขนมไทยเสียนี่ (ที่ตั้ง 397 หมู่ 6 หมู่บ้านมงคลนิมิตร ในเวียง, น่าน, จ.น่าน, 55000 เปิด ปิด 11.00 – 22.00 น. ปิดวันอังคาร และวันพุธ)

 

เฮือนฮังต่อ กาแฟน่าน (ตัวเมืองน่าน)

น่านเป็นอีกจังหวัดที่มีไร่กาแฟอยู่ตามดอยต่างๆ ร้านกาแฟหลายแห่งจึงเลือกใช้เมล็ดกาแฟในจังหวัด สนับสนุนสินค้าท้องถิ่นรวมถึงเฮือนฮังต่อ กาแฟน่าน คาเฟ่และร้านอาหารที่อยู่ในบ้านไม้แบบไทยๆ บรรยากาศสงบและร่มรื่น เช้านี้บาริสต้าสาวๆ ชงกาแฟกันขะมักเขม้น เพราะมีลูกค้ามารออยู่หลายโต๊ะแล้ว กาแฟในร้านมีเมล็ดกาแฟให้เลือกจากหลายดอยในจังหวัดน่าน กรรมวิธีการอบก็แตกต่างกัน ถือเป็นอีกหนึ่ง Specialty Coffee ที่ต้องแวะของน่านเลยค่ะ (ที่ตั้ง 149/2, ตำบล ในเวียง อำเภอเมืองน่าน น่าน 55000 เปิด ปิด 8.00 – 18.00 น. ทุกวัน)

บ้านถั่วลิสง (ตัวเมืองน่าน)

แค่ได้ยินชื่อของบ้านน้อยหลังนี้ เราก็หูผึ่งแล้ว สาวกถั่วลิสงจึงต้องแวะ และของในร้านก็โดนใจลุงป้า รวมถึงคุณตา คุณยาย และเพื่อนพ้องที่ทำงาน ซึ่งแม้จะไม่ได้มาเที่ยวด้วยกัน แต่ของฝากที่หอบหิ้วกลับไปนั้น โดยเฉพาะ “เจ้าถั่วลิสงอบทราย” แสนอร่อย ทั้งกรอบและแห้ง ไร้อัลฟาท๊อกซินนั้นถูกใจทุกคนจริงๆ (ถั่วถูกเก็บ และอบไล่ความชื้นเป็นอย่างดี)

บ้านถั่วลิสง ถือกำเนิดจากโรงงานถั่วลิสงเพียงแห่งเดียวของน่าน ก่อตั้งเมื่อปี พศ 2521 ปัจจุบันเป็นทั้งผู้ปลูก ขาย และแปรรูปผลิตภัณฑ์ถั่วลิสงอันดับต้นๆของประเทศ จนเกิดเป็นบ้านถั่วลิสงให้เราเห็นกันในวันนี้ นอกจากถั่วลิสงอบทราย ที่ยกนิ้วให้เป็นที่หนึ่งแล้ว ในร้านยังมีถั่วลิสงอีกหลายชนิด น้ำมันถั่วลิสง และของฝากอีกมากมาย ใครไป บอกเลยว่าซื้อถั่วลิสงอบทรายกลับมาเยอะๆ ขนมรวยเพื่อนอย่างนี้ เพื่อนรักตายเลยค่ะ (ที่ตั้ง 113 หมู่ 2 ถนน น่าน-ทุ่งช้าง ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมือง น่าน เปิด ปิด 8.30 – 17.00 น. ทุกวัน)

 

ไส้อั่วละมัยพร (ตัวเมืองน่าน)

ของฝากเมืองน่านที่หลายคนฮิตกัน ก็คือ ไส้อั่วหมูละมัยพร ซึ่งเราไปซื้อกันที่บ้านเจ้าของเลย มีไส้อั่วให้เลือก 2 แบบ เผ็ดมาก และเผ็ดน้อย ราคาครึ่งกิโล 180 บาท หนึ่งกิโล 360 บาท ป้ายบอกว่าราคาสำหรับวันนี้ น่าจะหมายความว่า ราคาเปลี่ยนแปลงได้เรื่อยๆ เราซื้อมา 2 แบบเลย เอากลับมาบ้าน แช่เย็นได้อีก 3-5 วัน และฟรีซเซอร์ได้หนึ่งเดือน แต่ไม่ทันถึงอาทิตย์ก็หมดแล้ว เพราะอร่อยจริงๆ กินคู่กับแคปหมู และข้าวเหนียวนึ่ง ฟินทั้งครอบครัว (ที่ตั้ง 23/2 ถ.ราษฏร์อำนวย ต.ในเวียง อำเภอเมืองน่าน น่าน 55000 เปิด ปิด 7.00 – 18.00 น. ทุกวัน)

ข้าวหลามน่าน (ตัวเมืองน่าน)

เราชอบกินข้าวหลามมาก แต่ก็เบื่อกระบอกไม้ไผ่ของข้าวหลามหนองมน พอได้ยินว่าน่านมีข้าวหลามอร่อย และแค่ใช้มือฉีกก็กินได้เลย เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ก็ดีใจ และตั้งใจว่าต้องลองให้ได้ แต่น่าเสียดายที่ร้านอร่อยดันปิดวันที่แวะไป แต่ก็ยังได้ชิมอีกเจ้าดังที่ตั้งอยู่ตรงสี่แยกถนนคนเดินในเมือง หยุดรถซื้อมา 3-4 กระบอก ข้าวหลามน่านฉีกกินได้ง่ายจริง รสชาติไม่หวานเท่าข้าวหลามหนองมน ออกจะมันส์ๆหน่อย เอาจริงๆ ก็อร่อยค่ะ แต่ไม่ใช่อย่างที่ชอบ เพราะเป็นคนติดหวาน (มาก) ถ้าเป็นขนมไทย แต่ไปแล้วก็ลองเถอะ หากินไม่น่าจะได้ในกรุงเทพ (ที่ตั้ง ซุ้มข้าวหลาม ตรงสี่แยกถนนคนเดิน)

Coco Valley (ปัว)

ก่อนจะเลี้ยวรถลัดเลาะเข้าไปในอำเภอปัว เราแนะนำให้แวะจิบโกโก้ หรือช็อกโกแล็ตที่คาเฟ่นี้เสียก่อน นอกจาก Coco Valley จะตกแต่งเท่แล้ว ร้านยังมีเมนู รวมถึงสินค้าน่าซื้อมากมาย รสชาติของโกโก้ปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ผลงานคุณภาพของน่านก็อร่อยมากเช่นกัน เราเห็นความน่ารัก ชิลๆของเฉลียงหลังร้านแล้วอดใจไม่ได้ เบรกพักหย่อนขา สั่งขนมและเครื่องดื่มกันไปหลายแก้ว ส่วนหลานๆก็สนุกสนานกับการแปลงโฉมถ่ายรูปเป็นชาวสวนเก็บผลโกโก้จำลอง และจะบอกว่า Coco Valley ยังมีโรงแรมให้พักอยู่ในบริเวณเดียวกันอีกด้วย วิวดีเห็นเนินเขา และห้องก็เท่ด้วยนะ เมนูที่สั่ง Brownies, Cocoa Moctini และ Choco at Dome (ที่ตั้ง 339 หมู่ 8 ต.ปัว อ.ปัว จ.น่าน เปิด ปิด 9.00 – 18.00 น. ทุกวัน)

 

IMF ไอ เอ็ม เอฟ – ลุงมาดเจ้าเก่า (ปัว)

หลังจากผิดหวังจากร้านอาหารอาหารฟาร์มเห็ดที่ลูกค้าแน่นเอี๊ยด เราก็เพียรหาร้านใหม่ และไกด์ท้องถิ่นก็แนะนำร้านนี้ที่ชื่อดูอินเตอร์ แต่ของจริงกลับต่างกันลิบลับ เชื่อว่าถ้าใครผ่านมา คงไม่นึกว่า บ้านชั้นเดียวแสนจะธรรมดาหลังนี้จะเป็นครัวตามสั่งที่อร่อย และน่าตื่นตาตื่นใจอย่างไม่น่าเชื่อ เราจึงยกให้เป็นร้านอาหารลวงตาที่สุดของน่าน ฝีมือของลุงมาดเจ้าเก่า ที่ป้ายในร้านเตือนไว้ว่า อยากกินของอร่อยต้องรอนานหน่อย (โดยเฉพาะในวันที่ลูกค้าแน่น) เมนูเด็ดที่ห้ามพลาด คือ พิซซ่าหน้าภูเขาไฟ และส้มตำทะเลทอด เสิร์ฟมาที ตกใจทั้งโต๊ะ อะไรกันนี่ ทำไมมันช่างใหญ่โต และเครื่องแน่นขนาดนี้ แถมรสชาติยังดีอีกด้วยค่ะ ส่วนเด็กๆกินอะไรนะหรือ IMF ก็ยังมีสเต็กหมู และข้าวผัดกุ้ง ตัวใหญ่เบ้งให้อิ่มอร่อยกัน ^^ (ที่ตั้ง ปัว, อ.ปัว, ข้างโรงเรียนบ้านปรางค์, ตลาดล่าง เปิด ปิด 9.00 – 17.00 น. ทุกวัน)


 

กาแฟบ้านไทลื้อ (ปัว)

คาเฟ่ดังที่สุดของปัว ก็ต้องที่นี่เลย “กาแฟบ้านไทลื้อ” อำเภอที่มีชาวไทลื้ออาศัยอยู่มากที่สุดในจังหวัดน่าน และวัฒนธรรมสำคัญของชาวไทลื้อก็คือการทอผ้า สินค้าในชุมชนของกาแฟบ้านไทลื้อจึงเด่นมาก โดยหน้าร้านมีขายผ้าทอของแม่ลำดวลผ้าทอ ด้านในเป็นคาเฟ่ ที่มีทางเดินไม้ไผ่ ผ่านไปยังทุ่งดอกไม้ และทุ่งนา ให้สาวกได้ถ่ายรูปสวย … เรายังอิ่มจากเครื่องดื่มร้านก่อนหน้า (วันนี้กินไป 2 คาเฟ่แล้ว) เลยไม่ได้อุดหนุนกาแฟบ้านไทลื้อ แต่ได้ผ้าทอของแม่ลำดวลติดไม้ติดมือมา 3-4 ผืน เอามาตัดเป็นผ้าถุงสำเร็จรูปใส่ในงานบุญต่างๆแทน (ที่ตั้ง 164  หมู่ 4  ตำบลศิลาแลง  อำเภอปัว จังหวัดน่าน 55120 เปิด ปิด 7.00 – 17.00 น. ทุกวัน)

ร้านหัวสะพาน (บ่อเกลือ)

บ่อเกลือมีร้านอาหารดังอยู่หลายร้าน แต่ในช่วงเทศกาลก็แน่นขนัด จนเราเปลี่ยนใจมากินที่ร้านหัวสะพานของบ่อเกลือ สั่งอาหารตามเมนูที่มีอยู่ไม่กี่จานของร้าน เช่นปลาระเบิด หมูผัดเคย ไข่เจียว และอื่นๆที่เด็กๆทานได้ ก่อนจะไปเดินเล่น ชมวิวลำธารที่น้ำใสกิ๊ก มีโขดหินกับแนวต้นไม้เขียวให้ถ่ายรูปเล่น รสชาติอาหารของร้านหัวสะพาน ไม่เลวเลยค่ะ หลายจานอร่อย แต่ที่อิ่มใจมากกว่ากลับเป็นวิวธรรมชาติของร้านที่หลานๆชอบมาก และกลายเป็นภาพประทับใจของทริป (ที่ตั้ง 1256 ตำบล บ่อเกลือใต้ อำเภอ บ่อเกลือ (ติดสะพาน) เปิด ปิด 10.00 – 22.00 น.)  

หยุดเวลาคาเฟ่ (สะปัน)

ถัดจากบ่อเกลือ เรามุ่งหน้าไปยังอีกชุมชนเล็กๆที่มีชื่อเสียงโด่งดังของน่าน นั่นก็คือสะปัน หมู่บ้านเล็กๆ สงบนิ่งอยู่ท่ามกลางหุบเขา โอบกอดด้วยธรรมชาติอย่างแท้ทรู และในช่วงฤดูฝน ที่เรียกกันว่า “กรีนซีซั่น” นาข้าวของสะปันก็จะเบ่งบาน ชุ่มฉ่ำ จนนักท่องเที่ยวต่างมุ่งหน้ามาชมให้เห็นกับตา

วันนี้หมดฤดูกาลกรีนซีซั่น เข้าสู่ช่วงเหมันต์ของฤดูหนาว นาข้าวกลายเป็นสีน้ำตาล แนวเขาไม่เขียวชอุ่มเหมือนเดิม แต่ก็ยังคงความงดงามให้พอจินตนาการได้ เราขับรถขึ้นไปยังคาเฟ่ดังของสะปัน “หยุดเวลาคาเฟ่” ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา หันหน้าเข้าหาหมู่บ้านสะปัน และแนวเขาสลับซับซ้อน จิบเครื่องดื่มและละเลียดเค้กอร่อย พร้อมกับนั่งหยุดเวลาอยู่สักครึ่งชั่วโมง จินตนาการ ให้ภาพเบื้องหน้าเป็นสีเขียว ก่อนจะกลับอำลาสะปัน และแอบคิดในใจว่า ถ้ามีโอกาสและเวลาอำนวย จะกลับมาอีกครั้ง ชมความงามของสะปันให้จงได้ (ที่ตั้ง 50 บ้านสะปัน ตำบล ดงพญา อำเภอ บ่อเกลือ น่าน 55220 เปิด ปิด 6.00 – 18.00 น. ทุกวัน)

สกาดคอฟฟี่ (สกาด)

สกาด คือ อีกความงดงามของน่าน หมู่บ้านบนเนินเขาดอยภูคา แหล่งเพาะปลูกเมี่ยง และมะแขว่น สมุนไพรประจำจังหวัด อยู่สูงเหนือยอดดอยทั้งหลาย จนทำให้วิวของสกาดกลายเป็นที่เลื่องลือว่างดงามไม่แพ้ดอยใดๆในประเทศไทย และสายวันนั้น เราก็ใช้เวลากว่าชั่วโมงอยู่ที่สกาดคอฟฟี่ นั่งจิบกาแฟ ชมวิว และสูดอากาศที่อุณหภูมิยี่สิบต้นๆ ก่อนจะวกกลับไปที่ปัว ซึ่งอยู่ห่างจากสกาดไปเพียงยี่สิบกว่ากิโลเท่านั้น นักท่องเที่ยวสายแอนเวนเจอร์คงชอบที่นี่ เพราะสกาดมีโฮมสเตย์อยู่ 3-4 แห่ง แต่ละแห่งมีวิวสวยๆทั้งนั้น รวมถึง เฮือนธามไท ที่พักซึ่งอยู่บนชั้นสองของร้านกาแฟแห่งนี้ … ไม่แน่นัก กรีนซีซั่นนี้อาจจะได้พบกัน (ที่ตั้ง บ้านสกาดใต้ 24 ตำบล สกาด อำเภอ ปัว น่าน 55120 เปิด ปิด 8.00 – 17.00 น. ทุกวัน)