พาสูงวัยไปท่อง Entertainment Complex ที่มาเก๊า : ฉบับ The Londoner Macao  

เห็นว่าเรื่องราวของ Entertainment Complex กำลังได้รับการพูดถึงในประเทศไทย และเราก็เพิ่งไปเที่ยวมาเก๊า ศูนย์รวม Entertainment Complex ที่ยิ่งใหญ่ของเอเชียมา ก็เลยหยิบยืมคำนี้มาใช้เป็นคอนเท้นสักหน่อย เผื่อหลายคนจะได้เห็นภาพของ Entertainment Complex ที่แท้ทรูระดับโลกว่าเค้าทำกันยังไง

“มาเก๊า” เป็นเขตบริหารพิเศษของจีน เคยถูกปกครองโดยโปรตุเกสอยู่ 400 ปี มาเก๊า ตั้งอยู่ใกล้กับฮ่องกง ปัจจุบันมีสะพานยาว 55 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสะพานยาวที่สุดในโลกเชื่อมสามเมืองเข้าด้วยกัน มีชื่อว่า สะพานฮ่องกง-มาเก๊า-จูไห่ (Hong Kong – Macao – Zhuhai Bridge หรือ HMZB)

การเดินทางจากฮ่องกงมาเที่ยวมาเก๊าเลยสะดวกสบายมากขึ้น จะเลือกนั่งรถบัสสาธารณะ หรือจะเช่ารถตู้นั่งสบายสำหรับสูงวัยก็ได้ ใครที่เลือกนั่งรถตู้มาส่งถึงหน้าโรงแรมอย่างพวกเรา ก็มีค่าใช้จ่ายประมาณ 5,600 เหรียญฮ่องกง หรือ 25,200 บาท สำหรับขาไปมาเก๊า และขากลับมาสู่ฮ่องกง

ตรงจุดตรวจคนเข้าเมือง จะมีการเปลี่ยนรถ ย้ายกระเป๋าจากรถตู้ทะเบียนฮ่องกงเป็นรถตู้ทะเบียนมาเก๊า

คนขับช่วยขนกระเป๋า สูงวัยก็นั่งรถชิลๆไป

 

Cotai

มาเก๊ามีย่าน Entertainment Complex อยู่หลายแห่ง แต่วันนี้เราจะพามาเที่ยวกันที่ Cotai ผืนดินที่เกิดจากการถมทะเลให้กลายมาเป็นอีกศูนย์กลางของมาเก๊า

เรื่องราวของย่าน Cotai นี้ … เริ่มต้นเมื่อหลายสิบปีก่อน จาก The Venetian ซึ่งเป็น Entertainment Complex ที่หยิบสถาปัตยกรรมของเวนิสมาสร้างเป็นห้างสรรพสินค้า โรงแรมและคาสิโน จวบจนวันนี้ Cotai พัฒนาใหญ่โต มีทั้ง The Londoner และ The Parisian ที่ดึงเอาแลนด์มาร์คของลอนดอน และปารีส มาไว้บนถนนเส้นเดียว ที่ชื่อว่า Estr. Do Istmo ภายใต้การบริหารอย่างมีประสิทธิภาพของกลุ่ม Las Vegas Sands Corp กลุ่มเดียวกับที่สร้าง Marina Bay Sands ของประเทศสิงคโปร์ค่ะ

 

The Londoner Macao

(www.londonermacao.com)

หลังจากการปรับปรุงครั้งยิ่งใหญ่อยู่หลายปี Entertainment Complex แห่งนี้ ก็ได้รีแบรนด์ตัวเองใหม่ให้เป็น The Londoner Macao และเปิดตัวอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม ปี 2023 พร้อมกับดึง David Backham มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของกลุ่ม ซึ่งมีโรงแรมเรือธง The Londoner Hotel ที่หรูหรา Londoner Arena หอประชุมจุ 6,000 คน และแลนด์มาร์คของอังกฤษครบถ้วน เช่นหอนาฬิกาบิ๊กเบน พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ รถเมล์แดง ตู้โทรศัพท์ รูปปั้นวินส์ตัน เชอร์ชิล รถม้าของราชวงศ์อังกฤษ และอื่นๆอีกมากมายในช้อปปิ้งมอล์มโหราฬที่เราเดินเล่นได้ตลอดวัน นอกจากนั้น The Londoner ยังมีอีก 3 โรงแรมใหญ่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือโรงแรมที่เราเลือกพักในทริปนี้

Conrad Hotel

(www.londonermacao.com/hotels/conrad-macao.html)

หนึ่งในโรงแรมที่ตั้งอยู่ใน The Londoner มีห้องพักมากกว่า 300 ห้อง เราเลือกห้องในราคาเริ่มต้น Deluxe Room with Eifel View ก็ได้ห้องพักใหญ่โตโอ่โถงด้วยขนาดกว่า 52 ตรม. ในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เราชอบโซฟายาวโค้งริมหน้าต่าง ส่วนเตียงก็มีให้เลือกระหว่างคิงส์ไซส์ หรือเตียงควีนคู่ นอกจากนั้นห้องนี้ยังมีกระจกบานใหญ่ หันหน้าไปด้านซ้าย เห็นวิวหอไอเฟิลเพื่อนบ้านแจ่มแจ๋ว ช่วงเย็นๆมีการแสดงไฟของหอไอเฟิล (Illumination) เราก็จะได้เห็นเต็มตา เช่นเดียวกับตอนเช้าที่แสงพระอาทิตย์ส่องกระทบหอไอเฟิลเป็นสีทองอร่าม สวยงามและสมจริงมากค่ะ การบริการนั้นก็วางใจได้ บริการดี ฉับไว มีเจ้าหน้าที่คนไทยคอยให้ความช่วยเหลือ สูงวัยก็มีบริการรถเข็น wheel chair ซึ่งเราจับจองมาล่วงหน้า คุ้มค่ามากๆค่ะ (ห้องพักคืนละ ประมาณ 9,000 – 15,000 บาท)

What to See : The Londoner

เดินเล่นบนถนน Estr. Do Istmo ชื่นชมบรรยากาศของยุโรปฉบับมินิ

ถนนสายนี้ผ่ากลางย่าน Cotai ที่มี Entertainment Complex ยิ่งใหญ่ทั้ง 3 แห่งตั้งอยู่ ถนนนี้มีชื่อเรียกยากๆว่า Estr. Do Istmo และถูกเทียบให้เป็น Las Vegas Strip ของเอเชีย

สองข้างทางของถนน Estr. Do Istmo ปูทางเท้าใหญ่ เดินสบาย รถเข็นสูงวัยก็มาได้สะดวก อุณหภูมิในช่วงมกราคม เย็นสบายประมาณ 15-17 องศา เราจูงมือสูงวัยมาชม façade ของ The Londoner และหอนาฬิกาบิ๊กเบนอย่างใกล้ชิด เดินต่อไปอีกสักนิด ก็จะเห็นหอไอเฟิลสูงตระหง่าน พระอาทิตย์ตกดินที่ด้านหลัง แสงเย็นจึงสวยไปอีกแบบ หนุ่มสาวสามารถเดินต่อไปได้ยาวๆ ไปถ่ายรูปกับสนามหญ้าหน้าหอไอเฟิล หรือสถาปัตยกรรมของเวนิสที่ The Venetian แต่สูงวัยเริ่มขาสั่นกันแล้ว เพราะตื่นเช้าตรู่ เราเลยเดินกันได้สั้นๆ แต่ก็เก็บภาพสวยกลับมาได้อยู่ค่ะ

The Londoner Shopping Mall

ใน Entertainment Complex แห่งนี้ มีช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ถึง 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นที่ตั้งของแบรนด์หรู เช่น Louis Vuitton, Gucci, Bottega  ชั้นบนก็จะเป็นแบรนด์รองลดหลั่นกันลงไป ใครที่ชอบแบรนด์เนมคงถูกใจ มีให้เลือกครบทุกยี่ห้อ คอลเล็คชั่นก็ดีงาม นอกจากนั้นยังมีทางเชื่อมไปยังThe Venetian ทางเดินเป็นสะพานลอยขนาดใหญ่ เข็นรถเข็นได้ชิลๆ ในนั้นยังมีอีกหลายแบรนด์ดัง รวมทั้ง Loro Piana ใครที่ไม่ใช่สายแฟ สายชอบช้อปปิ้ง ก็สามารถสนุกสนานไปกับจุดถ่ายรูปตลอดเส้นทางค่ะ

ชมการแสดง Changing Guard

ทุกคืนในเวลา 21.30 น. ตรงโถงใหญ่ของ The Londoner จะมีมินิการแสดงเปลี่ยนการ์ด และยังมีตัวแสดงพระนางวิคทอเรียที่ระเบียงชั้นบนอีกด้วย การแสดงใช้เวลาประมาณ 10 นาที แต่เต็มไปด้วย แสง สี และเสียง ใครผ่านมา ก็มาแวะชมกันได้ค่ะ สนุกดี

TeamLab SuperNature Macao

อีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับคนที่ชอบเสพงานศิลป์ในแบบฉบับดิจิตัล หรือจริงๆจะเป็นคนที่ไม่เคยชม ก็อยากให้ลองเปิดใจเข้าไปดูกัน เพราะสูงวัยที่เข็นรถพาไปชม ก็ตื่นตาตื่นใจ ยิ่มร่า โบกมือให้กล้องรัวๆ โดยเฉพาะห้องกล้วยไม้ ที่สะท้อนธรรมชาติในมิติพิศวง ห้องไฟระยิบ ที่รถเข็นเข้าไปชมได้ คุณแม่บอกว่าสวยเหลือเกิน

TeamLab SuperNature Macao ตั้งอยู่ที่ The Venetian ในห้อง Expo ขนาดกว่า 5,000 ตรม. ภายในเหมือนเขาวงกต มีทางเดินแยกไปแต่ละทิศ นำไปสู่ห้องต่างๆ ใครไม่คุ้น อาจจะหลงทาง ให้ถามพนักงานถึงห้องที่อยากไป

ห้องชงชา หรือ En Tea เป็นห้องพิเศษ ในห้องจะมืดสนิท มีเพียงแสงสปอต์ไลท์ที่ส่องมาบนโต๊ะตรงหน้าเรา สักพักพนักงานจะเสิร์ฟชากลิ่นที่เราเลือกในถ้วย คู่กับไอศรีมชาเขียว จากนั้นดิจิตัลอาร์ตก็จะเริ่มสาดส่องในถ้วยชา เมื่อเรายกชาดื่มภาพดอกไม้จะเริ่มบาน ใบจะร่วงโรยตามสายลม และจะกลับมาบานใหม่ ทุกครั้งที่เรายกถ้วยขึ้นดื่ม นอกจากนั้นยังมีผีเสื้อตัวน้อยๆ ที่คอยบินเวียนวนอยู่รอบๆ ห้องนี้ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีกับประสบการณ์น่าประทับใจครั้งนี้ค่ะ

สำหรับเด็กๆ ก็มีกิจกรรมสนุกๆมากมาย ที่สามารถเล่นไปพร้อมกับดิจิตัลอาร์ต เช่นตั้งเต กระโดดไปบนพื้น หรือสไลเดอร์ ชวนหวาดเสียว และห้องศิลปะให้ขีดเขียนภาพจินตนาการต่างๆ

เกือบหนึ่งชั่วโมงที่เราใช้เวลาชม TeamLab SuperNature Macao แต่เราก็ยังชมกันไม่ครบทุกห้อง ต้องรีบกลับออกมา เพราะถึงเวลาเช็คเอ้าท์จากโรงแรม นั่งรถกลับไปสู่ฮ่องกงกันแล้ว

ที่ตั้ง The Venetian Macao, Cotai Expo Hall F

เปิด ปิด 11.00 – 19.00 น.

ค่าตั๋ว ผู้ใหญ่ 288 เหรียญ เด็ก (3-12 ปี) 208 เหรียญ บัตรของโรงแรมในเครือ Sands Group (Londoner, Venetian & Parisian) ได้ส่วนลด 30% และห้องพิเศษ กล้วยไม้ และชาชา extra ประมาณ​คนละ 100 เหรียญ

www.teamlab.art/th/e/macao/

 

Where to Eat : The Londoner

Breakfast : The Conservatory

มื้อเช้าเราภูมิใจนำเสนอ The Conservatory ร้านอาหารเช้าแต่งสไตล์คลาสสิกอิงลิช ที่เปิดตั้งแต่ 8.00 เช้า เมนูแนะนำ มีทั้ง English Breakfast ชุดใหญ่ วอฟเฟิลราดน้ำไซรัปหวานหอม และโจ้ก ปาท่องโก๋ทอดก็ไม่เลวเลย ข้างๆกันยังมีจุดถ่ายรูปกับรถม้าสมัยวิคทอเรีย บริการดี อาหารอร่อย ถ้าไม่ได้จอง buffet breakfast ของโรงแรม ก็แวะมากินกันได้ค่ะ (Level 1, Londoner Grand เปิด ปิด 8.00 – 24.00 น. ทุกวัน ราคาเฉลี่ยคนละ 500-700 บาท)

Lunch : Hip Seng Seafood Hotpot

ฮ๊อตพ๊อตเจ้าดังของมาเก๊า เปิดมาแล้วกว่าสามสิบปี ก็มีสาขาใน The Londoner เหมือนกันนะ สาขานี้ตกแต่งหรูหรา ราคาสมฐานะ แต่ก็แนะนำค่ะ เพราะน้ำซุปคลาสสิกอร่อยจริง ไม่ต้องปรุงใดๆเลย และที่ค้นพบอีกเมนู ก็คือข้าวอบหม้อดินซี่โครงหมู ชามนี้ให้ชนะเลิศ พนักงานจะช่วยคลุกเคล้า และแงะข้าวตังติดหม้อมาให้เคี้ยวกรุบๆ ส่วนคนที่ชอบนกพิราบก็แนะนำให้สั่ง คุณน้าปลาบปลื้มใจมาก อาหารทะเลเป็นจุดขาย แต่เราไม่กล้าไปเลือกกันสดๆที่อแควเรี่ยมหน้าร้าน ข้อติงอย่างเดียวคือภาษา ที่เจรจากันไม่เข้าใจ แต่มีเมนูมีภาษาอังกฤษค่ะ  (Shop 1043&1058, Level 1, The Londoner Macao เปิด ปิด 11.30 – 15.00 และ 17.00 – 02.00 น. ราคาเฉลี่ยคนละ 1,500 – 2,000 บาท)

Dinner : Brasserie at the Parisian

ดินเนอร์ของวันนี้ เราพามา around the world กันที่ปารีส ในอาคารด้านหลังหอไอเฟิลมีร้านอาหารฝรั่งเศส Brasserie ตั้งอยู่ ถึงแม้ร้านค้ารอบๆจะดูเงียบเหงา แต่ใน Brasserie ก็มีลูกค้าทยอยเข้ามาต่อเนื่อง มื้อฝรั่งเศสก็ต้องมีซุปหัวหอม ฟรัวกรา และ Duck Confit ขนมหวานซูเฟร่ และครีมบรูเล่ก็ไม่เลวเลย พนักงานต้อนรับดีมาก ช่างเจรจาและหลงรักคนไทย (Shop 3312, Level 3, The Parisian Macao 3 เปิด ปิด 12.00 – 15.00 และ 18.00 – 22.30 น. ปิดทุกวันจันทร์ ราคาเฉลี่ย คนละ 1,500 – 2,500 บาท)