ฉากรัก … เสียมเรียบ – Cambodia

Angkor Wat

อลังการนครวัด อ่อนช้อยที่บันทายศรี น่าเกรงขามที่นครธม … เสน่ห์เมืองโบราณ อบอวลด้วยกลิ่นอายเฟรนช์โคโลเนี่ยล “เสียมเรียบ” บ้านพี่เมืองน้อง ที่พักใจใกล้ๆเมืองกรุง

ทริปเสียมเรียบนี้ เป็นทริป “ฉุกละหุก” ค่ะ นึกอยากไป ก็จองตั๋วเครื่องบิน และโรงแรมเสร็จภายใน 2 ชั่วโมง ไม่วางแผน ไม่จองรถไปรับที่สนามบิน และไม่มีโพยใดๆทั้งสิ้น … ต่างจากนิสัยคุณนายละเอียดของฉันเป็นอย่างยิ่ง

 

Day 1

เช้าตรู่ของเดือนกุมภาพันธ์ที่มวลอากาศเย็นยังปกคลุมอยู่นิดๆ … เราบินมาเสียมเรียบด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์

อาหารกล่องที่บรรจุเพียงแซนด์วิชและน้ำส้มถูกเสริฟ์หลังจากเครื่องทะยานขึ้นฟ้าได้ไม่นาน และยังไม่ทันที่อาหารจะย่อย

กัปตันก็ประกาศนำเครื่องลง แจ้งให้รัดเข็มขัด พับขาเก้าอี้ และเปิดม่านหน้าต่าง !!!

นับเป็นการเดินทางไปต่างประเทศที่ใกล้จนน่าตกใจ ภูเก็ต หรือเชียงใหม่ยังไกลเสียกว่า …

สนามบินเสียมเรียบ

สนามบินนานาชาติเสียมเรียบ จังหวัดท่องเที่ยวของประเทศกัมพูชา ดูอัธยาศัยดี … ต้อนรับเราด้วยโครงสร้างแบบบ้านทรงไทย หลังคาจั่วชั้นเดียว มีสวนเขียวชอุ่มภายในอาคารสนามบินให้ชมระรื่นตา

เราใช้เวลาตรวจหนังสือเดินทาง และรับกระเป๋าเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ก็ออกมายืนจองรถแท็กซี่จากเคาน์เตอร์ในสนามบินขาเข้า

จุดหมายต่อไปของเมืองเป็น Le Meridien Angkor Hotel ค่าแท็กซี่คิด 10 เหรียญ หรือ 300 บาทค่ะ

ป.ล. ดอลล่าห์สหรัฐ เป็นเงินสกุลหลักที่ใช้จับจ่ายภายในเมืองเสียมเรียบ เงินบาทของไทยก็ใช้ได้ แต่อัตราแลกเปลี่ยนไม่ดีเท่าดอลล่าห์สหรัฐ

 

Angkor National Museum 1

บ่าย …. หลังจากเช็คอินเข้าโรงแรม เก็บข้าวเก็บของ เราก็เริ่มทำความรู้จักเสียมเรียบกันที่ Angkor National Museum (พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอังกอร์)

ห้องวิดิทรรศ์ของพิพิธภัณฑ์เป็นห้องแรกที่บอกเล่าเรื่องราวอันรุ่งเรืองในอดีตของเมืองเสียมเรียบ โดยมีห้อง 1,000 Buddha Images เป็นห้องไฮไลท์

พระพุทธรูปประดิษฐานเรียงราย ในบรรยากาศเงียบสนิท วังเวงและน่าเกรงขาม

Angkor National Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก แต่มีความพยายามยิ่งใหญ่ ตั้งใจรวบรวมวัตถุโบราณของบ้านเมือง ให้ลุกขึ้นมาบอกเล่าเรื่องราวในอดีตให้กับคนรุ่นหลัง

ถือเป็น “บทนำหน้าแรก” ที่ควรอ่านก่อนการเยี่ยมชมเมืองเสียมเรียบแห่งนี้ค่ะ

สกายแล็บ

สกายแล็ป หรือรถมอเตอร์ไซด์ลากแบบนี้ เป็นวิถีการชมเมืองเสียมเรียบที่สะดวกสบายและเข้าถึงอารมณ์มากที่สุด

ลมเย็นๆของฤดูหนาวพัดปะทะใบหน้ายามขับเคลื่อน คลุกเคล้ากับฝุ่นดินทรายตามถนนหนทาง

แว่นกันแดด หมวก และผ้าคลุมจึงเป็นอุปกรณ์จำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการชมเมืองด้วยเจ้ารถลากคันนี้

ป.ล. ราคาต่อเที่ยวประมาณ 3-10 ดอลล่าห์ นั่งได้สูงสุด 4 คน แต่แนะนำแค่ 2 เท่านั้น จะได้นั่งกันสบายๆ

และถ้าชอบใจคนขับคนไหน นัดแนะให้กลับมารับได้ ภายในเวลากี่โมง

อ้อ … อย่าเผลอให้เงินค่าจ้างก่อนนะคะ เพราะเดี๋ยวพ่อคุณจะหายไปไม่กลับมาอีกเลย^^

 

เย็น… Old Town หรือตลาดใหญ่ใจกลางเมือง เป็นศูนย์รวมร้านอาหาร และร้านค้าที่นักท่องเที่ยวมักแวะเวียนมาเดินเล่น

อากาศพลบค่ำเย็นสบาย ร้านอาหารเปิดขายภายในตึกแถวและอาคารเก่า มีทั้งอาหารฝรั่ง อิตาเลียน และพื้นเมืองให้เลือกทาน

เมนูพื้นบ้านใกล้เคียงกับอาหารไทยมาก รสชาติอร่อยและสะอาด บรรยากาศประหนึ่งถนนข้าวสารของเราค่ะ

Old Town Siem Reap Old Town Siem Reap Old Town Siem Reap Old Town Siem Reap

Day 2

เช้า …. วันนี้เป็นวันที่รอคอย เราจะออกสำรวจกลุ่มปราสาทที่งดงามทั้งหลาย

เราจองทัวร์ จองรถและไกด์ท้องถิ่นที่พูดได้ 3 ภาษา (ไทย เขมร และอังกฤษ) ผ่านเคาน์เตอร์ Conceirge ของโรงแรมตั้งแต่เมื่อวานเย็น

ราคารวมทั้งหมด 65-80 ดอลล่าห์ต่อวัน ประกอบไปด้วย ค่ารถ Toyota Camry 15 ดอลล่าห์ ค่าไกด์ 30 ดอลล่าห์ และค่าเข้าชมปราสาทประมาณ 20 ดอลล่าห์ต่อคน

 

ปราสาทแรกที่เข้าชม เป็นปราสาทหินทรายที่ลวดลายแกะสลักละเอียดและอ่อนช้อยที่สุด …. “ปราสาทบันทายศรี”

ไกด์ชาวเขมรกล่าวถึงบันทายศรีอย่างภาคภูมิใจว่า “หากพีรามิดเป็นสิ่งก่อสร้างที่แข็งแกร่งที่สุด บันทายศรีของกัมพูชาก็คงเป็นปราสาทหินที่อ่อนช้อยที่สุดของโลกเช่นกัน”

แม้เวลาจะผ่านมาร่วมพันปี แต่ความชัดเจนของลวดลายไม่ได้เลือนหายไปเลยสักนิด

ปราสาทบันทายศรี อยู่ห่างจากเมืองเสียมเรียบประมาณ 30 นาที มักเป็นปราสาทแรกที่แวะชมก่อนเดินทางไปปราสาทอื่นๆค่ะ

“ปราสาทบันทายศรี”

ปราสาทบันทายศรี ปราสาทบันทายศรี ปราสาทบันทายศรี ปราสาทบันทายศรี

ถัดมาเป็นปราสาทตาพรม หรือที่รู้จักกันในนาม “Jungle Temple” ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สร้างให้กับพระมารดา

จุดเด่นของปราสาท อยู่ที่รากไม้ใหญ่ ที่เลื้อยปกคลุมตัวปราสาท จนกลายเป็นความอัศจรรย์ของธรรมชาติที่น่าลึกลับและค้นหา

“ปราสาทตาพรม”

ปราสาทตาพรม ปราสาทตาพรม ปราสาทตาพรม ปราสาทตาพรม ปราสาทตาพรม

เรามีเวลาเดินชมปราสาทแต่ละแห่งประมาณ 30-45 นาทีค่ะ ไกด์เขมรจะพาดูเฉพาะส่วนที่สำคัญ ช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก เพราะวันนี้เรายังมีอีก 2-3 ปราสาทใหญ่ที่คอยอยู่

 

นครธม .… เป็นจุดหมายต่อมา

พระนครหลวงแห่งนี้ มีความหมายว่า “Great City หรือเมืองที่ยิ่งใหญ่”

นครธม …. ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 หรือประมาณ 800 ปีที่แล้ว

นครธมนี้เป็นลักษณะของเมือง ที่ประกอบด้วย กลุ่มปราสาทมากมาย และลานกลางแจ้ง

ถึงแม้ปัจจุบันจะมีบางส่วนที่กลายเป็นซากปรักหักพังไปบ้าง แต่ความยิ่งใหญ่ ก็ยังคงปรากฏให้เห็น … และ

ไฮไลท์สำคัญที่นครธม ก็คือ “ปราสาทบายน” ปราสาทหน้าพระโพธิสัตว์กว่า 2,000 หน้า ที่มหึมาและน่าเกรงขาม

“ปราสาทบายน”

IMG_0505ปราสาทบายนปราสาทบายน

และลานช้างสัตว์ที่สำคัญในอดีต ที่ปัจจุบันเหลือเพียงหินรูปช้างเป็นสัญลักษณ์เหลือทิ้งไว้

Terrace Elephant

Terrace Elephant

 

เส้นทางเดินเที่ยวในนครธมนั้นค่อนข้างสมบุกสมบัน ให้จินตนาการว่าต้องเดินชมเมืองเก่าอยุธยาไปเรื่อยๆ

รองเท้าที่ใส่จึงต้องสบาย อีกทั้งแสงแดดที่แรงจ้า แผดเผาทุกอณูผิว จึงควรพกร่ม แว่นตากันแดด และครีม SPF สูงๆ มาด้วยค่ะ

และในที่สุด เราก็มาถึง “นครวัด” นครแห่งศรัทธา

ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 เมื่อหนึ่งพันปีที่แล้ว เชื่อกันว่านครวัดถูกสร้างขึ้นเพื่อเก็บพระศพของพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 เพราะหน้าปราสาทหันไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นทิศของคนตาย

นครวัด

จุดถ่ายรูปสำคัญ ก่อนเข้าชมนครวัด…แอ่งน้ำและภาพสะท้อนของปราสาทหินแห่งนี้

สะพานหินที่ทอดยาวกว่า 200 เมตร ทางเข้าหลักของนครวัด … บ่มอารมณ์ของเราให้ตื่นเต้นขึ้นทุกขณะจิต

ณ ปลายสุดถนน เป็นที่ตั้งของปราสาทหินที่ยิ่งใหญ่ หนึ่งในสถานที่ที่หลายคนอยากมาเห็นสักครั้งในชีวิต

IMG_0525_resize

ความยิ่งใหญ่ และอลังการของนครวัด เผยให้เห็นที่ละนิดๆ ในขณะที่เราก้าวเดินตามแผ่นหินขนาดใหญ่

IMG_0527_resize

ภาพแกะสลักของนางฟ้า “อัปสร” ตามกำแพงของปราสาท เป็นอีกจุดเด่นที่หลายคนเดินละเมียดชม

จากจำนวนนางอัปสรทั้งหนึ่งพันรูปนั้น นางผู้นี้กลับถูกถ่ายรูปมากที่สุด เพราะนางรับแขก ยิ้มโชว์แนวฟันได้ประทับใจยิ่ง^^

นางอัปสร นางอัปสร

และอีกภาพแกะสลักที่โด่งดังไม่แพ้กัน เป็นภาพการกวนเกษียณสมุทรของเหล่าเทวดาและยักษ์ในตำนานค่ะ

การกวนเกษียณสมุทร

 

Day 3

เช้าวันนี้เรายังคงอ่อนล้าจากทัวร์ชมปราสาทของเมื่อวาน ทริป 4 ปราสาทไม่ได้ทำให้เราเมื่อยนัก แต่แสงแดดที่แผดเผาอย่างไม่บันยะบันยังนี่สิ ดูดพลังไปทั้งร่างเลยค่ะ

เราตัดสินเที่ยวชิลๆไม่เร่งรีบ แวะไปทานอาหารเช้าสไตล์บิสโตรฝรั่งเศสที่ FCC Hotels & Restaurant ซึ่งบอกเลยว่า อาหารฟิวชั่นเขมร อร่อยถูกปากมากๆค่ะ

มื้อเที่ยงที่ FCC Hotels & Restaurant

 

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

เสียมเรียบ (Siem Reap) หรือ เสียมราฐ เป็นจังหวัดที่สำคัญของประเทศกัมพูชา ห่างจากกรุงพนมเปญ 314 ก.ม. เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของประเทศ และมีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมนครวัดประมาณ 1,600,000 คนในแต่ละปี

เสียมเรียบ แปลว่า สยามราบ หรือ สยามแพ้ เข้าใจว่า เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นในภายหลังเพราะหลังจากที่พันตรีแปลก พิบูลสงคราม ได้บุกข้ามชายเดนขับไล่ประเทศฝรั่งเศสออกจากดินแดนฝั่งขวาของแม่นำโขง พระตะบอง เปลี่ยนชื่อเป็นเสียมราฐ หรือ สยามชนะ

ข้อมูลการเดินทาง

  • สายการบิน Bangkok Airway หรือ Air Asia ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
  • มีค่าภาษีสนามบินขาออก 25 ดอลล่าห์
  • ไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับคนไทย พำนักอยู่ได้ไม่เกิน 21-30 วัน
  • ดอลล่าห์สหรัฐเป็นเงินสกุลหลักที่ใช้ในเสียมเรียบ ควรแลกแบงค์ย่อย 1,5 และ 10 ดอลล่าห์
  • รายจ่ายค่าอาหารต่อวันประมาณ 20-30 ดอลล่าห์
  • ค่านวด สปา อยู่ที่ 30-50 ดอลล่าห์

— The End —