อารมณ์บนหลังอูฐ

tfp4

อูฐตัวนี้มีความสูงประมาณ 1.85 เมตร มีหน้าที่เป็นสารถีพานักท่องเที่ยวเดินชมวิว และบรรยากาศของพีรามิดกีซ่า ประเทศอียิปต์

รอยยิ้มของเราที่ฉายมาให้กล้อง แลดูเป็นธรรมชาติ ต่างจากแข้งขา และร่างกายที่แข็งเกร็งฝืนธรรมชาติอยู่บนหลังของเจ้าอูฐค่ะ

หนุ่มน้อยเจ้าของสัตว์แห่งทะเลทรายตัวนี้ บอกกับเราว่า “ตอนอูฐยกตัวขึ้น ยูต้องเอนตัวไปด้านหลัง ห้ามโน้มตัวมาด้านหน้า … เช่นเดียวกับตอนลงนะ”

ในขณะที่ปีนขึ้นหลังอูฐ เราขึ้นกันได้ง่ายๆไม่ยากนัก เพราะอูฐจะนั่งสี่ขา เหมือนหมาหมอบอยู่บนพื้น อารมณ์ระทึกอยู่ตอนที่อูฐยกตัวยืนขึ้น เพราะแข้งขาที่ยาวทั้งสี่ ดันยกขึ้นไม่พร้อมกัน หรือพูดง่ายๆว่า อูฐจะยกสองขาหน้ายองๆขี้นก่อน และค่อยเป็นสองขาหลังตาม

ยามที่สองขาหลังเหยียดเต็มตรงแหน่ว แต่ขาด้านหน้ายังยองๆอยู่ หน้าของเราจะทิ่มลงไปที่พื้น คำเตือนของเจ้าหนุ่มน้อยก็ถึงบังอ้อ ณ ตอนนี้ เรารีบเอนตัวไปด้านหลัง หงายไปให้สุดตัว เพื่อไม่ให้หน้าคว่ำหัวคะม่ำลงที่พื้นทะเลทรายค่ะ

ในขณะที่อูฐเดินย่องท่องไปเรื่อยๆ ตัวเราจะโยกหน้าโยกหลัง สองมือต้องจับเบาะเป็นที่ยึดอยู่ตลอดเวลา ความสูงของอูฐไม่ถึงสองเมตรจริง แต่ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนตึกสามชั้น โคลงเคลง และหวาดเสียวเป็นระยะๆ …

ตอนขาลง เจ้าหนุ่มน้อยย้ำอีกครั้งว่าให้เอนหลัง เพราะเจ้าอูฐก็ยังทำนิสัยเดิม คือหมอบลงไม่พร้อมกัน

คิดถึงความรู้สึกตอนนั้นแล้วขำค่ะ ใจจดจ่ออยู่กับอูฐและความสูง จนไม่ได้ชมวิวทะเลทรายและพีรามิดมากนัก มัวแต่กลัวว่าจะตกหลังอูฐ เสียหน้าสาวไทยเป็นที่สุด …
กลับไปครั้งหน้าคงไม่กลัวเท่านี้แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้ไปอียิปต์อีกเมื่อไหร่ เพราะในวันนี้อียิปต์เปลี่ยนไป การเมืองที่วุ่นวายทำให้เมืองล้ำค่าแห่งนี้ดูน่ากลัวไปมากโข