อย่างที่เกริ่นไปใน Phuket Diary ฉันมีเลือดภูเก็ตอยู่ครึ่งนึงแต่กลับไม่รู้จักภูเก็ตเท่าไหร่นัก ทริป 5 วันนี้ฉันจึงท่องภูเก็ตอย่างนักท่องเที่ยวและลิ้มลองอาหารตามร้านใหม่ๆ แต่ก็ยังไม่พลาดร้านเก่าที่ถูกใจจนกลายมาเป็นรวมมิตร 10 ร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ของภูเก็ตบล็อกนี้ค่ะ
คุณจี๊ดราดหน้ายอดผัก
คุณต้องการอะไรจากก๋วยเตี๋ยวราดหน้าสักชาม? เส้นเหนียวหนึบ หมูชิ้นใหญ่หมักจนนุ่ม น้ำลาดกลมกล่อม? คุณจี๊ดราดหน้ายอดผักมีคำตอบครบและจบในจานเดียวค่ะ ราชินีราดหน้าอย่างฉันเทใจให้หมดทั้งดวง อร่อยสมกับคิวยาว และนอกจากราดหน้าแล้วเมนูอื่นยังมีหมูสะเต๊ะ & หอยจ๊อเด็ดอีกด้วยค่ะ ผัดซีอิ้วก็เยี่ยมยอดเช่นกัน กินเสร็จรีบไลน์ภาพความอร่อยส่งให้ที่บ้าน คุณพ่อถามกลับมาทันควันว่าร้านอยู่ที่ไหน? ภูเก็ตรอบหน้าไม่พลาดแน่นอน !!! (69 ถนนพังงา ตลาดใหญ่ ตรงข้ามกับธนาคารกรุงเทพ, 10.00-20.30 น. หยุดทุกวันพุธ, เฉลี่ยคนละ 50-100 บาท, https://www.facebook.com/khunjeedyodpak1/)
หมี่สมจิตต์
ไม่น่าจะมีภูเก็ตทริปไหนที่ฉันจะพลาดหมี่สมจิตต์สูตรร้อยปีร้านนี้ไปได้ กินมาตั้งแต่เด็กจนแก่ก็ยังติดใจน้ำซุปกลมกล่อม หอมกลิ่นกุ้งติดจมูกและหอมเจียวอยู่เสมอ แน่นอนว่าเส้นโปรดต้องเป็นหมี่ฮกเกี้ยนสีเหลืองที่ชามเดียวไม่เคยพอค่ะ เสียดายที่ทอดมันภูเก็ตหมดเลยต้องชดเชยด้วยแผ่นเกี้ยวทอดกรอบอร่อยถูกใจที่สุด (อยู่ตรงวงเวียนสุรินทร์ หอนาฬิกา ร้านอยู่ติดกับหมี่ ต้นโพธิ์, 10.00-18.00 น. ทุกวัน, เฉลี่ยคนละ 50-80 บาท, จอดรถริมถนน)
ตู้กับข้าว
แค่เห็นตึกก็อลังการตระการตา เดินเข้าไปด้านในก็ต้องตกใจกับการตกแต่งด้วยอารมณ์โคโลเนียลสีขาวสะอาดสะอ้าน ตัดกับกระเบื้องบนพื้นที่มีกลิ่นอายชิโน-โปรตุกีสก่อนจะหยุดสายตาด้วยรูปภาพหญิงสาวชาวจีนฮกเกี้ยนบนกำแพง ซึ่งคาดเดาว่าเป็นต้นตระกูลของร้านตู้กับข้าวแน่นอนค่ะ
เมนูนั้นมีหลากหลายเป็นอาหารปักษ์ใต้ดูน่ากิน เราสั่งจานโปรดมา 3 จาน หมูฮ้อง แคปหมูพริกขิง และใบเหมียงผัดไข่ รสมือแม่ครัวโดยรวมพอใช้ได้ค่ะ ไม่ได้เข้มข้นนักแต่ก็รสชาติกลมกล่อมกินได้เรื่อยๆ เหมาะสำหรับแขกต่างบ้านเมือง ที่มากินพร้อมประสบการณ์งามๆ ที่สำคัญอย่าลืมอุดหนุขนมหวานหน้าร้าน ขนมถ้วยของคุณป้าอร่อยมากค่ะ เช่นเดียว กับน้ำพริกกุ้งเสียบก็รสจัดเหมาะเป็นของฝากจากภูเก็ตค่ะ (8 ถนนพังงาน ตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต, 11.30-23.59 น. ทุกวัน, เฉลี่ยคนละ 300-500 บาท, จอดรถริมถนนข้างทาง https://www.facebook.com/tukabkhao/)
ปอเปี๊ยะสดฮกเกี้ยน และ หมี่หุ้นป้าฉ่าง
ฉันชอบกินปอเปี๊ยะสดสไตล์จีนฮกเกี้ยนมากๆค่ะ คุณย่าทำให้กินตอนเด็กๆเป็นประจำ สูตรของคุณย่าจะดัดแปลงต่าง จากต้นตำรับไปบ้าง แต่ส่วนผสมหลักๆก็คือมันแกวเคี่ยวจนเปื่อยและหวานอร่อยเหมือนกัน มาภูเก็ตคราวนี้ ตั้งใจมากินต้นตำรับที่ตลาดหล่อโรงและก็ไม่ผิดหวังค่ะ คุณลุงทำปอเปี๊ยะสดมือเป็นพัลวัน รสชาติของไส้หวานถูกใจ แต่ก็เผ็ดและจัดด้วยน้ำซอสที่ลาดมา กินแล้วสดชื่น อิ่มแต่ไม่หนักท้องจนเกินไป ใกล้ๆกันยังมีหมี่หุ้นป้าฉ่างผัดน้ำมันหมูเสิร์ฟพร้อมซุปกระดูกหมูอารมณ์บักกุเต๋อีกด้วยค่ะ อร่อยแท็คทีมกันเลย “ปอเปี๊ยะสด & หมี่หุ้นป้าฉ่าง” แห่งตลาดหล่อโรง (ถนนระนอง ซอยหล่อโรง, จันทร์ 10.30-17.00 น. พุธ-อาทิตย์ 10.30-17.00 น. ปิดวันอังคาร, เฉลี่ยคนละ 50-70 บาท, มีลานจอดรถด้านหลัง)
ระย้า
ก่อนบินกลับ ถามสามีว่าอยากไปดินเนอร์ที่ไหน? สามีหันมาบอกว่าขอไประย้าให้หายคิดถึง … แกงเนื้อปูใบชะพลูกับเส้นหมี่ หมูฮ้องและผัดผักเหมียงกุ้งเสียบ (เมนูโปรดของฉัน) ยังอร่อยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ฝีมือแม่ครัวปักษ์ใต้ของระย้ายังจัดจ้านและเป็นหนึ่งในภูเก็ตมากว่าทศวรรษค่ะ (ถนนดีบุกตัด ใหม่ อำเภอเมือง, 10.00-22.00 น. ทุกวัน, เฉลี่ยคนละ 800-1,200 บาท, มีที่จอดรถด้านหลังร้าน)
หลาดใหญ่
ทุกเย็นวันอาทิตย์ถนนถลางจะถูกปิดและเปลี่ยนเป็นถนนคนเดินพร้อมกับแผงลอยขายสินค้าและอาหารยาวตั้งแต่ต้น ซอยจรดท้ายซอย กลายเป็นหลาดใหญ่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและคนพื้นเมืองให้หลั่งไหลเข้ามาใจกลางเมืองเก่า ความน่ารักของหลาดใหญ่ ส่วนหนึ่งอยู่ที่บรรยากาศค่ะ หลาดใหญ่เปิดบนถนนถลางที่สองข้างทางเป็นตึกชิโน-โปรตุกีสสีสันสวยงาม แสงไฟจากแผงลอยกระทบกับตึกโบราณทำให้การเดินสนุกและครึกครื้นขึ้นโข
สองร้านที่แนะนำในหลาดใหญ่ คือ ซาลาเปาอบภูเก็ตของพ่อหนุ่มน้อยหน้ามนคนนี้ ไส้หมูแดงอร่อยเป็นรสต้นตำรับ แต่ฉันชอบไส้เผือกค่ะ แต่นอกจากสองไส้ก็ยังมีรสอื่นๆให้เลือกอีกหลายชนิด ซื้อแล้วจะกินเลยหรือเก็บไว้กินเป็นมื้อเช้าแบบเร่งด่วนก็ได้ ส่วนอีกร้านก็คือข้าวเกรียบปลาทะเลขนมขบเคี้ยวของชาวมุสลิม ที่มีชื่อว่ากะโป๊ะ ซึ่งกะโป๊ะดังที่สุดก็เป็นของ กะโป๊ะ บังโกะ ที่ซื้อกลับบ้านสองถุงใหญ่เลยค่ะ รสออริจินัลหอมกลิ่นปลากับรสสาหร่ายหวานๆเค็มๆ อร่อยมากค่ะ … (ถนนถลาง เมืองภูเก็ต, เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ 16.00-22.00 น., จอดรถริมถนน)
หนัง (สือ) 2521
ด้วยความที่เป็นคนอ่านหนังสือเหมือนกัน คาเฟ่ที่ถูกจริตในใจกลางเมืองเก่าจึงเป็นร้านนี้ “หนัง (สือ) 2521” ค่ะ ภายในอาคารเก่าพื้นที่ด้านหน้ามีโต๊ะเก้าอี้วางเรียงกัน 4-5 โต๊ะ ให้ลูกค้านั่งในห้องแอร์เย็นสบาย โต๊ะกระจกเหล่านี้มีตัวอักษรที่ใช้พิมพ์หนังสือกระจัดกระจายอยู่ข้างใน ผนังด้านขวามือก็คือชั้นวางหนังสือยาวจรดปลายห้อง หนังสือที่คัดมาคงจะเป็นเล่มที่ถูกใจเจ้าของร้าน มีทั้งหนังสือศิลปะ เรื่องสั้นและท่องเที่ยวจากสำนักพิมพ์ต่างๆ (น่าเสียใจที่ไม่มีตระกูลเซียนของฉัน 55) กาแฟดำแก้วนี้หอมและเข้มข้นดีค่ะ ตื่นทันทีหลังจากหนังตาคล้อยจากมื้อกลางวัน (61 ถนนถลาง ตลาดใหญ่ อำเภอเมือง, 9.00-19.00 น. ทุกวัน, เฉลี่ยคนละ 50-80 บาท, จอดรถริมถนน, www.facebook.com/bookhemian)
Torry’s Ice Cream
น้อยคนนักที่เดินผ่านร้านไอศกรีมชื่อดังของซอยรมณีย์และจะไม่แวะละเลียดไอศกรีมเย็นๆสักโคนของ Torry’s Ice Cream ร้านไอศกรีมโก๋ใหญ่ประจำซอยซึ่งเป็นที่รู้จักของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
Taste of Phuket เป็นเมนูฮิตที่นำเอาขนมหวานของภูเก็ตมาผสมผสานกับไอศกรีมกะทิดของไทย ซึ่งชามที่ยกนิ้วให้ก็คือ Bi-Co-Moi บีโกหมอย ข้าวเหนียวดำราดน้ำกะทิเสิร์ฟกับไอศกรีมอัญชัญกะทิค่ะ (อื่นๆก็จะมีโอ๊ะเอ๋วและอาโป) ส่วนสามี ลองสั่งไอศกรีมรวมมิตรและลอดช่องในกลุ่ม Thai Selection ซึ่งก็หวานเย็นใจอร่อยยกสิบนิ้วอีกเช่นกัน
Torry’s Ice Cream ยังตกแต่งร้านได้สวยงามอีกด้วยค่ะ อารมณ์บิสโทรปนกับจีนมาเลย์ภายในห้องแอร์เย็นฉ่ำ ช่างเป็นประสบการณ์ความอร่อยที่เหยียบเท้าเข้าไปและไม่อยากจะกลับออกมาเลยจริงๆ (ซอยรมณีย์, อังคาร-พฤหัส 11.00-18.00 น. ศุกร์-อาทิตย์ 11.00-21.30 น. ปิดวันจันทร์, เฉลี่ยคนละ 100 บาท, www.torrysicecream.com)
Tantitium
หลังจากขับรถตระเวนราตรีในใจกลางเมืองเก่า เราก็ตัดสินใจจิบค๊อกเทลสักแก้วที่บาร์แห่งนี้ค่ะ Tantitium หรือตันติเตี๊ยมที่เพิ่งเปิดให้บริการได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น คอนเซ็ปต์ของร้านเป็นแบบ 3 in 1 ประกอบไปด้วยร้านอาหาร บาร์และสปาชั้นบนซึ่งทุกโซนออกแบบได้ตื่นตาตื่นใจและมีสไตล์ที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่นบาร์ ที่ลานด้านหน้าประดับ ด้วยไฟสีแดง มีชิงช้าแดงให้แกว่งเพิ่มความมึน ส่วนด้านในก็เป็นเหมือนวังน้ำแข็ง Frozen ของเจ้าหญิงเอลซ่า ต่างกันสปา ชั้นบนที่ดูสงบนิ่งเป็นสีขาวนวล ราคาค่านวดก็เพียงแค่ 300 บาทต่อชั่วโมงสำหรับนวดเท้า …
ร้านนี้ฉันกลับไปใหม่แน่นอนค่ะ เพราะยังอยากลิ้มลองอาหารปักษ์ใต้เช่นเดียวกับสปาที่น่านวดเหลือเกิน (84 ถนนดีบุก ตลาดใหญ่ อำเภอเมือง, 11.30-24.00 น. ทุกวัน, เฉลี่ยคนละ 300-800 บาท, จอดรถริมถนน, https://www.facebook.com/Tantitium/)
Kata Rocks
ความฮิปและคลีนที่ตัดกับทะเลสีฟ้าเทอร์ควอย์ทำให้ Kata Rocks กลายเป็นจุดหมายของคนที่แสวงหาสไตล์ในภูเก็ต ฉันไม่ได้พักที่นี่แต่ Kata Rocks ก็เป็นลิสต์ที่จดไว้แล้วว่าจะต้องมาให้ได้ และบ่ายวันนั้นเราก็ขับรถฝ่ารถติดไล่จากป่าตองมาที่หาดกะตะ เพื่อมาจิบค๊อกเทลเย็นๆและชมวิวสวยพร้อมกับดีไซน์คลีนๆของบูติกหรูหราแห่งนี้ (หาดกะตะ ซอยทางเข้าเล็กมากและชัน มี valet parking บริการของโรงแรม, เฉลี่ยคนละ 400-600 บาท, https://www.katarocks.com)
17 Mar 2018
0 Comments
รวมมิตร 10 ร้านอาหาร คาเฟ่ & บาร์ ของภูเก็ต
อย่างที่เกริ่นไปใน Phuket Diary ฉันมีเลือดภูเก็ตอยู่ครึ่งนึงแต่กลับไม่รู้จักภูเก็ตเท่าไหร่นัก ทริป 5 วันนี้ฉันจึงท่องภูเก็ตอย่างนักท่องเที่ยวและลิ้มลองอาหารตามร้านใหม่ๆ แต่ก็ยังไม่พลาดร้านเก่าที่ถูกใจจนกลายมาเป็นรวมมิตร 10 ร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ของภูเก็ตบล็อกนี้ค่ะ
คุณจี๊ดราดหน้ายอดผัก
คุณต้องการอะไรจากก๋วยเตี๋ยวราดหน้าสักชาม? เส้นเหนียวหนึบ หมูชิ้นใหญ่หมักจนนุ่ม น้ำลาดกลมกล่อม? คุณจี๊ดราดหน้ายอดผักมีคำตอบครบและจบในจานเดียวค่ะ ราชินีราดหน้าอย่างฉันเทใจให้หมดทั้งดวง อร่อยสมกับคิวยาว และนอกจากราดหน้าแล้วเมนูอื่นยังมีหมูสะเต๊ะ & หอยจ๊อเด็ดอีกด้วยค่ะ ผัดซีอิ้วก็เยี่ยมยอดเช่นกัน กินเสร็จรีบไลน์ภาพความอร่อยส่งให้ที่บ้าน คุณพ่อถามกลับมาทันควันว่าร้านอยู่ที่ไหน? ภูเก็ตรอบหน้าไม่พลาดแน่นอน !!! (69 ถนนพังงา ตลาดใหญ่ ตรงข้ามกับธนาคารกรุงเทพ, 10.00-20.30 น. หยุดทุกวันพุธ, เฉลี่ยคนละ 50-100 บาท, https://www.facebook.com/khunjeedyodpak1/)
หมี่สมจิตต์
ไม่น่าจะมีภูเก็ตทริปไหนที่ฉันจะพลาดหมี่สมจิตต์สูตรร้อยปีร้านนี้ไปได้ กินมาตั้งแต่เด็กจนแก่ก็ยังติดใจน้ำซุปกลมกล่อม หอมกลิ่นกุ้งติดจมูกและหอมเจียวอยู่เสมอ แน่นอนว่าเส้นโปรดต้องเป็นหมี่ฮกเกี้ยนสีเหลืองที่ชามเดียวไม่เคยพอค่ะ เสียดายที่ทอดมันภูเก็ตหมดเลยต้องชดเชยด้วยแผ่นเกี้ยวทอดกรอบอร่อยถูกใจที่สุด (อยู่ตรงวงเวียนสุรินทร์ หอนาฬิกา ร้านอยู่ติดกับหมี่ ต้นโพธิ์, 10.00-18.00 น. ทุกวัน, เฉลี่ยคนละ 50-80 บาท, จอดรถริมถนน)
ตู้กับข้าว
แค่เห็นตึกก็อลังการตระการตา เดินเข้าไปด้านในก็ต้องตกใจกับการตกแต่งด้วยอารมณ์โคโลเนียลสีขาวสะอาดสะอ้าน ตัดกับกระเบื้องบนพื้นที่มีกลิ่นอายชิโน-โปรตุกีสก่อนจะหยุดสายตาด้วยรูปภาพหญิงสาวชาวจีนฮกเกี้ยนบนกำแพง ซึ่งคาดเดาว่าเป็นต้นตระกูลของร้านตู้กับข้าวแน่นอนค่ะ
เมนูนั้นมีหลากหลายเป็นอาหารปักษ์ใต้ดูน่ากิน เราสั่งจานโปรดมา 3 จาน หมูฮ้อง แคปหมูพริกขิง และใบเหมียงผัดไข่ รสมือแม่ครัวโดยรวมพอใช้ได้ค่ะ ไม่ได้เข้มข้นนักแต่ก็รสชาติกลมกล่อมกินได้เรื่อยๆ เหมาะสำหรับแขกต่างบ้านเมือง ที่มากินพร้อมประสบการณ์งามๆ ที่สำคัญอย่าลืมอุดหนุขนมหวานหน้าร้าน ขนมถ้วยของคุณป้าอร่อยมากค่ะ เช่นเดียว กับน้ำพริกกุ้งเสียบก็รสจัดเหมาะเป็นของฝากจากภูเก็ตค่ะ (8 ถนนพังงาน ตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต, 11.30-23.59 น. ทุกวัน, เฉลี่ยคนละ 300-500 บาท, จอดรถริมถนนข้างทาง https://www.facebook.com/tukabkhao/)
ปอเปี๊ยะสดฮกเกี้ยน และ หมี่หุ้นป้าฉ่าง
ฉันชอบกินปอเปี๊ยะสดสไตล์จีนฮกเกี้ยนมากๆค่ะ คุณย่าทำให้กินตอนเด็กๆเป็นประจำ สูตรของคุณย่าจะดัดแปลงต่าง จากต้นตำรับไปบ้าง แต่ส่วนผสมหลักๆก็คือมันแกวเคี่ยวจนเปื่อยและหวานอร่อยเหมือนกัน มาภูเก็ตคราวนี้ ตั้งใจมากินต้นตำรับที่ตลาดหล่อโรงและก็ไม่ผิดหวังค่ะ คุณลุงทำปอเปี๊ยะสดมือเป็นพัลวัน รสชาติของไส้หวานถูกใจ แต่ก็เผ็ดและจัดด้วยน้ำซอสที่ลาดมา กินแล้วสดชื่น อิ่มแต่ไม่หนักท้องจนเกินไป ใกล้ๆกันยังมีหมี่หุ้นป้าฉ่างผัดน้ำมันหมูเสิร์ฟพร้อมซุปกระดูกหมูอารมณ์บักกุเต๋อีกด้วยค่ะ อร่อยแท็คทีมกันเลย “ปอเปี๊ยะสด & หมี่หุ้นป้าฉ่าง” แห่งตลาดหล่อโรง (ถนนระนอง ซอยหล่อโรง, จันทร์ 10.30-17.00 น. พุธ-อาทิตย์ 10.30-17.00 น. ปิดวันอังคาร, เฉลี่ยคนละ 50-70 บาท, มีลานจอดรถด้านหลัง)
ระย้า
ก่อนบินกลับ ถามสามีว่าอยากไปดินเนอร์ที่ไหน? สามีหันมาบอกว่าขอไประย้าให้หายคิดถึง … แกงเนื้อปูใบชะพลูกับเส้นหมี่ หมูฮ้องและผัดผักเหมียงกุ้งเสียบ (เมนูโปรดของฉัน) ยังอร่อยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ฝีมือแม่ครัวปักษ์ใต้ของระย้ายังจัดจ้านและเป็นหนึ่งในภูเก็ตมากว่าทศวรรษค่ะ (ถนนดีบุกตัด ใหม่ อำเภอเมือง, 10.00-22.00 น. ทุกวัน, เฉลี่ยคนละ 800-1,200 บาท, มีที่จอดรถด้านหลังร้าน)
หลาดใหญ่
ทุกเย็นวันอาทิตย์ถนนถลางจะถูกปิดและเปลี่ยนเป็นถนนคนเดินพร้อมกับแผงลอยขายสินค้าและอาหารยาวตั้งแต่ต้น ซอยจรดท้ายซอย กลายเป็นหลาดใหญ่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและคนพื้นเมืองให้หลั่งไหลเข้ามาใจกลางเมืองเก่า ความน่ารักของหลาดใหญ่ ส่วนหนึ่งอยู่ที่บรรยากาศค่ะ หลาดใหญ่เปิดบนถนนถลางที่สองข้างทางเป็นตึกชิโน-โปรตุกีสสีสันสวยงาม แสงไฟจากแผงลอยกระทบกับตึกโบราณทำให้การเดินสนุกและครึกครื้นขึ้นโข
สองร้านที่แนะนำในหลาดใหญ่ คือ ซาลาเปาอบภูเก็ตของพ่อหนุ่มน้อยหน้ามนคนนี้ ไส้หมูแดงอร่อยเป็นรสต้นตำรับ แต่ฉันชอบไส้เผือกค่ะ แต่นอกจากสองไส้ก็ยังมีรสอื่นๆให้เลือกอีกหลายชนิด ซื้อแล้วจะกินเลยหรือเก็บไว้กินเป็นมื้อเช้าแบบเร่งด่วนก็ได้ ส่วนอีกร้านก็คือข้าวเกรียบปลาทะเลขนมขบเคี้ยวของชาวมุสลิม ที่มีชื่อว่ากะโป๊ะ ซึ่งกะโป๊ะดังที่สุดก็เป็นของ กะโป๊ะ บังโกะ ที่ซื้อกลับบ้านสองถุงใหญ่เลยค่ะ รสออริจินัลหอมกลิ่นปลากับรสสาหร่ายหวานๆเค็มๆ อร่อยมากค่ะ … (ถนนถลาง เมืองภูเก็ต, เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ 16.00-22.00 น., จอดรถริมถนน)
หนัง (สือ) 2521
ด้วยความที่เป็นคนอ่านหนังสือเหมือนกัน คาเฟ่ที่ถูกจริตในใจกลางเมืองเก่าจึงเป็นร้านนี้ “หนัง (สือ) 2521” ค่ะ ภายในอาคารเก่าพื้นที่ด้านหน้ามีโต๊ะเก้าอี้วางเรียงกัน 4-5 โต๊ะ ให้ลูกค้านั่งในห้องแอร์เย็นสบาย โต๊ะกระจกเหล่านี้มีตัวอักษรที่ใช้พิมพ์หนังสือกระจัดกระจายอยู่ข้างใน ผนังด้านขวามือก็คือชั้นวางหนังสือยาวจรดปลายห้อง หนังสือที่คัดมาคงจะเป็นเล่มที่ถูกใจเจ้าของร้าน มีทั้งหนังสือศิลปะ เรื่องสั้นและท่องเที่ยวจากสำนักพิมพ์ต่างๆ (น่าเสียใจที่ไม่มีตระกูลเซียนของฉัน 55) กาแฟดำแก้วนี้หอมและเข้มข้นดีค่ะ ตื่นทันทีหลังจากหนังตาคล้อยจากมื้อกลางวัน (61 ถนนถลาง ตลาดใหญ่ อำเภอเมือง, 9.00-19.00 น. ทุกวัน, เฉลี่ยคนละ 50-80 บาท, จอดรถริมถนน, www.facebook.com/bookhemian)
Torry’s Ice Cream
น้อยคนนักที่เดินผ่านร้านไอศกรีมชื่อดังของซอยรมณีย์และจะไม่แวะละเลียดไอศกรีมเย็นๆสักโคนของ Torry’s Ice Cream ร้านไอศกรีมโก๋ใหญ่ประจำซอยซึ่งเป็นที่รู้จักของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
Taste of Phuket เป็นเมนูฮิตที่นำเอาขนมหวานของภูเก็ตมาผสมผสานกับไอศกรีมกะทิดของไทย ซึ่งชามที่ยกนิ้วให้ก็คือ Bi-Co-Moi บีโกหมอย ข้าวเหนียวดำราดน้ำกะทิเสิร์ฟกับไอศกรีมอัญชัญกะทิค่ะ (อื่นๆก็จะมีโอ๊ะเอ๋วและอาโป) ส่วนสามี ลองสั่งไอศกรีมรวมมิตรและลอดช่องในกลุ่ม Thai Selection ซึ่งก็หวานเย็นใจอร่อยยกสิบนิ้วอีกเช่นกัน
Torry’s Ice Cream ยังตกแต่งร้านได้สวยงามอีกด้วยค่ะ อารมณ์บิสโทรปนกับจีนมาเลย์ภายในห้องแอร์เย็นฉ่ำ ช่างเป็นประสบการณ์ความอร่อยที่เหยียบเท้าเข้าไปและไม่อยากจะกลับออกมาเลยจริงๆ (ซอยรมณีย์, อังคาร-พฤหัส 11.00-18.00 น. ศุกร์-อาทิตย์ 11.00-21.30 น. ปิดวันจันทร์, เฉลี่ยคนละ 100 บาท, www.torrysicecream.com)
Tantitium
หลังจากขับรถตระเวนราตรีในใจกลางเมืองเก่า เราก็ตัดสินใจจิบค๊อกเทลสักแก้วที่บาร์แห่งนี้ค่ะ Tantitium หรือตันติเตี๊ยมที่เพิ่งเปิดให้บริการได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น คอนเซ็ปต์ของร้านเป็นแบบ 3 in 1 ประกอบไปด้วยร้านอาหาร บาร์และสปาชั้นบนซึ่งทุกโซนออกแบบได้ตื่นตาตื่นใจและมีสไตล์ที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่นบาร์ ที่ลานด้านหน้าประดับ ด้วยไฟสีแดง มีชิงช้าแดงให้แกว่งเพิ่มความมึน ส่วนด้านในก็เป็นเหมือนวังน้ำแข็ง Frozen ของเจ้าหญิงเอลซ่า ต่างกันสปา ชั้นบนที่ดูสงบนิ่งเป็นสีขาวนวล ราคาค่านวดก็เพียงแค่ 300 บาทต่อชั่วโมงสำหรับนวดเท้า …
ร้านนี้ฉันกลับไปใหม่แน่นอนค่ะ เพราะยังอยากลิ้มลองอาหารปักษ์ใต้เช่นเดียวกับสปาที่น่านวดเหลือเกิน (84 ถนนดีบุก ตลาดใหญ่ อำเภอเมือง, 11.30-24.00 น. ทุกวัน, เฉลี่ยคนละ 300-800 บาท, จอดรถริมถนน, https://www.facebook.com/Tantitium/)
Kata Rocks
ความฮิปและคลีนที่ตัดกับทะเลสีฟ้าเทอร์ควอย์ทำให้ Kata Rocks กลายเป็นจุดหมายของคนที่แสวงหาสไตล์ในภูเก็ต ฉันไม่ได้พักที่นี่แต่ Kata Rocks ก็เป็นลิสต์ที่จดไว้แล้วว่าจะต้องมาให้ได้ และบ่ายวันนั้นเราก็ขับรถฝ่ารถติดไล่จากป่าตองมาที่หาดกะตะ เพื่อมาจิบค๊อกเทลเย็นๆและชมวิวสวยพร้อมกับดีไซน์คลีนๆของบูติกหรูหราแห่งนี้ (หาดกะตะ ซอยทางเข้าเล็กมากและชัน มี valet parking บริการของโรงแรม, เฉลี่ยคนละ 400-600 บาท, https://www.katarocks.com)
Related Posts: