โลกโซเชียลนี้ส่งเสียงดังยิ่งกว่าลำโพงแปดหลอด ประกาศลงหน้าเฟสทีเดียวก็ดังสนั่นไปทั้งเจ็ดสิบจังหวัด เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า และมันก็เกิดขึ้นอีกครั้งกับจุดชมวิวเสม็ดนางชีที่กลายเป็นที่รู้จักในชั่วข้ามคืน
Unseen ของอ่าวพังงาแห่งนี้ เปิดให้เข้าชมมาแล้วสักพักหนึ่ง ฉันเชื่อว่าในช่วงแรก จุดชุมวิวที่มีความหมายมาจากแม่ชีเดินผ่านจุดเหม็ดผ้า (ยกผ้าขึ้น) คงเงียบสงบไร้ธุรกิจแสวงหากำไร แต่ทันทีที่บล็อกเกอร์ชื่อดังต่างลงภาพภูเขาหินปูนกลางทะเลยามพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ไปจนถึงทางช้างเผือกยามค่ำคืน ความงานที่ Unseen และเพิ่งเผยให้เห็นสู่สาธารณะชนจึงกลายเป็นกระแสดัง เปลี่ยนจุดที่แม่ชีเดินผ่านให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของพังงา
และนั่นจึงทำให้ฉันและสามีขับรถจากภูเก็ตขึ้นไปยังพังงา ผ่านสะพานสารสิน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจากตัวเมืองภูเก็ตไปยังจุดชมวิวเสม็ดนางชี
ฉันวางแผนไปชม sunset ของภูเขาหินปูน จึงเช็คเวลาตกฟากของพระอาทิตย์ก่อนออกเดินทาง จัดแจงเตรียมตัวให้พร้อมแถมเสบียงอีกนิดหน่อย และก็ควบรถไปยังจุดหมาย
เราขับตาม Google Map ไปโดยไม่คิดอะไร และก็ถึงจุดหมายตามเวลาที่กำหนด เพียงแต่เส้นทางที่ Google Map พามานั้นเป็นทางสายเล็ก ผิวถนนขรุขระเป็นระยะ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนขากลับที่ขับตามรถคันอื่นถึงรู้ว่า ถนนมายังจุดชมวิวเสม็ดนางชีมีได้สองเส้นทาง เลยเตือนไว้ก่อนสำหรับคนที่จะมาให้เลือกถนนเส้นใหญ่จะได้ขับสบายๆ ค่ะ
เย็นวันนั้นรถที่ลานจอดไม่เยอะเลย หลังจากจอดรถเราเดินเท้าขึ้นไปยังยอดดอย เพราะอ่านมาว่าไม่อนุญาติให้นำรถขึ้นไปด้านบน แต่ในระหว่างที่เดินกลับมีรถกระบะขนคนขึ้นลงเป็นระยะ จึงคิดในใจว่านี่แหล่ะประเทศไทยอะลุ้มอะหล่วยกันจนไร้กฏเกณฑ์
นอกจากนั้นระหว่างทางเดินขึ้น ยังไม่มีป้ายชี้ทางใดๆ เราเลยเดินตามทางที่รถกระบะขับนำไปและสักพักก็ถึงจุดชมวิวเสม็ดนางชีที่สวยสมกับที่รอคอยค่ะ
เส้นทางเดินขึ้นจุดชมวิว
วิวเสม็ดนางชีเริ่มเผยให้เห็นเมื่อเราเดินสูงขึ้นเรื่อยๆ
ยอดภูเขาลูกนี้ตั้งอยู่ในมุมที่ทำให้เราเห็นภาพอ่าวพังงาในมุม 180 องศา ภาพพาโนรามาของภูเขาหินปูนเบื้องหน้าทำให้รู้สึกทึ่งในความอเมซิ่งของธรรมชาติ เปลือกโลกที่เคลื่อนย้ายก่อให้เกิดเป็นธรรมชาติที่งดงามอย่างแท้จริง
เราใช้เวลาเดินเล่น ถ่ายรูป และชมความงามกันสักพัก ไม่ต้องรีบเร่งเพราะนักท่องเที่ยวไม่เยอะเลยในช่วง prime time พระอาทิตย์ตกดิน …
ขากลับ เราเดินลงตามเส้นทางที่ขึ้นมา แต่ลองเดินตรงเข้าไปอีกทางซึ่งพบว่าทางนี้ จะนำไปสู่ลานกว้างที่เป็นอีกจุดชมวิวของเสม็ดนางชีที่น่าจะเป็น official ก่อนลานที่เพิ่งไปเห็นมา
จุดชมวิวลานที่สองนี้ดึงเราเข้าไปใกล้ภูเขาหินปูนขึ้นอีกนิด และที่สำคัญไร้มนุษย์โดยสิ้นเชิง ฉันแทบจะครองลาน วิ่งถ่ายรูปและยืนชมเหมือนเป็นบ้านของตัวเอง แสงพระอาทิตย์สีแดงยามจะลับฟ้า สาดลงบนภูเขาและน้ำทะเลเบื้องหน้า สวยงามเหลือเกินค่ะ
ใครอยากจะมาที่ลานนี้ ต้องเดินขึ้นเท่านั้น ห้ามใช้บริการรถกระบะ เพราะไม่จอด เมื่อเดินขึ้นมาถึงสามแยกให้เลี้ยวซ้ายก่อนจะเลี้ยวขวาซึ่งเป็นทางที่รถกระบะวิ่ง หลังจากเลี้ยวซ้ายและเดินมาแค่ไม่กี่สิบเมตรก็จะถึงลานชมวิวลี้ลับแห่งนี้ (น่าเสียดายที่ไม่มีป้ายติดไว้บอกทาง หรือจะตั้งใจไม่ให้มาที่ลานนี้ก็อาจจะเป็นได้ แต่นำทางให้ไปอีกลาน ที่มีบ้านพัก และร้านขายน้ำ-ขนม)
เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืด เราก็เดินลงมาถึงด้านล่างพอดี และก็เจอกับป้อมยามและป้ายคิดราคาค่าขึ้น พร้อมบริการรถรับส่ง !!! อ้าว นี่ฉันเดินขึ้นฟรีเหรอเนี่ย 555 เมื่อรู้ตัวก็รีบถามคุณป้าที่ยืนอยู่ข้างป้อม จะขอจ่ายเงิน แต่คุณป้าบอกว่าไม่เป็นไร ป้อมปิดแล้ว ไม่ต้องจ่ายหรอก >< … เลยต้องบอกคนที่อ่านบล๊อกนี้ว่า ถ้าจอดรถที่ลานจอดซึ่งอยู่เหนือป้อม ให้เดินลงมาจ่ายเงินที่ด้านล่างก่อน คนละ 30 บาทเท่านั้นเพื่อบำรุงพื้นที่ และถ้าจะนั่งรถก็จ่ายเพิ่มคนละ 90 บาท รวมขาไปและกลับ ดังนั้นรถกระบะที่ขึ้นลงก็ถูกต้องตามกฏระเบียบค่ะ มีแต่ฉันแหล่ะที่ไปเคืองเค้าโดยที่ไม่รู้อะไรเลย หึ หึ (ขออภัยมา ณ ที่นี้)
ที่ตั้ง บ้านเสม็ดนางชี หมู่ 2 หินร่ม ตำบลคลองเคียน อำเภอตะทั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ค่าธรรมเนียม คนไทย 30บาท ต่างชาติ 50 บาท และบริการค่ารถขาขึ้น-ขาลง 90 บาท ด้านบนของจุดชมวิวมีบ้านพักให้เช่า มีลานให้กางเต้นท์ และโรงแรมเสม็ดนางชี บูทีค
ขอบคุณ ข้อมูลบางส่วนจาก คุณ popumon สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และเฟซบุ๊ก Theerasak Saksritawee
30 Dec 2018
0 Comments
จุดชมวิว “เสม็ดนางชี” – พังงา
โลกโซเชียลนี้ส่งเสียงดังยิ่งกว่าลำโพงแปดหลอด ประกาศลงหน้าเฟสทีเดียวก็ดังสนั่นไปทั้งเจ็ดสิบจังหวัด เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า และมันก็เกิดขึ้นอีกครั้งกับจุดชมวิวเสม็ดนางชีที่กลายเป็นที่รู้จักในชั่วข้ามคืน
Unseen ของอ่าวพังงาแห่งนี้ เปิดให้เข้าชมมาแล้วสักพักหนึ่ง ฉันเชื่อว่าในช่วงแรก จุดชุมวิวที่มีความหมายมาจากแม่ชีเดินผ่านจุดเหม็ดผ้า (ยกผ้าขึ้น) คงเงียบสงบไร้ธุรกิจแสวงหากำไร แต่ทันทีที่บล็อกเกอร์ชื่อดังต่างลงภาพภูเขาหินปูนกลางทะเลยามพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ไปจนถึงทางช้างเผือกยามค่ำคืน ความงานที่ Unseen และเพิ่งเผยให้เห็นสู่สาธารณะชนจึงกลายเป็นกระแสดัง เปลี่ยนจุดที่แม่ชีเดินผ่านให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของพังงา
และนั่นจึงทำให้ฉันและสามีขับรถจากภูเก็ตขึ้นไปยังพังงา ผ่านสะพานสารสิน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจากตัวเมืองภูเก็ตไปยังจุดชมวิวเสม็ดนางชี
ฉันวางแผนไปชม sunset ของภูเขาหินปูน จึงเช็คเวลาตกฟากของพระอาทิตย์ก่อนออกเดินทาง จัดแจงเตรียมตัวให้พร้อมแถมเสบียงอีกนิดหน่อย และก็ควบรถไปยังจุดหมาย
เราขับตาม Google Map ไปโดยไม่คิดอะไร และก็ถึงจุดหมายตามเวลาที่กำหนด เพียงแต่เส้นทางที่ Google Map พามานั้นเป็นทางสายเล็ก ผิวถนนขรุขระเป็นระยะ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนขากลับที่ขับตามรถคันอื่นถึงรู้ว่า ถนนมายังจุดชมวิวเสม็ดนางชีมีได้สองเส้นทาง เลยเตือนไว้ก่อนสำหรับคนที่จะมาให้เลือกถนนเส้นใหญ่จะได้ขับสบายๆ ค่ะ
เย็นวันนั้นรถที่ลานจอดไม่เยอะเลย หลังจากจอดรถเราเดินเท้าขึ้นไปยังยอดดอย เพราะอ่านมาว่าไม่อนุญาติให้นำรถขึ้นไปด้านบน แต่ในระหว่างที่เดินกลับมีรถกระบะขนคนขึ้นลงเป็นระยะ จึงคิดในใจว่านี่แหล่ะประเทศไทยอะลุ้มอะหล่วยกันจนไร้กฏเกณฑ์
นอกจากนั้นระหว่างทางเดินขึ้น ยังไม่มีป้ายชี้ทางใดๆ เราเลยเดินตามทางที่รถกระบะขับนำไปและสักพักก็ถึงจุดชมวิวเสม็ดนางชีที่สวยสมกับที่รอคอยค่ะ
เส้นทางเดินขึ้นจุดชมวิว
วิวเสม็ดนางชีเริ่มเผยให้เห็นเมื่อเราเดินสูงขึ้นเรื่อยๆ
ยอดภูเขาลูกนี้ตั้งอยู่ในมุมที่ทำให้เราเห็นภาพอ่าวพังงาในมุม 180 องศา ภาพพาโนรามาของภูเขาหินปูนเบื้องหน้าทำให้รู้สึกทึ่งในความอเมซิ่งของธรรมชาติ เปลือกโลกที่เคลื่อนย้ายก่อให้เกิดเป็นธรรมชาติที่งดงามอย่างแท้จริง
เราใช้เวลาเดินเล่น ถ่ายรูป และชมความงามกันสักพัก ไม่ต้องรีบเร่งเพราะนักท่องเที่ยวไม่เยอะเลยในช่วง prime time พระอาทิตย์ตกดิน …
ขากลับ เราเดินลงตามเส้นทางที่ขึ้นมา แต่ลองเดินตรงเข้าไปอีกทางซึ่งพบว่าทางนี้ จะนำไปสู่ลานกว้างที่เป็นอีกจุดชมวิวของเสม็ดนางชีที่น่าจะเป็น official ก่อนลานที่เพิ่งไปเห็นมา
จุดชมวิวลานที่สองนี้ดึงเราเข้าไปใกล้ภูเขาหินปูนขึ้นอีกนิด และที่สำคัญไร้มนุษย์โดยสิ้นเชิง ฉันแทบจะครองลาน วิ่งถ่ายรูปและยืนชมเหมือนเป็นบ้านของตัวเอง แสงพระอาทิตย์สีแดงยามจะลับฟ้า สาดลงบนภูเขาและน้ำทะเลเบื้องหน้า สวยงามเหลือเกินค่ะ
ใครอยากจะมาที่ลานนี้ ต้องเดินขึ้นเท่านั้น ห้ามใช้บริการรถกระบะ เพราะไม่จอด เมื่อเดินขึ้นมาถึงสามแยกให้เลี้ยวซ้ายก่อนจะเลี้ยวขวาซึ่งเป็นทางที่รถกระบะวิ่ง หลังจากเลี้ยวซ้ายและเดินมาแค่ไม่กี่สิบเมตรก็จะถึงลานชมวิวลี้ลับแห่งนี้ (น่าเสียดายที่ไม่มีป้ายติดไว้บอกทาง หรือจะตั้งใจไม่ให้มาที่ลานนี้ก็อาจจะเป็นได้ แต่นำทางให้ไปอีกลาน ที่มีบ้านพัก และร้านขายน้ำ-ขนม)
เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืด เราก็เดินลงมาถึงด้านล่างพอดี และก็เจอกับป้อมยามและป้ายคิดราคาค่าขึ้น พร้อมบริการรถรับส่ง !!! อ้าว นี่ฉันเดินขึ้นฟรีเหรอเนี่ย 555 เมื่อรู้ตัวก็รีบถามคุณป้าที่ยืนอยู่ข้างป้อม จะขอจ่ายเงิน แต่คุณป้าบอกว่าไม่เป็นไร ป้อมปิดแล้ว ไม่ต้องจ่ายหรอก >< … เลยต้องบอกคนที่อ่านบล๊อกนี้ว่า ถ้าจอดรถที่ลานจอดซึ่งอยู่เหนือป้อม ให้เดินลงมาจ่ายเงินที่ด้านล่างก่อน คนละ 30 บาทเท่านั้นเพื่อบำรุงพื้นที่ และถ้าจะนั่งรถก็จ่ายเพิ่มคนละ 90 บาท รวมขาไปและกลับ ดังนั้นรถกระบะที่ขึ้นลงก็ถูกต้องตามกฏระเบียบค่ะ มีแต่ฉันแหล่ะที่ไปเคืองเค้าโดยที่ไม่รู้อะไรเลย หึ หึ (ขออภัยมา ณ ที่นี้)
ที่ตั้ง บ้านเสม็ดนางชี หมู่ 2 หินร่ม ตำบลคลองเคียน อำเภอตะทั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ค่าธรรมเนียม คนไทย 30บาท ต่างชาติ 50 บาท และบริการค่ารถขาขึ้น-ขาลง 90 บาท ด้านบนของจุดชมวิวมีบ้านพักให้เช่า มีลานให้กางเต้นท์ และโรงแรมเสม็ดนางชี บูทีค
ขอบคุณ ข้อมูลบางส่วนจาก คุณ popumon สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และเฟซบุ๊ก Theerasak Saksritawee
Related Posts: