ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามา … เราก็ยืนตะลึงอยู่ตรงลานกลางแจ้ง ที่ถูกโอบล้อมด้วยอาคารอิฐสูง หน้าต่างทุกบาน ตกแต่งด้วยกรอบไม้แกะสลัก สวยงาม เหมือนกับพระราชวังที่เราไปเห็นตามจัตุรัสต่างๆ
หลังจากพักเหนื่อยในห้องพักชั้น 2 บัทเลอร์แสนสุภาพก็พาเราเดินทัวร์รอบๆอาณาจักร เล่าให้ฟังถึงที่มา ซึ่งถูกจุดประกายจากการที่ Mr. Dwarika ไปเห็นชาวบ้านเผาไม้แกะสลักโดยไม่นึกถึงคุณค่าของงานฝีมือ จุดเริ่มต้นนี้นำไปสู่การเดินทางสะสมงานศิลปะทั่วเนปาล และนำทุกอย่างมารวมไว้ในโรงแรมแห่งนี้ เช่นในห้องสมุด ล็อบบี้ ห้องอาหาร และห้องพักของแขก
บ่ายวันนั้น เราไปนวดที่ Pancha Kosha Himalayan Spa ของโรงแรม เราเลือก Ayurveda Massage หนึ่งชั่วโมง บนเตียงนวดนุ่มและอุ่น น้ำหนักมือของสาวเนปาลแรงกว่านวดไทย แต่ก็ไม่หนักจนถึงกับต้องร้องขอชีวิต
ค่ำวันนั้น เรายังได้ไปกินอาหารเนปาลที่ The Krishnarpan ห้องอาหารต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองของกาฐมานฑุ ที่นำเมนูประจำชาติมาให้ลิ้มลองกันเกือบทุกเมนู ในรูปแบบดั้งเดิมแต่เพิ่มฟิวชั่นการจัดวาง อาหารแต่ละจานกินง่าย และรสชาติดีเลยค่ะ
The Krishnarpan เสิร์ฟอาหารเป็นคอร์ส ตั้งแต่ 6, 9 ไปจนถึง 23 คอร์ส บัทเลอร์ของโรงแรมมองไซส์รูปร่างของเราแล้ว ก็แนะนำว่าแค่ 6 คอร์สพอ
รูปภาพของคนมีชื่อเสียงที่เคยมาเป็นแขกของร้านนี้ เช่น สมเด็จพระราชาธิบดีชาลส์ที่ 3 ประธานาธิบดี จิมมี่ คาร์เตอร์ นางฮิลลาลี คลินตัน สตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ หรือดาราฮอลลีวู้ดดังๆ เช่น เดมี มัวร์
ในส่วนของห้องพัก เราจองห้อง Heritage Deluxe Room หรือห้องพื้นฐานของโรงแรม ประตูห้องล็อกกลอนด้วยลูกกุญแจทองเหลือง พื้นห้องนอนเป็นหินขัดมัน เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ล้วนเป็นไม้เนื้ออ่อน ปลอกหมอน ตกแต่งด้วยสีแดงธงชาติ และลวดลายกราฟฟิกแบบพื้นเมือง
บนโต๊ะเขียนหนังสือ มีซองกระดาษสาจ่าหน้าซองถึงเรา เนื้อความต้อนรับเขียนด้วยหมึกสีดำ กระดาษของโรงแรมเป็นกระดาษสาเกือบทั้งหมด
บนโต๊ะรับแขกมี Tiger Moving Game เกมส์ประจำชาติพร้อมวิธีให้เราเล่น ส่วนห้องน้ำ เครื่องประทินผิว สบู่ในห้องน้ำ ล้วนทำจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ
เช้าวันถัดไป เราขี้เกียจลงไปกินอาหารเช้าด้านล่าง เลยสั่ง In Room Dining มากินในห้อง Egg Benedict กับ French Toast อย่างละจาน กับน้ำส้มคั้นสดที่รสชาติดีเพราะเป็นฤดูกาลของส้มที่เนปาล
เราเริ่มแพ็คของลงกระเป๋า และก็ยังมีเวลาเหลือ เลยไปนั่งจิบชาเนปาล และลาเต้ร้อนที่โต๊ะในลานกลางแจ้ง พร้อมกับเดินชมร้านเสื้อผ้า และอำลา The Dwarika’s Hotel
หนึ่งคืนเท่านั้นที่เราเข้าพัก แต่กลับรู้สึกว่าพลังชีวิตเพิ่มขึ้น เราชอบทุกอย่างที่หลอมรวมกันเป็น The Dwarika’s Hotel รู้สึกว่าเดินชมได้ทั้งวัน มีอะไรให้ดูและให้อ่านได้เรื่อยๆ ที่สำคัญจะนั่งตรงไหนก็ได้ เพราะมีเก้าอี้พักในแทบทุกมุมของโรงแรม ทำให้แขกรู้สึกเหมือนอยู่บ้านอย่างแท้จริง …
ล๊อบบี้ของโรงแรมกับอุณหภูมิอุ่นๆในฤดูหนาว
HERITAGE DELUXE ROOM อยู่สบาย
Courtyard ลานกลางแจ้ง ที่กลายเป็นที่นั่งชมวิวของเราตลอดการเข้าพัก
ห้องสมุดกลางโรงแรม ที่รวบรวมงานสะสมต่างๆของ Mr. Dwarika
Pancha Kosha Himalayan Spa
The Krishnarpan
บริเวณต่างๆ และการตกแต่งของ The Dwarika’s Hotel
ที่ตั้ง Battisputali Rd, Kathmandu 44604, Nepa
อีเมล์ sales@dwarikas.com
โทรศัพท์ +977 1-4579488
ราคาห้องพัก 15,000 บาทขึ้นไป
www.dwarikas.com/home/
20 Jan 2024
0 Comments
ตอนหก I THE DWARIKA’S HOTEL
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามา … เราก็ยืนตะลึงอยู่ตรงลานกลางแจ้ง ที่ถูกโอบล้อมด้วยอาคารอิฐสูง หน้าต่างทุกบาน ตกแต่งด้วยกรอบไม้แกะสลัก สวยงาม เหมือนกับพระราชวังที่เราไปเห็นตามจัตุรัสต่างๆ
หลังจากพักเหนื่อยในห้องพักชั้น 2 บัทเลอร์แสนสุภาพก็พาเราเดินทัวร์รอบๆอาณาจักร เล่าให้ฟังถึงที่มา ซึ่งถูกจุดประกายจากการที่ Mr. Dwarika ไปเห็นชาวบ้านเผาไม้แกะสลักโดยไม่นึกถึงคุณค่าของงานฝีมือ จุดเริ่มต้นนี้นำไปสู่การเดินทางสะสมงานศิลปะทั่วเนปาล และนำทุกอย่างมารวมไว้ในโรงแรมแห่งนี้ เช่นในห้องสมุด ล็อบบี้ ห้องอาหาร และห้องพักของแขก
บ่ายวันนั้น เราไปนวดที่ Pancha Kosha Himalayan Spa ของโรงแรม เราเลือก Ayurveda Massage หนึ่งชั่วโมง บนเตียงนวดนุ่มและอุ่น น้ำหนักมือของสาวเนปาลแรงกว่านวดไทย แต่ก็ไม่หนักจนถึงกับต้องร้องขอชีวิต
ค่ำวันนั้น เรายังได้ไปกินอาหารเนปาลที่ The Krishnarpan ห้องอาหารต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองของกาฐมานฑุ ที่นำเมนูประจำชาติมาให้ลิ้มลองกันเกือบทุกเมนู ในรูปแบบดั้งเดิมแต่เพิ่มฟิวชั่นการจัดวาง อาหารแต่ละจานกินง่าย และรสชาติดีเลยค่ะ
The Krishnarpan เสิร์ฟอาหารเป็นคอร์ส ตั้งแต่ 6, 9 ไปจนถึง 23 คอร์ส บัทเลอร์ของโรงแรมมองไซส์รูปร่างของเราแล้ว ก็แนะนำว่าแค่ 6 คอร์สพอ
รูปภาพของคนมีชื่อเสียงที่เคยมาเป็นแขกของร้านนี้ เช่น สมเด็จพระราชาธิบดีชาลส์ที่ 3 ประธานาธิบดี จิมมี่ คาร์เตอร์ นางฮิลลาลี คลินตัน สตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ หรือดาราฮอลลีวู้ดดังๆ เช่น เดมี มัวร์
ในส่วนของห้องพัก เราจองห้อง Heritage Deluxe Room หรือห้องพื้นฐานของโรงแรม ประตูห้องล็อกกลอนด้วยลูกกุญแจทองเหลือง พื้นห้องนอนเป็นหินขัดมัน เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ล้วนเป็นไม้เนื้ออ่อน ปลอกหมอน ตกแต่งด้วยสีแดงธงชาติ และลวดลายกราฟฟิกแบบพื้นเมือง
บนโต๊ะเขียนหนังสือ มีซองกระดาษสาจ่าหน้าซองถึงเรา เนื้อความต้อนรับเขียนด้วยหมึกสีดำ กระดาษของโรงแรมเป็นกระดาษสาเกือบทั้งหมด
บนโต๊ะรับแขกมี Tiger Moving Game เกมส์ประจำชาติพร้อมวิธีให้เราเล่น ส่วนห้องน้ำ เครื่องประทินผิว สบู่ในห้องน้ำ ล้วนทำจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ
เช้าวันถัดไป เราขี้เกียจลงไปกินอาหารเช้าด้านล่าง เลยสั่ง In Room Dining มากินในห้อง Egg Benedict กับ French Toast อย่างละจาน กับน้ำส้มคั้นสดที่รสชาติดีเพราะเป็นฤดูกาลของส้มที่เนปาล
เราเริ่มแพ็คของลงกระเป๋า และก็ยังมีเวลาเหลือ เลยไปนั่งจิบชาเนปาล และลาเต้ร้อนที่โต๊ะในลานกลางแจ้ง พร้อมกับเดินชมร้านเสื้อผ้า และอำลา The Dwarika’s Hotel
หนึ่งคืนเท่านั้นที่เราเข้าพัก แต่กลับรู้สึกว่าพลังชีวิตเพิ่มขึ้น เราชอบทุกอย่างที่หลอมรวมกันเป็น The Dwarika’s Hotel รู้สึกว่าเดินชมได้ทั้งวัน มีอะไรให้ดูและให้อ่านได้เรื่อยๆ ที่สำคัญจะนั่งตรงไหนก็ได้ เพราะมีเก้าอี้พักในแทบทุกมุมของโรงแรม ทำให้แขกรู้สึกเหมือนอยู่บ้านอย่างแท้จริง …
ล๊อบบี้ของโรงแรมกับอุณหภูมิอุ่นๆในฤดูหนาว
HERITAGE DELUXE ROOM อยู่สบาย
Courtyard ลานกลางแจ้ง ที่กลายเป็นที่นั่งชมวิวของเราตลอดการเข้าพัก
ห้องสมุดกลางโรงแรม ที่รวบรวมงานสะสมต่างๆของ Mr. Dwarika
Pancha Kosha Himalayan Spa
The Krishnarpan
บริเวณต่างๆ และการตกแต่งของ The Dwarika’s Hotel
ที่ตั้ง Battisputali Rd, Kathmandu 44604, Nepa
อีเมล์ sales@dwarikas.com
โทรศัพท์ +977 1-4579488
ราคาห้องพัก 15,000 บาทขึ้นไป
www.dwarikas.com/home/
Related Posts: