Yamashinobu – เรียวกังกลางนาข้าว และหิ่งห้อยเปล่งแสง

หลังจากพลาดเรียวกังในหมู่บ้านคุโรกาว่า เราก็พยายามหาเรียวกังในรัศมีใกล้ๆ จนมาเจอกับ “ยามาชิโนบุ” (Yamashinobu) ที่ตั้งอยู่ในตำบลมินามิโอกุนิ ห่างจากคุโรกาว่าเพียง 6 กิโลเมตร

ระยะทางสั้นๆ แต่เราใช้เวลาหากันเกือบครึ่งชั่วโมง เพราะชื่อเรียวกังในเนวิเกเตอร์ของรถขึ้นเป็นภาษาญี่ปุ่น ทางขับเข้ามาก็มีหลงบ้างเพราะถนนเป็นสายเล็ก กลัวจะไปผิดเลยต้องใช้ google map เสริมด้วย

ยามาชิโนบุ เป็นเรียวกังที่มีบริเวณกว้างขวาง ด้านหน้ามีลานจอดรถได้หลายคัน มีพนักงานช่วยยกกระเป๋า ทางเข้าเรียวกังร่มรื่นมาก เราเดินผ่านแนวต้นไผ่สูงใหญ่ กิ่งใบปกคลุม พื้นสนามสองข้างทางเขียวขจีคล้ายพรมแต่แท้จริงแล้วเป็นมอสค่ะ

การเข้าพักเรียวกังของญี่ปุ่นจะมีกฏเกณฑ์คล้ายๆกัน เช่นเวลาเช็คอินหลังบ่ายสาม ถ้ามาสายควรแจ้งก่อน เพราะรอบอาหารเย็นมีบริการตามเวลา ซึ่งที่โยชิโนบุ มีอาหารเย็นและอาหารเช้ามื้อละ 2 รอบ ใครสะดวกช่วงเวลาไหน ก็แจ้งพนักงานตอนเช็คอิน และเพื่อเตือนเวลา พนักงานจะมอบบัตรอาหารที่ระบุเวลาชัดเจนให้กับเรา และใครแพ้อาหารอะไร หรือไม่กินอะไร ก็แจ้งพนักงานได้เช่นกันค่ะ

จากนั้นพนักงานก็พาเราเดินชมส่วนต่างๆของเรียวกัง เริ่มจากห้องสมุดและเก้าอี้โยกชมวิวนาข้าว ไปยังห้องผิงไฟโบราณของญี่ปุ่นที่ตอนกลางคืนจะมีกิจกรรมเด็ด และออนเซ็นไพรเวทของเรียวกังอีก 3 บ่อ สำหรับแช่น้ำพุร้อนกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ก่อนจะพาเราไปยังห้องพักสไตล์บ้านญี่ปุ่นที่จองไว้

พนักงานต้อนรับรู้ว่าเรามาจากประเทศไทย เปิดระบบแปลภาษา ระหว่างแนะนำส่วนต่างๆและกฏเกณฑ์ของเรียวกัง

ห้องสมุดและวิวนาข้าว

ห้องพักมีขนาดกว้างขวาง ประหนึ่งบ้านเดี่ยวทั้งหลัง มีห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็ก บ่อออนเซ็นทั้งในร่มกับกลางแจ้งมีสวนหย่อมและต้นไม้ใบเขียวคลอด้วยเสียงของแมลงต่างๆ ภายในบ้านยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ทีวีจอแบนแต่ไม่มีช่องภาษาอังกฤษ ไวไฟ เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง ตู้เย็น และชุดยูกะตะกับชุดนอน ซึ่งเรามาพักกันสองคน ห้องนอนเล็กเลยถูกปรับเป็นห้องวางกระเป๋า ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านจริงๆ

ก่อนอาหารเห็นตอน 18.30 เรามีเวลาส่วนตัวประมาณ 2 ชม. เลยใส่ชุดยูกาตะเดินเล่นชมบริเวณต่างๆของเรียวกังอีกครั้ง ชมล็อบบี้ที่มีสินค้าในท้องถิ่นมาวางขาย เบนโต๊ะที่ประดิษฐจากการถักทอที่เหมือนอาหารจริงสุดๆ แจกันดอกไม้ที่จัดแบบญี่ปุ่นจากดอกไม้ในสวน พร้อมกับถือตระกร้าใส่ผ้าขนหนูกับผ้าเช็ดตัว รอแช่ออนเซ็นไพรเวทที่ห้องเอ้าต์ดอร์ค่ะ

ออนเซ็นไพรเวท

ล็อบบี้ แจกันดอกไม้ และบริเวณอื่นๆของเรียวกัง

มื้อเย็นในเรียวกัง เสิร์ฟอาหารไคเซกิ (Kaiseki) เต็มรูปแบบ เปิดประสาทสัมผัสทั้งรูป รส และกลิ่น อาหารอร่อยและตกแต่งได้สวยงาม โต๊ะที่นั่งเซ็ตไว้สำหรับเราริมหน้าต่าง มีม่านบางกั้นระหว่างโต๊ะเพื่อความเป็นส่วนตัว

คืนนั้นกิจกรรมเด็ดอยู่ที่ห้องผิงไฟ ลุงได้จิบสาเกฟรี พร้อมกับเพื่อนใหม่ คู่รักชาวญี่ปุ่นจากฟุกุโอกะ ที่สอนเราเล่นไม้ปั่นของญี่ปุ่น

จากนั้นตอนสองทุ่มครึ่ง ก็เดินไปชมดาวที่ระเบียงชั้นสอง แม้วิทยากรจะพูดญี่ปุ่น แต่ก็มีเพื่อนใหม่คอยแปล นอกจากดาวบนท้องฟ้า ยังมีหิ่งห้อยเปล่งแสงอยู่ริมนาข้าว สนุกสนานดีค่ะ

เช้าวันใหม่ ลุงยังอยากใส่ชุดยูกะตะมากินอาหารเช้า บอกว่าชอบอารมณ์แบบญี่ปุ่น เรานั่งกินอาหารเช้ากันจนอิ่มแปล้ ก่อนจะกลับไปยังห้องพัก และเตรียมจัดข้าวจัดของขับรถเที่ยวเกาะคิวชูกันต่อ

หนึ่งคืนในยามาชิโนบุ เราได้พักผ่อนทั้งร่างกายและวางใจที่คิดวนไปมาได้จริง ความแปลกใหม่และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ปลุกอารมรณ์ดีๆในใจให้ยิ้มแย้ม และใจเย็นขึ้น จนอยากจะกลับมาอีกครั้งกับคุณแม่ พามาพักเรียวกังกลางป่า ใส่รองเท้าญี่ปุ่นเดินเล่นท่ามกลางอากาศเย็น และนอนเสื่อทาทามินุ่มๆ www.yamashinobu.com/mp/index.php (คืนละ 16,000 บาท รวมอาหารเย็น และอาหารเช้า)