8 ร้านเจ้าเก่า หน้าเดิมๆในฮ่องกง – เดินทางง่าย ใกล้สถานีหลัก

ไกด์บุ๊ค “เซียนฮ่องกง” ครบรอบ 14 ปีแล้ว หนังสือเล่มแรกที่เปิดทางให้เราได้สำรวจเมืองที่รักในหลายๆประเทศ ฮ่องกงเป็นเมืองที่รักมาตั้งแต่ 7 ขวบ เกือบทุกทริป เราจะมีลิสต์ร้านใหม่ที่อยากไปลองในฮ่องกง แต่ในลิสต์นั้น กว่าครึ่งก็ยังเป็นร้านหน้าเดิมๆ ที่คิดถึงเสมอ

บล็อกนี้รวบรวม 8 ร้านโปรดของเราที่เชื่อว่าไม่ใช่ร้านใหม่สำหรับนักเดินทางไทยในวันนี้ แต่สำหรับเรา ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไป ก็ยังเป็นร้านโปรดที่ไปกินเกือบทุกครั้ง เพราะติดใจในรสชาติที่คุ้นเคย อีกทั้งยังเดินทางง่าย ใกล้สถานีรถไฟในเมือง เหมาะกับวัยที่มากขึ้นและโลดโผนน้อยลงของเราค่ะ

For Kee

จำได้ว่าเกือบสิบปีแล้ว ที่เรารู้จักกับ For Kee ตอนนั้น เรามาพักบูติกโฮเท็ลที่ Jervois Street ตั้งใจสำรวจย่านเชิงหว่านในเชิงลึก เราเจอร้านนึงตรงหัวมุม ป้ายภาษาจีนสีแดงใหญ่ปิดหน้าร้าน ไม่มีภาษาอังกฤษเลย เราเดินดุ่มๆเข้าไป เอ๊ะ คนแน่นจัง แล้วก็ชี้เอาเมนูเดียวกับโต๊ะข้างๆ กินคำแรกก็ตกใจถึงความนุ่มของหมูทอดชิ้นใหญ่ ถัดมาก็สุขใจกับรสชาติบ้านๆ แค่ข้าวหมูทอดไข่ดาว มันฟินได้ถึงหัวใจ เลยบล็อกลงเพจ “เซียนฮ่องกง” ไม่ได้เขียนในหนังสือ เพราะปิดเล่มไปเรียบร้อย ผ่านมาเกือบสิบปี กลับมาคราวนี้คนต้องยืนรอคิว แถมข้างในยังมีป้ายภาษาไทย ส่วนรสชาติยังคงอร่อยอย่างที่คุ้นเคยค่ะ (ที่ตั้ง 20 Hollywood Rd, Sheung Wan เปิด ปิด 7.00 – 16.00 . ปิดวันอาทิตย์ เฉลี่ยคนละ 70 – 100 เหรียญ)

Chee Kei

จะบอกว่าเป็นอีกร้านที่รัก คนก็จะหาว่าเราหลายใจ แต่ไปทีไร อดใจไม่ได้เลย ต้องแวะกินโจ้กปูของ Chee Kei หนึ่งมื้อเป็นอย่างน้อย โจ้กปูในหม้อไม้ ที่ให้ปูทั้งตัว บวกกับผสมไข่ลงไปด้วย เนื้อโจ้กไม่ได้เนียนกริบอย่างร้านดังๆ แต่อร่อยกลมกล่อม ซดได้หมดถ้วยคนเดียว แบ่งแค่ปูให้คนที่ชอบแทะ ช่วงนี้มีโปรโมชั่นขายแพ็คคู่กับปาท่องโก๋ ที่ขอสั่งเพิ่มอยู่บ่อยๆ ปาท่องโก๋ทอดได้บาง เบา และกรอบนุ่ม ส่วนเมนูอื่นๆก็ดีงามค่ะ เช่นบะหมี่เกี้ยวกุ้ง เอ็นเนื้อตุ๋น หรือข้าวหน้าไก่ ลองจิ้มสั่งดู แต่ยังไงซะโจ้กปูครองใจเรามากที่สุด (ที่ตั้ง 52 Lock Rd Tsim Sha Tsui เปิด ปิด 11:00 21:00 น. เฉลี่ยคนละ 100 – 200 เหรียญ)

Cheung Hing Kee Shanghai Pan-fried Buns

ร้านนี้อยู่ใกล้กับ Chee Kei เลยพาเพื่อนรักเดินมากินต่อ คิวเย็นนี้ ไม่เยอะนัก รอสัก 5 นาทีก็ได้เมนูดังระดับมิชลิน street food มากินแล้ว ลักษณะของบันจะคล้ายขนมจีบ แป้งด้านนอกกรอบนิดๆ กัดปุ๊ปน้ำซุปด้านในจะไหลพุ่ง อารมณ์ประมาณเสี่ยวหลงเปา เราสั่งแบบออริจินัลไส้หมู และเมนูพิเศษปูพริกมาชิม ทุกคนชมเปาะว่าอร่อย เสียดายไม่ได้กลับมากินใหม่เพราะเดินกันเหนื่อยโซกทุกวันค่ะ (ที่ตั้ง Shop 6A, G/F, 48 Lock Road,  Tsim Sha Tsui เปิดปิด 9.00 – 21.00 . เฉลี่ยคนละ 20-40 เหรียญ)   

 

Hutong

ร้านต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ที่เรามักพาครอบครัว หรือเพื่อนไปกินกัน Hutong ตั้งอยู่บนตึกสูงชั้น 18 ที่เห็นวิวตึกระฟ้าของฝั่งฮ่องกงเต็มตา ถ้ามาในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ก็จะเห็นแสงสีทองส่องทั้งเมือง ส่วนตอนกลางคืน ก็ได้ชม Symphony of Lights จากโต๊ะอาหารในห้องแอร์เย็นฉ่ำ เมนูโปรดที่สั่ง ก็จะเป็นหมูแดง เต้าหู้ทอดผัดพริกเกลือ ข้าวผัด เป็ดย่าง รสชาติอาหารของ Hutong พอใช้ได้ค่ะ แต่ที่เรากลับมาซ้ำๆเพราะวิวอลังการอย่างที่เห็นนี่แหล่ะ (ที่ตั้ง H Zentre, 18/F, 15 Middle Rd, Tsim Sha Tsui เปิด ปิด 12.00 – 24.00 . เฉลี่ยคนละ 500 – 800 เหรียญ)

Bolton Café

ร้านอาหารเช้าสไตล์ฮ่องกงที่เพิ่งพบเจอเมื่อมกราคมที่ผ่านมา แล้วก็ขึ้นอันดับต้นๆเป็นร้านในใจทันที กลับมาอีกทีคราวนี้ก็ยังสั่งเซ็ตอาหารเช้าที่มาคู่กับ Pineapple Bun ที่เราว่าหอม นุ่มและแน่นกว่าร้านใดๆ กินคู่กับซุปมักกะโรนี สแปมทอดกรอบ และชานมฮ่องกงร้อนๆในยามเช้า อิ่มอร่อยได้หลายชั่วโมง บรรยากาศของร้านก็แต่งสไตล์วินเทจ สะอาดสะอ้าน ที่สำคัญ Bolton Café อยู่ใกล้กับ Langham Hotel ที่มักจะพักในย่านจิมซาโจ่ยด้วยค่ะ (ที่ตั้ง G/F, 20A Ashley Road,  Tsim Sha Tsui เปิด ปิด 07:30 21:30 น. ทุกวัน เฉลี่ยคนละ 50 – 70 เหรียญ)

Lung King Heen

นี่น่าจะเป็นครั้งที่ 4 สำหรับอาหารจีนมิชลินระดับสามดาวแห่งแรกของโลก ที่ครองตำแหน่งมาได้ยาวนาน เพราะอาหารอร่อยบริการเลิศ ติมซ่ำเที่ยงนี้ อร่อยทุกเข่งจนไม่รู้จะบรรยายอะไร เพื่อนรักตั้งใจมากินทาร์ตเป๋าฮื้อ ก็ได้สั่งดังใจ ปิดท้ายด้วยข้าวผัด Lung King Heen ที่ทุกเมล็ดข้าวซุยมาอย่างดี ผัดเข้าเนื้อ wok fried อร่อยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ใครอยากมากิน แนะนำให้จองล่วงหน้า และมีค่ามัดจำหัวละ 500 เหรียญค่ะ (ที่ตั้ง 4F, Four Seasons Hotel Hong Kong, 8 Finance St, Central เปิด ปิด 12.00 – 14.00. และ 18.00 – 21.00 . ทุกวัน เฉลี่ยคนละ 800 – 1,200 เหรียญ)

Via Tokyo

ร้านไอศกรีมชาเขียวซอฟต์เสิร์ฟผู้บุกเบิกของฮ่องกง สมัยก่อนคิวยาวเป็นหางว่าว ยิ่งดึกยิ่งยาว สาขาหรือก็มีอยู่หลายแห่ง แต่หลังโควิด บวกกับกระแส Matcha จางลง Via Tokyo คงเหลือแค่สาขาออริจินอลฝั่งคอสเวย์เบย์ (Causeway Bay) รอบนี้มากับเพื่อนรัก สั่งทั้ง Uji Matcha และ Hochicha มากิน แน่นอนเราไม่แบ่งถ้วยสีเขียวให้เพื่อน ขอกินคนเดียว แม้จะเป็นคนที่แพ้นมก็ยอมท้องเสีย เพราะรักในความเนียน ความหนึบ และเนื้อไอศกรีมแน่นๆ ของ Via Tokyo ค่ะ (ที่ตั้ง 106-126 Leishun Court Leighton Rd Causeway Bay เปิด ปิด 13.00 – 22.00 . ทุกวัน เฉลี่ยคนละ 50 – 80 เหรียญ)

Mammy Pancake

วอฟเฟิลไข่ชื่อดังของฮ่องกงที่ได้มิชลินมาหลายปีซ้อน สมัยก่อนร้านต้นตำรับตั้งอยู่ใกล้ๆกับ Via Tokyo วันนี้ปรับโฉมใหม่ สดใสและวัยรุ่น ขยายไปหลายสาขาในฮ่องกง แล้วเราก็ถูกใจวอฟฟอลไข่ของที่นี่มากที่สุด ยิ่งมีสาขาอยู่ตรงท่าเรือเฟอร์รี่ฝั่งเกาลูน ซึ่งเราพักในย่านจิมซาโจ่ยอยู่เสมอ ยิ่งทำให้เดินมากินง่าย กินเป็นขนมหวานปิดท้ายมื้อเย็นทุกทริปที่ไป เอาจริงๆไม่เคยเบื่อเลยค่ะ (ที่ตั้ง 29&30 G/F, Salisbury Road, Kowloon Point Star Ferry Pier เปิด ปิด 11:00 22:30 . ทุกวัน เฉลี่ยคนละ 30 – 50 เหรียญ)