วันหนึ่งในเมืองหลวงแห่งเสียงเพลง – เวียนนา

ร้านดอกไม้ที่ Kartner Street

เวียนนา เป็นเมืองหลวงของออสเตรีย และของโลกแห่งเสียงเพลง ถิ่นกำเนิดของ 2 ศิลปินเอกของโลก Mozart (โมซาร์ด) และ Johanne Strauss (โยฮานน์ สเตราท์) จะมีอะไรซุกซ่อนอยู่บ้าง มาค่ะ เรามาเดินท่องไปพร้อมๆกัน ^^

Good Morning Vienna …

เช้านี้ฉันทำความรู้จักเวียนนาที่ “อนุเสาวรีย์พระนางมาเรียเทเรซ่า” พระนางผู้เป็นที่รักยิ่งของพสกนิกร และเป็นผู้ที่ปลูกฝังศิลปะการดนตรี ให้งอกเงยขึ้นในประเทศแห่งเสียงเพลงนี้ …

พระนางมาเรียเทเรซ่า หรืออีกชื่อที่รู้จักกันว่า “พระราชินีแห่งทวีปยุโรป” ทรงเป็นพระมารดาของเจ้าชาย และเจ้าหญิงอีก 16 พระองค์ ซึ่งหลังจากแต่ละคนเติบใหญ่ ต่างก็แยกย้ายไปอภิเสกสมรสและปกครองประเทศต่างๆในทวีปยุโรป รวมถึงเจ้าหญิง ตัวน้อยที่โลกรู้จักดี “พระนางมาเรีย อังตัวเน็ต” ค่ะ

24 Hours in Vienna

Johann Strauss II ราชาเพลงวอลซ์ “The Waltz King” มีรูปปั้นสีทองอร่ามตั้งอยู่ที่สวน Stadpark ท่วงท่าสีไวโอลินที่อ่อนช้อย สะท้อนจิตวิญญานศิลปินของท่านได้อย่างชัดเจน บทเพลงกว่า 400 บทเพลง รวมถึง The Blue Danube เพลงวอลซ์ที่โด่งดังที่สุดของยุค ถูกเรียงร้อยผ่านพรสวรรค์ของท่านผู้นี้ ปัจจุบันรูปปั้นสีทองแห่งนี้ กลายเป็นหนึ่งใน must see และ most photographic ของเมืองไปโดยปริยายค่ะ

24 Hours in Vienna

อีกหนึ่งศิลปินชื่อดังของประวัติศาสตร์โลก Wolfgang Amadeus Mozart (Mozart โมสาร์ท) ก็ถือกำเนิดในออสเตรีย ท่านมีพรสวรรค์ตั้งแต่เยาว์วัย แต่งเพลงได้เมื่ออายุ 5 ขวบ รูปปั้นของโมสาร์ทตั้งอยู่ที่สวน Burggarten ตรึงทุกคู่สายตาด้วยท่วงท่าสง่าผาเผย และกุญแจซอลดอกไม้ขนาดใหญ่ ที่ประดับเพื่อเป็นเกียรติอยู่ด้านหน้าของรูปปั้น …

บทเพลงของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองนี้ บันทึกขายเป็นซีดีตามร้านขายของที่ระลึกทั่วไป เหมาะมากที่จะซื้อเก็บเป็นของที่ระลึกถึงความยิ่งใหญ่ของท่านทั้งสอง และของประเทศออสเตรีย

Mozart (2)_Fotor

Noon…

เราเดินทางมาถึง พระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn Palace) หรือพระราชวังสีเหลือง แหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเวียนนา

พระราชวังแห่งนี้มีความหมายว่า “Beautiful Spring” หรือฤดูใบไม้ผลิที่งดงาม สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโร็ค ที่เน้นความอลังการทั้งภายในและภายนอกอาคาร ในปี 1996 UNESCO ได้บันทึกให้พระราชวังแห่งนี้เป็นสมบัติของโลกหรือ World Heritage ที่ควรค่าแก่การรักษา

สวนสวยด้านหลังของพระราชวัง เป็นส่วนที่น่าประทับที่สุดค่ะ แนวหญ้าสีเขียวสุดลูกหูลูกตาจรดเนินเขาด้านหลัง ที่ตั้งของ Gloriette แนวปราสาทที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดดึงสายตา และแหล่งสันทนาการของ กษัตย์ และเหล่าราชวงศ์ในอดีตงดงาม และสดชื่นเหลือคณา

24 Hours in Vienna

24 Hours in Vienna

Test1

Test1

Afternoon…

เราอุทิศเวลาที่เหลือของวัน ย่างเท้าบนถนนช้อปปิ้งหลักของเมือง คาร์เนอร์สตรีท (Karntner Strasse) ถนนสายนี้สืบประวัติมาตั้งแต่ยุคโรมัน ปัจจุบันเปลี่ยนสภาพเป็นถนนคนเดิน ปูด้วยแนวหิน และขนาบข้างด้วยอาคารร้านค้าทั้งเก่าและใหม่สลับกันไป

บรรยากาศของผู้คน ร้านรวงริมทาง และอุณหภูมิเย็นสบาย กระตุ้นต่อมช้อปปิ้งของเรา ให้เดินเข้าออกร้านสวยอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด ทั้งร้านขนม ร้านขายงานประดิษฐ์ และร้านขายเครื่องแก้ว ล้วนสามัคคีหว่านเสน่ห์และหว่านล้อมสตางค์ในกระเป๋าทุกครั้งที่สายตาจับจ้องสินค้าที่อยู่ในมือ ….

ร้านดอกไม้ที่ Kartner Street

Kartner Street (3)

My Favourites Shops …

เป็นธรรมเนียมของนักช้อปมืออาชีพ ที่ต้องควานหาร้านเก๋ สินค้ากู๊ดมาฝากกัน คราวนี้มีร้านประทับใจมาให้เลือกแวะชมกัน 3-4 ร้าน

Gerster (No.11-15)

ร้านขายกาแฟ ขนมเค้กและเพรสตรี ชื่อดังของเมืองร้านนี้ เปิดให้บริการมาร้อยกว่าปีแล้ว เป็นร้านดังที่มักได้รับคัดเลือกจากรัฐบาลให้รับรองแขกบ้านแขกเมือง สาขาที่ถนนคาร์เนอร์มักเนื่องแน่นด้วยผู้คน ต่างแย่งชิงที่นั่งในร้านขนาดเล็ก หากมีเวลาเราสองคนคงไม่ยอมแพ้ ต้องจับจองจิบชาและละเลียดขนมหวานน่ากินของทางร้าน…แต่ด้วยภารกิจต้องช้อปต่อเนื่อง จึงขอแค่ชิมมาการูนสีสันสวยๆของร้าน รสถั่วพิสถาชิโอสีเขียวที่เลือกในวันนี้ หวานกลมกล่อม คู่ควรกับน้ำชาขมๆ สักแก้วยิ่งนัก (ราคาชิ้นละ 2 ยูโร หรือ 100 บาท เก็บความอร่อยได้ 3 วันค่ะ www.gerstner.at)

Gerstner ร้านขนม (2) Gerstner ร้านขนม (4)

Gerstner ร้านขนม (7)

Sacher Torte หรือ Chocolate Cake ของ Hotel Sacher

สูตรลับช็อกโกแล็ตเค้กของโรงแรมนี้ เป็นตำนานที่ยังได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน Hotel Sacher สร้างด้วย สถาปัตยกรรมแบบเรเนซอง ตั้งอยู่สุดถนนช้อปปิ้งสายนี้ เราเดินเข้าไปภายในโรงแรมเพื่อซื้อเค้กที่ร่ำลือว่าอร่อยที่สุด และ ปลื้มใจยิ่งนักที่โรงแรมผลิตเค้กขนาดเล็ก แซมเปิ้ล (12 เซ็นติเมตร) ในกล่องไม้สวยหรูให้กับนักท่องเที่ยว ทันทีที่ชิม ความหวานแบบไม่บันยะบันยั้งก็พุ่งทะลักเข้าสู่ประสาทรับรส เราอดทนชิมไปอีกนิด เพียงเพื่อพบว่า ช็อกโกแล็ตเค้ก ร้านนี้ต้องมีคู่ และคู่ที่เหมาะสมที่่สุดต้องเป็นกาแฟดำขมๆเป็นแน่แท้ รสขมเท่านั้นที่จะช่วยเจือความหวาน และสร้าง ความกลมกล่อมขึ้นมาได้ ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งรสชาติคงไม่สมดุล และสุดโต่งเกินไป เค้กร้านนี้เก็บได้ถึง 10 วันในกล่องไม้ ดังนั้นจึงถือเป็นของ ถึงอย่างไรเค้ก ร้านนี้ก็ยังได้ใจเราฝากที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ใหญ่และครอบครัวด้วยค่ะ (ราคา 20.50-43.00 ยูโร ขนาดตั้งแต่ 12-22 เซ็นติเมตร www.sacher.com)

Hotel Sacher (2)

original_sacher_torte

Swarovski Flagship (No.24)

คริสตัลแบรนด์นี้ มีคุณภาพคับแก้ว คงไม่ต้องเปลืองเวลานำเสนอสรรพคุณให้มากมายนัก ทุกๆวันนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จะแวะชมและเลือกซื้อคริสตัลของ Swarovski กันไม่ขาดสาย สินค้าที่เสนอขายข้างใน ก็ช่างคิด ล้วนน่าซื้อน่าจับจองเป็นเจ้าของไปเสียทุกชิ้น ตั้งแต่ราคาย่อมเยาว์ดินสอคริสตัล ปากกาคริสตัล ไปถึงราคาสูงลิบจำพวกเครื่องแก้ว เครื่องประดับ และของตกแต่งบ้าน เปรียบเทียบราคาแล้วถูกกว่ากรุงเทพฯประมาณ 15-25% สาขานี้ได้ชื่อว่าเป็นหน้าตาของแบรนด์ Flagship Store จึงห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง (http://vienna.swarovski.com/Content.Node/swarovskiwien.en.php)

Kartner Street (10) Kartner Street (11)

Petit Pourt

ท้ายสุดเป็นร้านขายงานปักผ้าครอสติชขนาดจิ๋วที่สุดที่เคยเห็นมา ดิฉันหลงใหลงานฝีมือชนิดนี้มาตั้งแต่เด็ก มีผลงานติดตามกำแพงบ้านไว้อวดแขกอยู่บ้าง จึงรู้ถึงความยากและง่ายของการปักผ้าประเภทนี้ ความละเอียดของชิ้นงานแต่ละชิ้นแทบทำให้ดิฉันก้มคารวะนักปักของร้านแทบจะในทันที ฝีมือของท่านไร้เทียมทานเสียจริงๆ ช่องปักเล็กขนาดที่แม้แต่หัวเข็มยังสอดเข้ายาก ถ้าไม่ใช่มืออาชีพแล้ว คงไม่สามารถปักชิ้นงานได้สำเร็จ สมแล้วกับชื่อร้าน Petit (เล็กจิ๋ว) อย่างไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ

Kartner Street (12)

Kartner Street (13) Kartner Street (14)

กว่าจะจบวัน เวลาก็ล่วงเลยมาถึงพลบค่ำ เรามุ่งหน้ากลับที่พัก เพื่อเตรียมเดินทางต่อไปในวันพรุ่งนี้ เวียนนาครานี้ถึงจะสั้นแต่ก็นำมาซึ่งความประทับใจ มั่นใจว่าเราต้องกลับมาหาเธออีกแน่นอน…แล้วเจอกันนะ

เดินทางเดือนกันยายน ปี 2010

เว็ปไซต์

www.wien.gv.at

www.wien.info

www.schoenbrunne.at