L’Atelier de Joël Robuchon ✪✪✪✪✪
Joël Robuchon เชฟผู้ได้ชื่อว่า “พ่อครัวแห่งศตวรรษ” … จำนวนดาวมิชลินกว่ายี่สิบดวงที่มอบให้ร้านอาหารภายใต้การดูแลของเค้านั้น ทำให้ Joël Robuchon กลายเป็นพ่อครัวที่ติดดาวมากที่สุด และเป็นที่มาของชื่อเสียงแห่งเกียรติยศนี้
ความอร่อยของ Joël Robuchon ไม่ได้เป็นแค่ราคาคุยค่ะ ทุกเมนูมีรายละเอียดที่พิถีพิถัน อร่อยทุกเมนู จะล้นปรี่หรือนิดหน่อย ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล
ที่สิงคโปร์ มีร้านของ Joël Robuchon อยู่ 2 ร้าน ร้านแรกเป็น Super Fine Dinning นามว่า “Joël Robuchon” และอีกร้าน “L’Atelier de Joël Robuchon” หรือ casual dinning ที่เป็นกันเองมากขึ้น
เราแวะไปทานที่ “L’Atelier de Joël Robuchon” กันอยู่หลายครั้ง ไม่เคยรีวิวภาพและข้อมูลให้เป็นเรื่องเป็นราวสักครั้ง จนเมื่อวันก่อนได้กลับไปทานอีก คราวนี้มีทีเด็ดมากมาย ที่สร้างความประทับใจจนต้องตื่นมารีวิวตอนเช้าตรู่
ดีใจมากค่ะ ได้ถ่ายรูปกับ Head Chef …
บรรยากาศของร้าน “L’Atelier de Joël Robuchon” ของทุกประเทศ จะตกแต่งเหมือนกัน โทนสีแดง ดำ ไฟสลัว ส่องสป็อตเป็นจุดๆ และครัวเปิดกลางร้าน เผยให้เห็นพ่อครัวแม่ครัวที่ขมักเขม้นทำอาหารกันอย่างไม่เงยหน้าเงยตา
ภายในห้องครัวนี้ จะมีเชฟเกือบสิบคน นั่งสังเกตุดูจะเห็นว่า พ่อครัวและแม่ครัวที่สวมหมวกจะมีตำแห่งน้อยที่สุด ทำงานหนักสุด โดยมีพ่อครัวใหญ่ หรือ Head Chef ที่มักเป็นชายชาวฝรั่งเศสยืนคุมงาน และชิมอาหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมคุณภาพตลอดเวลาค่ะ
อาหารของ “L’Atelier de Joël Robuchon” เกิดจากการผสมผสานครัวญี่ปุ่นเข้ากับเสน่ห์ของทาปาสจากประเทศสเปน กลิ่นอายของตะวันตกจึงรวมเข้ากับตะวันออก มิโช เครื่องเทศ ซอสเทริยากิ และอื่นๆถูกนำเข้ามาปรุงแต่ง ให้เป็นการแต่งงานของสองขั้วโลกที่ลงตัวเป็นที่สุด
ในวันนี้เราเลือกสั่งเซ็ตเมนู (68++) และ A la carte แยกอีก 2 จาน
ขนมปังถาดใหญ่พร้อมเนยสด ถูกนำมาเสริฟ์ให้รองท้องก่อนทุกครั้ง ขนมปังของ Joël Robuchon ของแท้ต้องมีครัวซองค์กลมจิ๋ว ที่อร่อย มัน และขนมปังบาเก็ตรูปกิ่งไม้ ที่เหนียวหนีบ ยิ่งเคี้ยว ยิ่งมันค่ะ
Amuse Bouche
อาหารเรียกน้ำย่อย ที่พ่อครัวเตรียมให้ เป็นอีกถ้วยเล็กที่เสริฟ์ต่อมา Amuse Bouche ถ้วยนี้ แสดงแสนยานุภาพของฝีมือ Joël Robuchon ได้เป็นอย่างดี Foie Gras Custard ที่สอดไส้มากับ Port Wine และฟองชีส เมื่อผสมเข้ากันแล้ว จะได้รสมันเยี่ยมยอด หอมฟรัวกราส อร่อยให้ 5 ดาวเลยค่ะ
Amuse Bouche
Frog Leg Ravioli
จานนี้ เป็นจานพิเศษที่เชฟใจดี แจกให้ชิมทุกโต๊ะในวันนั้น … แน่นอนว่าอร่อย และแปลกได้ใจไปเต็มร้อย
Frog Leg Ravioli
Chicken Broth with Foie Gras Ravioli (Appetizer)
หรือราวิโอลี่ฟรัวกรา ในน้ำซุปไก่ชามนี้ มีเครื่องเขียงเป็นครีมสด เป็นซุปสองอารมณ์ โดยก่อนใส่ครีม รสชาติจะคล้ายซุปไก่ หอมเครื่องเทศ เผ็ดพริกนิดๆ แต่เมื่อผสมครีมเข้าไป รสชาติจะเปลี่ยนเป็น “ต้มยำน้ำข้น” ที่หอมนมเนย อร่อยให้ 4/5 ดาวสำหรับชามนี้ค่ะ
CHICKEN BROTH WITH FOIE GRAS RAVIOLI (APPETIZER)
Le Foie Gras de Cunard (Appetizer)
ฟรัวกราสชิ้นใหญ่ที่เกรียมกรอบด้านนอก และละมุนลิ้นภายใน ทานแล้ว แทบละลายในปาก ส่วนซอสและเครื่องเขียงที่ให้มา ออกรสหวาน ช่วยขับกล่อมรสชาติให้ดียิ่งขึ้นค่ะ
LE FOIE GRAS DE CUNARD (APPETIZER)
Le Cochon de Lait
หมูหั่นสเปนและกะหล่ำปลีจานนี้ เป็นไฮไลท์ของมื้อเลยค่ะ ดีใจที่เลือกสั่ง a la carte ได้ไม่ผิด คุณป๊อกกี้ชิมแล้วอึ้งไปนิด งุนงงกับรสชาติเค็มกำลังดีของเนื้อหมู ที่เคล้ามากับความหวานของซอสคาราเมล และกรุบกรอบของหนังหมูและกะหล่ำปลี … แค่เขียนบรรยายท้องก็ร้องขึ้นมาอีกครั้งแล้วค่ะ
LE COCHON DE LAIT
Teppanyaki Caramelized Skirt Steak
เป็นจานที่คุณป๊อกกี้ของลอง เรายอมฝืนกฏที่ตั้งไว้ บริโภคเนื้อกันหนึ่งมื้อ เพื่อชิมสเต็กที่อร่อยของร้านนี้ เนื้อสเต็กย่างแบบ Medium Rare ที่ยังคงความดิบและสีแดงสดของตัวเนื้อ คุณป๊อกกี้บอกว่าจานนี้อร่อยดี แต่ไม่ได้ว้าวเหมือนจานหมูหั่นสเปนของเราค่ะ
TEPPANYAKI CARAMELIZED SKIRT STEAK
Mashed Potato
เปรียบได้เสมือนข้าวสวย ที่ทางร้านจะมอบให้ทานคู่กับจานหลักทุกครั้ง มันบดของ Joël Robuchon เนื้อเนียน และเหนียวหนึบ หวานมันกำลังดี ช่วยให้อิ่มท้องได้มากอยู่ค่ะ
MASHED POTATO
Passion Fruit Creme Brûlée
เป็นเมนูขนมหวานปิดท้าย ที่มาพร้อมกับเซ็ตอาหาร ก่อนเสริฟ์คุณป๊อกกี้บอกว่าจะชิมแค่นิดเดียว แต่พอได้ทานเท่านั้น หันไปอีกที เกือบหมดถ้วยเลยค่ะ
Creme Brûlée ถ้วยนี้ไม่หวานและมันอย่างที่คิด ดูคล้ายจะเปิดทางให้รสชาติผลไม้ที่โปะหน้า ซึ่งวันนี้เป็นเสารสออกรสชาติมากกว่า เมื่อทานเข้าด้วยกัน จึงออกเปรี้ยวนำ หวานตาม และมันปิดท้ายค่ะ
PASSION FRUIT CREME BRÛLÉE
ค่าความเสียหายของมื้อนี้อยู่ที่ 250 เหรียญ เพราะเราสั่งไวน์มาทานคู่กันด้วย ไวน์ของ Joël Robuchon แน่นอนว่าคัดเลือกมาอย่างดี มีผู้ชำนาญไวน์แนะนำว่าควรสั่งแก้วใด เพื่อให้เสริมรสชาติอาหาร … ถือว่าเป็นมื้อแพงที่คุ้มค่า และมั่นใจว่า จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่จะแวะไปทานอย่างแน่นอนค่ะ
ที่ตั้ง Resorts World Sentosa, Sentosa
เปิด ปิด 17.30-23.00 น. ทุกวัน ปิดวันอังคารและพุธ
เซ็ตเมนู เริ่มต้นที่ 68++, 98++ ไปจนถึง 210++
ราคาเฉลี่ยคนละ 100-200 เหรียญ
16 Aug 2014
0 Comments
L’Atelier de Joel Robuchon – สิงคโปร์
L’Atelier de Joël Robuchon ✪✪✪✪✪
Joël Robuchon เชฟผู้ได้ชื่อว่า “พ่อครัวแห่งศตวรรษ” … จำนวนดาวมิชลินกว่ายี่สิบดวงที่มอบให้ร้านอาหารภายใต้การดูแลของเค้านั้น ทำให้ Joël Robuchon กลายเป็นพ่อครัวที่ติดดาวมากที่สุด และเป็นที่มาของชื่อเสียงแห่งเกียรติยศนี้
ความอร่อยของ Joël Robuchon ไม่ได้เป็นแค่ราคาคุยค่ะ ทุกเมนูมีรายละเอียดที่พิถีพิถัน อร่อยทุกเมนู จะล้นปรี่หรือนิดหน่อย ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล
ที่สิงคโปร์ มีร้านของ Joël Robuchon อยู่ 2 ร้าน ร้านแรกเป็น Super Fine Dinning นามว่า “Joël Robuchon” และอีกร้าน “L’Atelier de Joël Robuchon” หรือ casual dinning ที่เป็นกันเองมากขึ้น
เราแวะไปทานที่ “L’Atelier de Joël Robuchon” กันอยู่หลายครั้ง ไม่เคยรีวิวภาพและข้อมูลให้เป็นเรื่องเป็นราวสักครั้ง จนเมื่อวันก่อนได้กลับไปทานอีก คราวนี้มีทีเด็ดมากมาย ที่สร้างความประทับใจจนต้องตื่นมารีวิวตอนเช้าตรู่
ดีใจมากค่ะ ได้ถ่ายรูปกับ Head Chef …
บรรยากาศของร้าน “L’Atelier de Joël Robuchon” ของทุกประเทศ จะตกแต่งเหมือนกัน โทนสีแดง ดำ ไฟสลัว ส่องสป็อตเป็นจุดๆ และครัวเปิดกลางร้าน เผยให้เห็นพ่อครัวแม่ครัวที่ขมักเขม้นทำอาหารกันอย่างไม่เงยหน้าเงยตา
ภายในห้องครัวนี้ จะมีเชฟเกือบสิบคน นั่งสังเกตุดูจะเห็นว่า พ่อครัวและแม่ครัวที่สวมหมวกจะมีตำแห่งน้อยที่สุด ทำงานหนักสุด โดยมีพ่อครัวใหญ่ หรือ Head Chef ที่มักเป็นชายชาวฝรั่งเศสยืนคุมงาน และชิมอาหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมคุณภาพตลอดเวลาค่ะ
อาหารของ “L’Atelier de Joël Robuchon” เกิดจากการผสมผสานครัวญี่ปุ่นเข้ากับเสน่ห์ของทาปาสจากประเทศสเปน กลิ่นอายของตะวันตกจึงรวมเข้ากับตะวันออก มิโช เครื่องเทศ ซอสเทริยากิ และอื่นๆถูกนำเข้ามาปรุงแต่ง ให้เป็นการแต่งงานของสองขั้วโลกที่ลงตัวเป็นที่สุด
ในวันนี้เราเลือกสั่งเซ็ตเมนู (68++) และ A la carte แยกอีก 2 จาน
ขนมปังถาดใหญ่พร้อมเนยสด ถูกนำมาเสริฟ์ให้รองท้องก่อนทุกครั้ง ขนมปังของ Joël Robuchon ของแท้ต้องมีครัวซองค์กลมจิ๋ว ที่อร่อย มัน และขนมปังบาเก็ตรูปกิ่งไม้ ที่เหนียวหนีบ ยิ่งเคี้ยว ยิ่งมันค่ะ
Amuse Bouche
อาหารเรียกน้ำย่อย ที่พ่อครัวเตรียมให้ เป็นอีกถ้วยเล็กที่เสริฟ์ต่อมา Amuse Bouche ถ้วยนี้ แสดงแสนยานุภาพของฝีมือ Joël Robuchon ได้เป็นอย่างดี Foie Gras Custard ที่สอดไส้มากับ Port Wine และฟองชีส เมื่อผสมเข้ากันแล้ว จะได้รสมันเยี่ยมยอด หอมฟรัวกราส อร่อยให้ 5 ดาวเลยค่ะ
Amuse Bouche
Frog Leg Ravioli
จานนี้ เป็นจานพิเศษที่เชฟใจดี แจกให้ชิมทุกโต๊ะในวันนั้น … แน่นอนว่าอร่อย และแปลกได้ใจไปเต็มร้อย
Frog Leg Ravioli
Chicken Broth with Foie Gras Ravioli (Appetizer)
หรือราวิโอลี่ฟรัวกรา ในน้ำซุปไก่ชามนี้ มีเครื่องเขียงเป็นครีมสด เป็นซุปสองอารมณ์ โดยก่อนใส่ครีม รสชาติจะคล้ายซุปไก่ หอมเครื่องเทศ เผ็ดพริกนิดๆ แต่เมื่อผสมครีมเข้าไป รสชาติจะเปลี่ยนเป็น “ต้มยำน้ำข้น” ที่หอมนมเนย อร่อยให้ 4/5 ดาวสำหรับชามนี้ค่ะ
CHICKEN BROTH WITH FOIE GRAS RAVIOLI (APPETIZER)
Le Foie Gras de Cunard (Appetizer)
ฟรัวกราสชิ้นใหญ่ที่เกรียมกรอบด้านนอก และละมุนลิ้นภายใน ทานแล้ว แทบละลายในปาก ส่วนซอสและเครื่องเขียงที่ให้มา ออกรสหวาน ช่วยขับกล่อมรสชาติให้ดียิ่งขึ้นค่ะ
LE FOIE GRAS DE CUNARD (APPETIZER)
Le Cochon de Lait
หมูหั่นสเปนและกะหล่ำปลีจานนี้ เป็นไฮไลท์ของมื้อเลยค่ะ ดีใจที่เลือกสั่ง a la carte ได้ไม่ผิด คุณป๊อกกี้ชิมแล้วอึ้งไปนิด งุนงงกับรสชาติเค็มกำลังดีของเนื้อหมู ที่เคล้ามากับความหวานของซอสคาราเมล และกรุบกรอบของหนังหมูและกะหล่ำปลี … แค่เขียนบรรยายท้องก็ร้องขึ้นมาอีกครั้งแล้วค่ะ
LE COCHON DE LAIT
Teppanyaki Caramelized Skirt Steak
เป็นจานที่คุณป๊อกกี้ของลอง เรายอมฝืนกฏที่ตั้งไว้ บริโภคเนื้อกันหนึ่งมื้อ เพื่อชิมสเต็กที่อร่อยของร้านนี้ เนื้อสเต็กย่างแบบ Medium Rare ที่ยังคงความดิบและสีแดงสดของตัวเนื้อ คุณป๊อกกี้บอกว่าจานนี้อร่อยดี แต่ไม่ได้ว้าวเหมือนจานหมูหั่นสเปนของเราค่ะ
TEPPANYAKI CARAMELIZED SKIRT STEAK
Mashed Potato
เปรียบได้เสมือนข้าวสวย ที่ทางร้านจะมอบให้ทานคู่กับจานหลักทุกครั้ง มันบดของ Joël Robuchon เนื้อเนียน และเหนียวหนึบ หวานมันกำลังดี ช่วยให้อิ่มท้องได้มากอยู่ค่ะ
MASHED POTATO
Passion Fruit Creme Brûlée
เป็นเมนูขนมหวานปิดท้าย ที่มาพร้อมกับเซ็ตอาหาร ก่อนเสริฟ์คุณป๊อกกี้บอกว่าจะชิมแค่นิดเดียว แต่พอได้ทานเท่านั้น หันไปอีกที เกือบหมดถ้วยเลยค่ะ
Creme Brûlée ถ้วยนี้ไม่หวานและมันอย่างที่คิด ดูคล้ายจะเปิดทางให้รสชาติผลไม้ที่โปะหน้า ซึ่งวันนี้เป็นเสารสออกรสชาติมากกว่า เมื่อทานเข้าด้วยกัน จึงออกเปรี้ยวนำ หวานตาม และมันปิดท้ายค่ะ
PASSION FRUIT CREME BRÛLÉE
ค่าความเสียหายของมื้อนี้อยู่ที่ 250 เหรียญ เพราะเราสั่งไวน์มาทานคู่กันด้วย ไวน์ของ Joël Robuchon แน่นอนว่าคัดเลือกมาอย่างดี มีผู้ชำนาญไวน์แนะนำว่าควรสั่งแก้วใด เพื่อให้เสริมรสชาติอาหาร … ถือว่าเป็นมื้อแพงที่คุ้มค่า และมั่นใจว่า จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่จะแวะไปทานอย่างแน่นอนค่ะ
ที่ตั้ง Resorts World Sentosa, Sentosa
เปิด ปิด 17.30-23.00 น. ทุกวัน ปิดวันอังคารและพุธ
เซ็ตเมนู เริ่มต้นที่ 68++, 98++ ไปจนถึง 210++
ราคาเฉลี่ยคนละ 100-200 เหรียญ
Related Posts: