หนึ่งหมื่นฟุตนี่มันความสูงระดับน้องๆของเครื่องบินเลยนะคะ …
ฉันกลัวความสูงค่ะ ไม่ใช่สิ … ฉันไม่ได้กลัวความสูงแต่ฉันกลัวอาการที่จะเกิดขึ้นบนที่สูง จึงปฏิเสธที่จะไปปีนมาจูปิจู หรือไต่ขึ้นธิเบตหลังคาของโลกใบนี้มาตลอด
ดังนั้นการตัดสินใจขึ้นยอดเขาทิลิสต์ในวันนี้ จึงเป็นการเอาชนะความกลัวของตัวเอง เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่คิดจะเสี่ยงดูสักครั้งค่ะ
ยอดเขาทิลิสต์ตั้งอยู่ที่เมืองแองเกิลเบริก์ (Engelberg) เมืองรีสอรต์ของเหล่านักสกี
ในแต่ละวันนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ ต่างมุ่งหน้ามาพิชิตยอดเขานี้ด้วยวิธีที่ง่ายดังปอกกล้วยเข้าปาก
เมืองแองเกิลเบริก์อยู่ห่างจากซูริคเพียง 2 ชั่วโมงทางรถบัส
ฉันเลือกเป็น Day Trip แบบสบายๆ กับทัวร์ Best of Switzerland ในราคาคนละ 170 ฟรังก์ หรือประมาณ 6,100 บาทค่ะ
ทัวร์เริ่มต้นที่เมืองลูเซินต์ ซึ่งจะเล่าในอีกโพสค่ะ
ราคาทัวร์รวมค่าขึ้นยอดเขาทั้งหมด และกิจกรรมหวาดเสียวบนความสูง 10,000 ฟิต ที่จะเล่าให้ฟังในอีกไม่ช้าค่ะ
ฉันขึ้นยอดเขาด้วยกระเช้าลอยฟ้าซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ระดับค่ะ
สองระดับแรกเป็นกระเช้าลอยฟ้ารุ่นธรรมดา หน้าตาเหมือนกระเช้าทั่วไป นั่งได้ 4-6 คน มีกิมมิกธงชาติประเทศต่างๆติดอยู่ที่ด้านหน้ากระเช้า ซึ่งฉันโชคดีได้นั่งกระเช้าธงชาติสิงคโปร์ บ้านหลังที่สองของฉัน และขากลับยังเห็นกระเช้าธงไตรรงค์อีกด้วยค่ะ
วิวระหว่างทางสวยเหมือนภาพโปสการ์ด กระเช้าเคลื่อนตัวสูงขึ้นไป บ้านแต่ละหลังก็เล็กลงเรื่อยๆ ฉันเริ่มเห็นแนวเขาสีเขียวทีละนิดๆ น่าเสียดายที่กระจกของกระเช้าไม่ใสกิ๊ก รอยขูดขีดมากมาย ถ่ายรูปลงมาเบื้องล่างจึงไม่สวยหมดจดเท่าตาเห็นค่ะ
แล้วฉันก็มาถึงที่ความสูง 8,036 ฟิต จากจุดนี้เราต้องต่อกระเช้าขึ้นไปอีกครั้ง และกระเช้าต่อไปนี้ เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของทริปนี้เลยค่ะ
Rotair หรือ กระเช้าแบบหมุนรอบตัว 360 องศา มีรูปทรงเหมือนจานบิน ใหญ่ขนาดจุคนได้ถึง 20 คน
กระเช้าจานบินนี้ จะหมุนไปรอบตัวระหว่างปีนป่ายความสูงไปด้วย ….. ฉันเริ่มรู้สึกโหวงๆบ้าง แต่วิวของหิมะบนยอดเขาทำให้ตื่นเต้นจนลืมความรู้สึกนั้นไปเลยค่ะ
ระยะเวลาบนกระเช้าผ่านไปไวเหมือนโกหกค่ะ ฉันไม่รู้สึกเลยว่าเราใช้เวลาถึง 45 นาทีกว่าจะถึงบนยอดเขา นั่นหมายความว่า เราต้องเตรียมเวลาเผื่อ 45 นาทีเช่นกัน ในช่วงขาลงให้ทันกับรถทัวร์ที่จะออกตอนห้าโมงเย็นใช่ไหม?
รายการเดียวที่ทัวร์นี้ไม่รวม เป็นมื้อกลางวัน ซึ่งบนยอดเขามีตัวเลือกไม่มากนัก จะทานอาหารที่ร้านอิตาเลี่ยน นั่งสบายๆ ชมวิวสวยๆ หรือจะกินแบบเร็วๆ กับร้าน Self Service ที่คิวยาวพอตัวก็ได้ หรือถ้าใครเป็นขาประจำ เคยขึ้นมาก่อน ก็หอบหิ้วอาหารมากินเองได้ เพราะที่นี่มีลาน Panorama ให้กินกลางแจ้งค่ะ
สำหรับฉันและคุณสามีขอรองท้องกันก่อนด้วยอาหารอิตาเลี่ยนบนยอดเขาทิลิสต์
น่าเสียดายที่เราไม่ได้โต๊ะนั่งติดกระจกบานใหญ่ จึงได้แต่มองวิวสวยๆผ่านโต๊ะด้านหน้า แกล้มอาหารไปพลางๆ รสชาติอาหารใช้ได้เลยค่ะ ให้ 3/5 ดาว ผ่านเกณฑ์ ไม่แย่อย่างที่คิดไว้
หลังจากมื้อกลางวัน ฉันเริ่มเวียนหัวนิดๆ อาการบนที่สูงคงจะเริ่มคลืบคลานเข้ามา เวลาเดินเหมือนพื้นไม่เท่ากัน ซึ่งไกด์ของเราเตือนไว้ก่อนว่าความสูงระดับนี้อาจทำให้เรามึนตึบได้ … ฉันรีบดึงยาดมโป๊ยเซียนที่ติดตัวขึ้นมาจรดจมูก สูดเข้าไปลึกๆ และเดินออกไปที่ข้างนอก รับอากาศสดๆ ซึ่งโชคดีมากที่ อาการทุกอย่างหายไปเป็นปลิดทิ้งค่ะ
วิวเทือกเขาแอลป์ ปกคลุมด้วยหิมะบนยอดเขา เหมือนใครทำแป้งหล่นไว้พอดิบพอดี เป็นความงามที่เกินพรรณาค่ะ
คราวนี้ก็มาถึงเวลาของกิจกรรมสนุกบนยอดเขาซึ่งมีให้เลือกหลายอย่างค่ะ ถ้าอยากจะเล่นให้ครบ ต้องเผื่อเวลาสัก 2-3 ชั่วโมงน่าเสียดายที่เราเสียเวลากับอาหารกลางวันพอสมควร จึงเล่นได้เพียง 2 กิจกรรมเท่านั้นเอง
Tilist Cliff Walk เป็นสะพานแขวนสูงที่สุดของยุโรปค่ะ ความสูงเหนือระดับทะเล 3,041 เมตร วางตัวทอดยาวจากเนินเขานึงไปสู่อีกเนินเขา
อารมณ์ขณะเดินใจหวิวว้าวบ้างเล็กน้อย แต่เวียนหัวนี่สิค่ะ หนักมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เพราะอาการบนที่สูง แต่เพราะข้างหน้ามีเจ้าเด็กน้อยวิ่งซุกซน สะพานจึงแกว่งไปมา เหวี่ยงซ้ายและขวา น่าตีก้นจริงๆ 555 ปลายสุดของสะพานเป็นลานชมวิว ซึ่งสวยงามและเห็นยอดเขาน้อยใหญ่ในรัศมีสุดสายตา
Ice Flyer เป็นกิจกรรมที่คุณสามีโปรดปรานที่สุดค่ะ กระเช้านี้เป็นกระเช้าแบบเปิด ให้เรานั่งหย่อนขา เหมือนลอยอยู่ในอากาศ คว้าเมฆ คว้าดาวได้เลยเชียว
ตอนแรกจะรู้สึกหวาดเสียวนิดๆ แต่พอนั่งไปสักพักกลับชอบใจค่ะ เริ่มออกลีลาถ่ายรูปต่างๆเท่าที่จะคิดได้
ส่วนกิจกรรมอื่นก็ยังมีเดินลอดถ้ำน้ำแข็ง Glacier park นั่งห่วงยางลงมาตามสโนว์สโล็ป เช่นเดียว กับเล่นสกี หรือเดินซื้อของที่ร้านช็อกโกแล็ต ร้านนาฬิกาบนยอดเขานี้อีกด้วยค่ะ
อุณหภูมิที่บนยอดเขาเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 6 องศาค่ะ แต่ในฤดูร้อนอย่างเช่นในวันนี้ อุณหภูมิสูงขึ้นมาแตะ 15 องศาเลย ดังนั้นแจ๊กเก็จบางๆ ตัวเดียวกับหมวกและแว่นตากันแดดก็เพียงพอจะย่ำยอดเขาทิลิสต์กันแล้ว
อย่างเดียวที่พึงระวัง เป็นรองเท้าค่ะ
รองเท้าที่จะเดินบนสโนว์ต้องมีพื้นยางที่หยักแน่นพอสมควร เพื่อให้มั่นใจว่าจะตรึงเราไว้ ไม่ให้พลัดตกเขาคอหักตาย น่าอายเป็นที่สุด
และในที่สุด ฉันก็ได้กระซิบรักกับหิมะสีขาวบนยอดเขาแห่งนี้ ความกลัวที่ติดอยู่ในใจหายไปหมดสิ้น ….
บทสรุป ทริป Mount Tilist เป็นทริปที่คุ้มแสนคุ้มค่ะ ภาพเทือกเขาสีเขียวที่เปลี่ยนเป็นแนวเขาสีขาวยังฝังอยู่ในความทรงจำ การเดินทางมาก็สะดวกสบาย นั่งรถจากซูริคเพียงแป๊ปเดียว ไม่เหนื่อยจนหมดแรง และความงามที่ได้เห็น ประเมิณค่าไม่ได้จริงๆค่ะ ดังนั้นจึงเป็นรายการทัวร์ ที่ชัวร์ว่าแนะนำสุดตัวให้ทุกคนอย่างแน่นอน สิบห้าล้านเปอร์เซนต์!!!
เว็บไซต์ของเขาทิลิสต์ www.titlis.ch/en
เว็บไซต์ของ Viator ที่จองทัวร์ www.viator.com
1 Sep 2015
0 Comments
กระซิบรักบนยอดเขาทิลิสต์ที่ความสูง 10,000 ฟุต – Switzerland
หนึ่งหมื่นฟุตนี่มันความสูงระดับน้องๆของเครื่องบินเลยนะคะ …
ฉันกลัวความสูงค่ะ ไม่ใช่สิ … ฉันไม่ได้กลัวความสูงแต่ฉันกลัวอาการที่จะเกิดขึ้นบนที่สูง จึงปฏิเสธที่จะไปปีนมาจูปิจู หรือไต่ขึ้นธิเบตหลังคาของโลกใบนี้มาตลอด
ดังนั้นการตัดสินใจขึ้นยอดเขาทิลิสต์ในวันนี้ จึงเป็นการเอาชนะความกลัวของตัวเอง เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่คิดจะเสี่ยงดูสักครั้งค่ะ
ยอดเขาทิลิสต์ตั้งอยู่ที่เมืองแองเกิลเบริก์ (Engelberg) เมืองรีสอรต์ของเหล่านักสกี
ในแต่ละวันนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ ต่างมุ่งหน้ามาพิชิตยอดเขานี้ด้วยวิธีที่ง่ายดังปอกกล้วยเข้าปาก
เมืองแองเกิลเบริก์อยู่ห่างจากซูริคเพียง 2 ชั่วโมงทางรถบัส
ฉันเลือกเป็น Day Trip แบบสบายๆ กับทัวร์ Best of Switzerland ในราคาคนละ 170 ฟรังก์ หรือประมาณ 6,100 บาทค่ะ
ทัวร์เริ่มต้นที่เมืองลูเซินต์ ซึ่งจะเล่าในอีกโพสค่ะ
ราคาทัวร์รวมค่าขึ้นยอดเขาทั้งหมด และกิจกรรมหวาดเสียวบนความสูง 10,000 ฟิต ที่จะเล่าให้ฟังในอีกไม่ช้าค่ะ
ฉันขึ้นยอดเขาด้วยกระเช้าลอยฟ้าซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ระดับค่ะ
สองระดับแรกเป็นกระเช้าลอยฟ้ารุ่นธรรมดา หน้าตาเหมือนกระเช้าทั่วไป นั่งได้ 4-6 คน มีกิมมิกธงชาติประเทศต่างๆติดอยู่ที่ด้านหน้ากระเช้า ซึ่งฉันโชคดีได้นั่งกระเช้าธงชาติสิงคโปร์ บ้านหลังที่สองของฉัน และขากลับยังเห็นกระเช้าธงไตรรงค์อีกด้วยค่ะ
วิวระหว่างทางสวยเหมือนภาพโปสการ์ด กระเช้าเคลื่อนตัวสูงขึ้นไป บ้านแต่ละหลังก็เล็กลงเรื่อยๆ ฉันเริ่มเห็นแนวเขาสีเขียวทีละนิดๆ น่าเสียดายที่กระจกของกระเช้าไม่ใสกิ๊ก รอยขูดขีดมากมาย ถ่ายรูปลงมาเบื้องล่างจึงไม่สวยหมดจดเท่าตาเห็นค่ะ
แล้วฉันก็มาถึงที่ความสูง 8,036 ฟิต จากจุดนี้เราต้องต่อกระเช้าขึ้นไปอีกครั้ง และกระเช้าต่อไปนี้ เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของทริปนี้เลยค่ะ
Rotair หรือ กระเช้าแบบหมุนรอบตัว 360 องศา มีรูปทรงเหมือนจานบิน ใหญ่ขนาดจุคนได้ถึง 20 คน
กระเช้าจานบินนี้ จะหมุนไปรอบตัวระหว่างปีนป่ายความสูงไปด้วย ….. ฉันเริ่มรู้สึกโหวงๆบ้าง แต่วิวของหิมะบนยอดเขาทำให้ตื่นเต้นจนลืมความรู้สึกนั้นไปเลยค่ะ
ระยะเวลาบนกระเช้าผ่านไปไวเหมือนโกหกค่ะ ฉันไม่รู้สึกเลยว่าเราใช้เวลาถึง 45 นาทีกว่าจะถึงบนยอดเขา นั่นหมายความว่า เราต้องเตรียมเวลาเผื่อ 45 นาทีเช่นกัน ในช่วงขาลงให้ทันกับรถทัวร์ที่จะออกตอนห้าโมงเย็นใช่ไหม?
รายการเดียวที่ทัวร์นี้ไม่รวม เป็นมื้อกลางวัน ซึ่งบนยอดเขามีตัวเลือกไม่มากนัก จะทานอาหารที่ร้านอิตาเลี่ยน นั่งสบายๆ ชมวิวสวยๆ หรือจะกินแบบเร็วๆ กับร้าน Self Service ที่คิวยาวพอตัวก็ได้ หรือถ้าใครเป็นขาประจำ เคยขึ้นมาก่อน ก็หอบหิ้วอาหารมากินเองได้ เพราะที่นี่มีลาน Panorama ให้กินกลางแจ้งค่ะ
สำหรับฉันและคุณสามีขอรองท้องกันก่อนด้วยอาหารอิตาเลี่ยนบนยอดเขาทิลิสต์
น่าเสียดายที่เราไม่ได้โต๊ะนั่งติดกระจกบานใหญ่ จึงได้แต่มองวิวสวยๆผ่านโต๊ะด้านหน้า แกล้มอาหารไปพลางๆ รสชาติอาหารใช้ได้เลยค่ะ ให้ 3/5 ดาว ผ่านเกณฑ์ ไม่แย่อย่างที่คิดไว้
หลังจากมื้อกลางวัน ฉันเริ่มเวียนหัวนิดๆ อาการบนที่สูงคงจะเริ่มคลืบคลานเข้ามา เวลาเดินเหมือนพื้นไม่เท่ากัน ซึ่งไกด์ของเราเตือนไว้ก่อนว่าความสูงระดับนี้อาจทำให้เรามึนตึบได้ … ฉันรีบดึงยาดมโป๊ยเซียนที่ติดตัวขึ้นมาจรดจมูก สูดเข้าไปลึกๆ และเดินออกไปที่ข้างนอก รับอากาศสดๆ ซึ่งโชคดีมากที่ อาการทุกอย่างหายไปเป็นปลิดทิ้งค่ะ
วิวเทือกเขาแอลป์ ปกคลุมด้วยหิมะบนยอดเขา เหมือนใครทำแป้งหล่นไว้พอดิบพอดี เป็นความงามที่เกินพรรณาค่ะ
คราวนี้ก็มาถึงเวลาของกิจกรรมสนุกบนยอดเขาซึ่งมีให้เลือกหลายอย่างค่ะ ถ้าอยากจะเล่นให้ครบ ต้องเผื่อเวลาสัก 2-3 ชั่วโมงน่าเสียดายที่เราเสียเวลากับอาหารกลางวันพอสมควร จึงเล่นได้เพียง 2 กิจกรรมเท่านั้นเอง
Tilist Cliff Walk เป็นสะพานแขวนสูงที่สุดของยุโรปค่ะ ความสูงเหนือระดับทะเล 3,041 เมตร วางตัวทอดยาวจากเนินเขานึงไปสู่อีกเนินเขา
อารมณ์ขณะเดินใจหวิวว้าวบ้างเล็กน้อย แต่เวียนหัวนี่สิค่ะ หนักมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เพราะอาการบนที่สูง แต่เพราะข้างหน้ามีเจ้าเด็กน้อยวิ่งซุกซน สะพานจึงแกว่งไปมา เหวี่ยงซ้ายและขวา น่าตีก้นจริงๆ 555 ปลายสุดของสะพานเป็นลานชมวิว ซึ่งสวยงามและเห็นยอดเขาน้อยใหญ่ในรัศมีสุดสายตา
Ice Flyer เป็นกิจกรรมที่คุณสามีโปรดปรานที่สุดค่ะ กระเช้านี้เป็นกระเช้าแบบเปิด ให้เรานั่งหย่อนขา เหมือนลอยอยู่ในอากาศ คว้าเมฆ คว้าดาวได้เลยเชียว
ตอนแรกจะรู้สึกหวาดเสียวนิดๆ แต่พอนั่งไปสักพักกลับชอบใจค่ะ เริ่มออกลีลาถ่ายรูปต่างๆเท่าที่จะคิดได้
ส่วนกิจกรรมอื่นก็ยังมีเดินลอดถ้ำน้ำแข็ง Glacier park นั่งห่วงยางลงมาตามสโนว์สโล็ป เช่นเดียว กับเล่นสกี หรือเดินซื้อของที่ร้านช็อกโกแล็ต ร้านนาฬิกาบนยอดเขานี้อีกด้วยค่ะ
อุณหภูมิที่บนยอดเขาเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 6 องศาค่ะ แต่ในฤดูร้อนอย่างเช่นในวันนี้ อุณหภูมิสูงขึ้นมาแตะ 15 องศาเลย ดังนั้นแจ๊กเก็จบางๆ ตัวเดียวกับหมวกและแว่นตากันแดดก็เพียงพอจะย่ำยอดเขาทิลิสต์กันแล้ว
อย่างเดียวที่พึงระวัง เป็นรองเท้าค่ะ
รองเท้าที่จะเดินบนสโนว์ต้องมีพื้นยางที่หยักแน่นพอสมควร เพื่อให้มั่นใจว่าจะตรึงเราไว้ ไม่ให้พลัดตกเขาคอหักตาย น่าอายเป็นที่สุด
และในที่สุด ฉันก็ได้กระซิบรักกับหิมะสีขาวบนยอดเขาแห่งนี้ ความกลัวที่ติดอยู่ในใจหายไปหมดสิ้น ….
บทสรุป ทริป Mount Tilist เป็นทริปที่คุ้มแสนคุ้มค่ะ ภาพเทือกเขาสีเขียวที่เปลี่ยนเป็นแนวเขาสีขาวยังฝังอยู่ในความทรงจำ การเดินทางมาก็สะดวกสบาย นั่งรถจากซูริคเพียงแป๊ปเดียว ไม่เหนื่อยจนหมดแรง และความงามที่ได้เห็น ประเมิณค่าไม่ได้จริงๆค่ะ ดังนั้นจึงเป็นรายการทัวร์ ที่ชัวร์ว่าแนะนำสุดตัวให้ทุกคนอย่างแน่นอน สิบห้าล้านเปอร์เซนต์!!!
เว็บไซต์ของเขาทิลิสต์ www.titlis.ch/en
เว็บไซต์ของ Viator ที่จองทัวร์ www.viator.com
Related Posts: