My Busan Diary : 10 Hours Journey

10 ชั่วโมงในปูซาน คงไม่ทำให้เรารู้จักเมืองใหญ่อันดับสองของเกาหลีใต้ได้ลึกนัก แต่การเที่ยวแบบผิวเผินครั้งนี้ กลับทำให้ใครบางคนรู้ใจตัวเองค่ะ เพราะหลังจากสิ้นวัน ทริปจบลง ในขณะที่เรานั่งรถไฟความเร็วสูงกลับสู่กรุงโซล คุณชายก็เปรยว่า “ปูซานนี่เหมือนโอซาก้านะ เป็นเมืองใหญ่ที่มีความใหม่ก็จริงแต่ก็มีความเก่าแบบไม่ปรุงแต่ง ไม่ประดิษฐ์อย่างศัลกรรมเกาหลี” ปีหน้าเรามาเที่ยวที่ปูซานกันอีกนะ จูน … “ค่ะ” ฉันตอบและยิ้มรับด้วยสายตา ก่อนจะหลับตาลงและคิดวางแผนการเดินทางในหัวทันทีสำหรับทริปอีก 12 เดือนข้างหน้านี้

วันที่ 7 เมษายน 2560 (โซล – ปูซาน)

ฉันมาถึงสถานีรถไฟกรุงโซล (Seoul Station) จุดเชื่อมต่อโซลกับส่วนต่างๆของเกาหลีใต้ตอน 7.20 น. เรานั่งแท็กซี่จาก Lotte Hotel Seoul โดยใช้เวลาเพียง 15 นาที ผ่านการจราจรที่ปลอดโปร่งในเมืองหลวงของชั่วโมงเร่งด่วนตอนเช้าด้วยค่าแท็กซี่เพียง 5,000 วอน หรือประมาณ 150 บาทค่ะ

อีก 30 นาที ล้อรถไฟจะหมุนแล้ว ฉันมีเวลาซื้ออาหารเช้าที่ร้านเบเกอร์รี่โปรด Paris Croissant เพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งน้ำกีวีคั้นสดและแซนด์วิชไข่ เป็นสองเมนูที่เลือกขึ้นไปกินบนรถไฟด่วน KTX ที่จะมุ่งหน้าไปยังปูซาน เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศในเวลา 2 ชั่วโมง 57 นาที


(ปล. ฉันซื้อตั๋ว Korail Pass 1 วันสำหรับนักท่องเที่ยว และเอามาแลกเป็นตั๋วรถไฟด่วน ตั้งแต่วันที่เดินทางมาถึงโซลแล้วค่ะ เช้านี้จึงไม่ต้องเสียเวลาในขั้นตอนนี้อีก)

Korail Pass 1 Day จองผ่านอินเตอร์เน็ต (ลิงค์) และนำ E-ticket มาแลกเป็นบัตร Korail Pass ตามรูปได้ที่สถานีารถไฟใหญ่ๆ บัตรนี้สำคัญมาก ต้องเก็บไว้กับตัว เพราะถ้าเกิดพลาดเที่ยวรถไฟ ต้องใช้บัตรนี้แลกตั๋วใหม่ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ถ้าอยู่ในเวลาที่กำหนด 

ตั๋วรถไฟจะระบุหมายเลขของขบวน (113) เลขที่ของตู้ (15) และที่นั่งของเราค่ะ (10A) ขบวนรถไฟของเราอยู่ที่ชานชลาไหน ดูหมายเลขชานชลาได้จากจอทีวีใหญ่ในสถานี และควรมาถึงตู้รถของเราก่อนรถไฟออกสัก 10-15 นาทีค่ะ

ตั๋วรถไฟ

สภาพของรถไฟ ไม่ต่างจากที่คิดไว้ มาตราฐานเดียวกับรถไฟในญี่ปุ่นและสวิตเซอร์แลนด์ สองประเทศที่มีระบบรถไฟดีที่สุดของโลก …

ขนาดของเก้าอี้ใหญ่ นั่งสบาย โต๊ะพับวางของได้เยอะ รอบตัวยังมีที่ชาร์ต USB และที่แขวนของอีก เช่นเดียวกับ Free Wifi แต่ฉันไม่ได้ใช้บริการนี้ เพราะ Sim2Fly ของ AIS ชัดและแรงตลอดเส้นทางค่ะ

ภายในตู้ขบวนรถไฟ

สิ่งอำนวยความสะดวกสบาย

ห้องน้ำ

10.15 นาที รถไฟจอดสนิทที่สถานีปูซาน เวลาถึงที่คลาดเคลื่อนไปเกือบ 10 นาที (จากที่ต้องถึง 10.07 น.) ทำให้ฉันและคุณชายประหลาดใจว่ารถไฟเกาหลีไม่เที่ยงตรงเหมือนญี่ปุ่นหรือ?

ทริปปูซานวันนี้ ฉันตั้งใจมาดูหมู่บ้านสีลูกกวาด Gamchoen Cultural Village และเวลาที่เหลือของวันก็เปิดโล่งให้กับรายการอื่นๆที่ไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า

และที่โถงรถไฟของสถานีปูซาน เจ้าหน้าที่สาวตรงจุด Information Counter ก็ช่วยฉันได้มากค่ะ ฉันบอกเธอว่า เรามีเวลาเท่านี้และอยากไปที่ Gamchoen Cultural Village กับดูซากุระสักที่ เธอจึงวงจุดที่ตั้งต่างๆในแผนที่และอธิบายด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงดีให้ฟังอย่างชัดเจน และเราก็สำรวจปูซานตามที่เธอแนะนำ

Busan Gamcheon Culture Village

หลายคนตั้งชื่อหมู่บ้านนี้ว่า “มาจูปิจูของเกาหลี” หรือ “ซานโตรินี่ออฟเอเชีย” แต่สำหรับฉันที่นี่เป็น “หมู่บ้านสีลูกกวาด” หรือ Candy Town แห่งปูซานค่ะ


Gamcheon Cultural Village ตั้งอยู่บนเนินเขาไม่ไกลจากใจกลางเมือง บ้านเรือนที่เรียงรายตามไหล่เขาอย่างแออัดกลายเป็นภาพที่น่ามองสำหรับคนที่มาจากประเทศที่มีแต่พื้นราบอย่างบ้านเรา ยิ่งบ้านแต่ละหลังถูกทาด้วยสีพาสเทล แต้มด้วยงานศิลปะสวยเก๋ตามกำแพง หลังคา ทางเดิน จึงทำให้หมู่บ้านสีลูกกวาดนี้ กลายเป็นพื้นที่ที่น่าเที่ยวที่สุดแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ไปเลยค่ะ

ใครมาเที่ยวหมู่บ้านสีลูกกวาด Gamchoen Cultural Village ควรซื้อแผนที่ชมเมืองที่ศูนย์นักท่องเที่ยวในราคา 2,000 วอน พร้อมกับเล่นเกมส์ประทับตราตามล่าจุดถ่ายรูปกับงานศิลปะในหมู่บ้านด้วยนะคะ

Little Prince งานปั้นที่คนต่อคิวยาวที่สุดของ Gamchoen Cultural Village

แต่นอกจากทางเดินที่แนะนำในแผนที่แล้ว การเดินลัดเลาะตามตรอกซอกซอยด้วยตัวเอง ก็จะทำให้เราได้เห็นงานศิลปะ ชิ้นอื่นที่แฝงอยู่เช่นกัน

ข้อควรระวังของการท่องเที่ยวในหมู่บ้านนี้คือระดับเสียงค่ะ อย่าลืมว่าตรงนี้เป็นหมู่บ้านที่มีคนอยู่อาศัยอยู่กันจริงๆ ความเกรงใจเป็นสิ่งที่สำคัญ มากเช่นเดียวกับการรักษาความสะอาดค่ะ

ที่ตั้ง 203, Gamnae 2-ro, Saha-gu, Busan

การเดินทาง

  • แท็กซี่จาก Busan Station ใช้เวลา 15 นาที ค่าแท็กซี่ 6,000 วอน หรือประมาณ 180 บาท (แนะนำสำหรับคนที่มีเวลาน้อยค่ะ)
  • นั่งรถไฟฟ้า Goejeong Station (Subway Line 1) exit 6 และต่อรถบัส Sakha 1-1 ไปที่ Gamcheon Elementary School
  • นั่งรถไฟฟ้า Toseong Station (Subway Line 1) exit 6 และต่อรถบัส Saha 1-1, Seogu 2-2 หรือ Seogu 2 ไปที่ Gamchoen Elementary School Bus Stop

Lotte Department Store

หลังจากหมู่บ้านสีลูกกวาด เราก็นั่งแท็กซี่กลับมาใจกลางเมืองกันอีกครั้ง คราวนี้เราแวะมากินข้าวเที่ยงกันที่ Lotte Departmane Store โดยตั้งใจว่าหลังจากมื้อเที่ยงก็จะใช้พิกัดนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการสำรวจนัมโป (Nampo) ย่านเก่าแก่ใจกลางเมืองปูซาน

และร้านสำหรับมื้อเที่ยงนี้ก็อยู่ที่ Food Court ค่ะ เป็นเคาน์เตอร์ที่คนแน่นที่สุดของชั้นอาหารจนต้องเพิ่มโต๊ะริมทางเดินและเราก็ต้องรอที่ว่างอยู่ประมาณ 10 นาที

ฉันสั่ง Sliced Pork Boston Butt with Soy Sauce on the Rice (7,900 วอน) และคุณชายสั่ง A Bowl of Rice Top with Fresh Salmon (9,900 วอน) ซึ่งรสชาติทั้งสองชาม บอกเลยว่าอร่อยเด็ด เรากินกันเกลี้ยง และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลูกค้าร้านนี้ถึงเนื่องแน่นมากกว่าร้านอื่น

ที่ตั้ง 772, Gaya-daero, Busanjin-gu, Busan

การเดินทาง เรานั่งแท็กซี่มาจาก Gamchoen Cultural Village ในราคาประมาณ 6,000 วอนค่ะ หรือ Nampo Station (Busan Subway Line 1) Exit 10

เปิด ปิด 10.30 – 20.00 น. ทุกวัน

 

Yeongdodaegyo Bridge

นี่เป็นภาพประวัติศาสตร์ของฉันที่ปูซานเลยค่ะ ความรู้สึกตอนถ่ายรูปอยู่กลางถนนโดยมีฉากหลังเป็นสะพานยกได้ เหมือนได้ปักธงอยู่บนยอดเขาเอเวเรสต์ เพราะอะไรนะหรือค่ะ? ก็เพราะเจ้าสะพานนี้จะยกขึ้นเพียงวันละครั้งเท่านั้น ซึ่งฉันไม่ได้คิดฝันเลยว่าจะได้เห็น แต่เป็นโบนัสที่เดินออกมาเจอพอดี และยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่ยืนถ่ายรูป คงเป็นนาทีสุดท้ายที่สะพานกำลังจะปิดลง นักท่องเที่ยวหลายสิบคนจึงเดินออกไป กลายเป็นฉันคนเดียวที่ยืนยิ้มอยู่ตีนสะพานตามรูปภาพที่ภูมิใจที่สุดรูปนี้

Yeongdodaegyo Bridge เป็นสะพานเชื่อมสองย่านใหญ่ของปูซานเข้าด้วยกันและเป็นสะพานยกแห่งแรกของเมืองค่ะ

สะพานเหล็กสีแดงนี้มีรูปฝูงนกนางนวลโบยบินอยู่บนพื้นสะพาน เป็นความช่างคิดของคนปูซาน ซึ่งพอสะพานถูกยกขึ้นมา ทั้งคนเดินถนนและคนที่นั่งอยู่ในรถ ก็ยิ้มรับกับศิลปะเล็กๆน้อยๆนี้กันทันที

สะพานนี้อยู่ทางด้านซ้ายมือของ Lotte Deparment Store ถ้าอยากชมก็เพียงเดินออกมาที่ลานด้านหน้าห้าง และเลี้ยวซ้าย เดินตรงสัก 5 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ

ที่ตั้ง Taejong-ro, Yeongdo-gu, Busan

การเดินทาง สถานี Nampo Station (Busan Subway Line 1) Exit 6 or 8

เวลายกสะพาน 14.00-14.15 น. ของทุกวัน

 

Jagalchi Market

ถัดจากสะพานยกด้านข้างของห้างล้อตเต้ คุณชายก็พาฉันเดินลัดเลาะมาที่ตลาดอาหารทะเลชื่อดังของปูซานค่ะ ในบ่ายวันนี้ Jagalchi Market ตลาดอาหารทะเลสดใหญ่ที่สุดของประเทศก็ยังคงคึกคักอยู่ ตามทางเดินมีร้านอาหารซีฟู้ดอยู่หลายร้าน ล้วนเชิญชวนลูกค้าให้เข้าไปกินด้วยท่าทียิ้มแย้ม แต่เราเพิ่งกินอิ่มกันมา จึงขอเดินชมแค่ความสดและความใหญ่ของกุ้ง หอย ปู ปลาที่วางขายในตลาดนี้ เช่นเดียวกับเดินชมบรรยากาศของตลาดที่มีคุณป้ายังสาว (และสาวน้อยลงทุกที) เป็นคนขายเกือบทุกร้าน จนเป็นที่มาของชื่อ Jagalchi Ajumma ซึ่งมีความหมายว่าตลาดอาหารทะเลที่มนุษย์ป้าเป็นแม่ค้าค่ะ (ajumma แปลว่าหญิงสาววัย กลางคนในภาษาเกาหลีค่ะ)

ที่ตั้ง 52, Jagalchihaean-ro, Jung-gu, Busan

การเดินทาง Jagalchi Station (Busan subway line 1) Exit 10 แล้วเดินเลี้ยวขวาเข้า Jagalchi 3 (sam)-gil Street เดินประมาณ 5 นาทีและเลี้ยวซ้ายเข้า Jagalchi Market

เปิด ปิด 5.00 – 22.00 น. ปิดวันอังคาแรก และที่สามของเดือน

 

Gukje Market

ตลาดต่างๆในย่านนัมโปล้วนอยู่ใกล้กันในรัศมีที่เดินถึงได้ และหลังจากชมตลาดอาหารทะเลใหญ่ที่สุดของเกาหลี ใต้เสร็จ คุณชายก็มุ่งหน้าไปยัง Gukje Market อีกตลาดขายของที่เกิดขึ้นหลังจากสงคราเกาหลี

พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพที่หนีสงครามมาอยู่ในปูซาน เปิดร้านขายของเพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเอง จึงกลายเป็นตลาดขนาดใหญ่อีกแห่งที่ขายสินค้ามากมาย ทั้งข้าวของเครื่องใช้ หมวก รองเท้า เสื้อผ้า และของกระจุกกระจิก รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย อารมณ์ของ Gukje Market คล้ายกับสำเพ็งค่ะ

ที่นี่ยังมีถนนอาหารแทรกตัวอยู่ด้วย ซึ่งก็มีมนุษย์ป้าเป็นแม่ค้าเช่นกัน ฉันเดาว่าผู้หญิงเกาหลีในยุคสงคราม และหลังสงคราม คงต้องวางอาชีพแม่บ้างลงและออกมาช่วยผู้ชายหารายได้เลี้ยงครอบครัว … น่าเสียดายที่ฉัน และคุณชายังอิ่มอยู่ และการสื่อสารกับแม่ค้าก็ยากเย็นเหลือเกิน ไม่อย่างนั้นนะ ฉันคงจะนั่งลงกินอาหาร เป็น ลูกค้าอีกคนขอร้านริมถนนนี้แน่นอนค่ะ

ที่ตั้ง 36, Junggu-ro, Jung-gu, Busan

การเดินทาง Jagalchi Station (Busan Subway Line 1) Exit 7 เดินอีก 30 เมตร เลี้ยวซ้าย เดินตรงอีก 5 นาที ถึงตลาด

เปิด ปิด 9.00-20.00 น. ปิดทุกวันอาทิตย์แรกและที่สามของเดือน

 

BIFF Square

BIFF ย่อมาจาก Busan International Film Festival มหกรรมภาพยนต์ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย และของโลก จตุรัสภาพยนตร์นานาชาติแห่งนี้เป็นที่จัดงานรวมดาราและผู้กำกับจากทั่วโลกมาแล้วตั้งแต่ปี 1996 กว่าทศวรรษที่ถนน Star Street พิมพ์มือและลายเซ็นต์ของคนดังทิ้งไว้ให้เราได้ชื่นชม และที่นี่ก็เป็นอีกโมเม้นต์ แห่งความสุขของคุณชาย คนที่รักการดูหนังคนหนึ่งที่ฉันรู้จักค่ะ

ที่ตั้ง 20, BIFF gwangjang-ro, Jung-gu, Busan

การเดินทาง สถานี Jagalchi Station (Busan Subway Line 1) Exit 7 และเดินประมาณ 5 นาที

www.biff.kr

Gwangbok-dong Cultural & Fashion Street

ถ้าจะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ที่นี่ก็คือสยามสแควร์ของไทยแลนด์ หรือเมียงดงของกรุงโซลค่ะ ร้านรวงในย่านนี้ คล้ายกับเมียงดงตั้งแต่ร้านเครื่องสำอางไปจนถึงคาเฟ่ดังๆทั้งหลาย เราถ่ายรูปงานศิลปะชิ้นนี้ที่คุณชายบอกว่า เป็นย่านนัดพบของวัยรุ่นเกาหลี และเดินชมอีกสักพักก็ออกเดินทางไปชมซากุระกันต่อ … ที่นี่ไม่ใช่ไม่มีอะไรให้ เดินนะคะ แต่ที่เรารวบรัดก็เพราะถ้าเดินต่อไป คงต้องได้ช้อปปิ้งกันแน่นอน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น เราจึงตัดใจไปเที่ยวที่อื่นต่อในปูซาน และกลับไปช้อปปิ้งที่กรุงโซลก่อนบินกลับกรุงเทพในอีก 3 วันข้างหน้า

ที่ตั้ง Sinchang-dong & Gwangbok-dong, Jung-gu, Busan

การเดินทาง Nampo Station (Busan subway line 1) Exit 1

 

Samnak Ecological Park (Cherry Blossom)

ระหว่างทางที่รถไฟด่วนวิ่งลงใต้มุ่งสูงปูซาน ภาพต้นซากุระก็เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ อุณหภูมิที่ปูซานร้อนกว่าโซล 4-5 องศา และนั่นจึงทำให้ดอกซากุระบานไวกว่าเมืองที่อยู่ทางเหนือ … คุณชายผู้มีอารมณ์สุนทรียร์ ถามเจ้าหน้าที่ ประชาสัมพันธ์ถึงจุดชมซากุระที่ปูซาน เธอจึงแนะนำให้มาที่นี่ Samnak Ecological Park ซึ่งถูกยกให้เป็น 1 ใน 100 จุดชมซากุระที่งดงามที่สุดของประเทศเกาหลีใต้

แท็กซี่จากย่านนัมโปมาที่สวนนี้ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงค่ะ สภาพการจราจรในปูซานของบ่ายวันนี้ค่อนข้างแน่น ค่าแท็กซี่อยู่ที่ 11,800 วอน หรือประมาณ 370 บาท

ทางเดินและลู่จักรยานริมทะเลสาบของ Samnak Eco Park ในวันนี้ ถูกปกคลุมไปด้วยสีหวานๆของดอกซากุระ … พื้นถนนเกลื่อนไปด้วยกลีบดอกไม้สีขาวอมชมพู และทุกครั้งที่ลมพัดมาเบาๆ กลีบของดอกไม้ที่ทุกคนรอคอย ปีละครั้งก็ร่วงลงสู่พื้น เป็นภาพอุโมงค์ต้นซากุระที่งดงามที่สุดที่เคยเห็นมาเลยค่ะ

ข้อควรระวังของการมาชมซากุระที่นี่คือระยะทางและการเดินทาง ที่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร และห้องน้ำที่มี จำนวนน้อย แต่ก็ขอเข้าได้ตามปั้มน้ำมัน คาเฟ่ และร้านอาหารข้างทางค่ะ

ที่ตั้ง 686, Samnak-dong, Sasang-gu, Busan-si

การเดินทาง แท็กซี่จากย่านนัมโปใช้เวลา 15-30 นาทีแล้วแต่สภาพการจราจร ราคาประมาณ 10,000-13,000 วอน หรือรถไฟฟ้าสถานี Sasang Station (Line 2) ทางออก 3 และเดินอีก 15 นาทีไปทาง Nakdonggang River

 

Other Attractions

ถ้าไม่ใช่ช่วงซากุระบาน ในปูซานก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น Yongdusan Park (Busan Tower) และ Taejongdae ที่อยู่ในย่านนัมโป (Nampo) หรือถ้ามีเวลามากกว่านั้นย่าน Gwangalli และ Haeundae ก็ยังมี อะไรให้สำรวจ ซึ่งปีหน้าฉันว่าเราคงได้เจอกันอีกแน่นอนค่ะ … ปูซาน