เที่ยวไทยไปกับ จูน ศศิวิมล : อุทัยธานี – สุโขทัย – อุตรดิตถ์ – พิษณุโลก (3 วัน 2 คืน)

อุทัยธานี

วัดจันทาราม

3 ชั่วโมง จากสุขุมวิท ถึงอุทัยธานี วัดจันทาราม คือจุดหมายแรกของเส้นทางเที่ยวไทยไปกับจูน ศศิวิมล

วัดจันทาราม หรือชื่อที่รู้จักกันว่า “วัดท่าซุง” เป็นวัดเก่าแก่ศักด์สิทธิ์ของจัดหวัดอุทัยธานี มีวิหารแก้ว 100 เมตร เป็น amazing อุทัยธานี … มาแล้วก็ต้องแวะชมสักครั้งหนึ่ง

หลังจากตะลึงด้วยความศรัทธา ก็เข้าไปสักการะพระพุทธชินราชจำลอง องค์ใหญ่สีทอง ขอพร และอย่าลืมปฏิบัติตนเป็นคนดีของโลกด้วย

วิหารแก้ว 100 เมตร เสาของอุโบสถ์ตกแต่งด้วยโมเสกแก้ว ระยิบระยับ เรืองรอง เหมือนเมืองสวรรค์

ปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ประชาชนถวาย เปิดให้เข้าชมฟรี สวยงามทั้งภายนอกและภายในด้วยศิลปะแบบไทย ทองคำเปลว และกระจกสี

สวนอาหารนกน้อย

หลังจากสักการะเสร็จ เราไปกินข้าวเที่ยงที่สวนอาหารนกน้อย ร้านอาหารเก่าแก่ มีชื่อเสียงของจังหวัดอุทัยธานีใกล้กับวัดท่าซุง

เมนูประจำวัน

สวนอาหารนกน้อย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสะแกกรัง และมุมถ่ายรูปวินเทจ

สุโขทัย

3 ชั่วโมงจากอุทัยธานีถึงสุโขทัย จุดหมายของอีก 2 คืนข้างหน้า เมืองมรดกโลก ราชอาณาจักรแรกของสยามประเทศ กับประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 780 ปี เราจึงเลือกพักในโรงแรมที่สะท้อนศิลปะวัฒนาธรรมของยุครุ่งเรืองนี้

สุโขทัยมีความหมายว่า รุ่งอรุณแห่งความสุข (สุข + อุทัย)

Sriwilai Sukhothai

ศรีวิไลสุโขทัย (Sirwilai Sukhothai) บูติกรีสอร์ทขนาดกะทัดรัด (52 ห้อง) ก่อสร้างด้วยศิลปะในยุคสุโขทัย+ล้านนา มีอาณาบริเวณกว้างขวาง อาคารห้องพักสูงเพียง 2 ชั้น นอกจากพื้นที่ก็เปิดโปร่ง โล่งสบาย กินข้าวเย็นเสร็จ ก็มีที่ทางให้เดินย่อยรอบบ่อน้ำบริเวณหน้าห้องพัก เช้าตรู่ก็ไปนั่งเล่นตรงสระว่ายน้ำใหญ่ ชมวิวพาโนรามาของท้องทุ่งนา ช่วงปลายปีอากาศเย็นสบาย แค่นั่งชิลๆ สัมผัสลมหนาวก็มีความสุขแล้วค่ะ

บทสรุป เป็นรีสอร์ตที่อยู่สบาย (มาก) และบริการเป็นมิตร Highly Recommend ค่ะ (ราคาห้องพัก คืนละ 3,500 – 5,000 บาท http://sriwilaisukhothai.com)

กำแพงอิฐทางเข้าโรงแรม

ล็อบบี้โปร่ง

บริเวณของที่พัก

สถาปัตยกรรม

ห้องนอน และเฉลียง มองเห็นทุ่งนา


ห้องน้ำ และอุปกรณ์เครื่องใช้ที่ช่วยรักษ์โลก ลดการใช้พลาสติก แบบครั้งเดียวทิ้ง

สระว่ายน้ำ วิวทุ่งหญ้า คาบาน่าสวยเก๋

สนามหญ้า และบึงน้ำ ที่มีเจดีย์เก่าเป็นฉากหลัง (ถ่ายช่วงพระอาทิตย์ตกดิน แสงสวยประทับใจ)

ห้องอาหารเช้า แบบ a la carte ในวันที่แขกน้อย และแบบบุฟเฟ่ในวันที่แขกเยอะ

Spa นวดแผนไทย

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มีพื้นที่ครอบคลุมศูนย์กลางการปกครองของราชธานีสุโขทัยในอดีต ปัจจุบันคือตำบลเมืองเก่า วัดมหาธาตุเป็นศูนย์กลางของราชธานีในยุคที่ศาสนาพุทธรุ่งเรืองสุดขีด เป็นวัดสำคัญที่ของสุโขทัย เทียบได้กับวัดพระแก้วในยุครัตนโกสินทร์ ประกอบไปด้วยเจดีย์ประธาน (ทรงดอกบัวตูม) วิหาร มณฑป และเจดีย์รายรอบจำนวนมากถึง 200 องค์ (เปิดทุกวัน 6.00 – 21.00 น. โดยเวลา 19.00 – 21.00 น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน ตั๋ว 10 บาทสำหรับคนไทย)

นอกจากนั้นยังมีเนินปราสาท วัดศรีสวาย วัดตระพังเงิน วัดสระศรี วัดชนะสงคราม ที่เป็นโบราณสถานในเขตกำแพงเมืองให้ชม

พระพุทธรูปในยุคสุโขทัยก็ถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความงดงามที่สุด

คูน้ำล้อมรอบวัดมหาธาตุ และบรรยากาศช่วงโพลเพล้ เจดีย์กว่า 200 องค์ ทรงพุ้มข้าวบิณฑ์ หรือทรงดอกบัวตูม ศิลปะเฉพาะของยุคสุโขทัย

ช่วงเดือนตุลาคม ดอกไม้เบ่งบาน กลิ่นหอมอบอวล อากาศเย็นสบาย

วัดศรีชุม

อีกวัดสำคัญที่อยู่นอกกำแพงเมือง ประดิษฐานพระอัจนะ พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระพุทธรูปนั่งขนาดใหญ่สร้างเต็มพื้นที่ภายในอุโบสถ์ เป็นพระพุทธรูปที่คนเฒ่าคนแก่เชื่อว่าเป็นพระพูดได้ เหตุเกิดเมื่อครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยกทัพไปปราบกบฏที่เมืองสวรรค์โลก ท่านได้ให้นายทหารขึ้นไปด้านหลังพระอัจนะ และพูดให้กำลังใจแก่ทหารที่กำลังจะออกรบ จึงเป็นที่มาของความเชื่อนี้

ปัจจุบันวัดศรีชุม เป็นอีกวัดที่นักท่องเที่ยวแวะมาสักการะและถ่ายรูปกับพระกรใหญ่ และช่องแสงที่เห็นใบหน้าของพระพุทธรูป

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย

ศรีสัชนาลัย (เมืองเชลียง) อยู่ห่างจากสุโขทัยประมาณ 60 กิโลเมตร มีสภาพภูมิประเทศอุดมสมบูรณ์ เพราะอยู่บนพื้นดินราบลุ่มริมแม่น้ำยม ด้านหลังเป็นแนวเขาพระศรี เหมาะเป็นจุดยุทธศาสตร์และตั้งถิ่นฐาน จึงถูกยกให้เป็นเมืองลูกหลวงของสุโขทัยในอดีต มีโบราณสถานทั้งหมดกว่า 200 แห่ง

บรรยากาศของอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย (คนน้อย และเงียบสงบกว่าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย)

วัดช้างล้อม เป็นวัดสำคัญที่มีเจดีย์ทรงลังกาตรงกลาง ฐานเป็นช้างปูนปั้นล้อมกว่า 39 เชือก

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (วัดพระปรางค์) เป็นวัดศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองเชลียง อยู่ห่างจากอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัจชนาลัยประมาณ 5 – 10 นาที

ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย เจ๊แฮ

สุโขทัยมีร้านอร่อยและขนมเลื่องชื่อมากมาย เช่น ขนมเกลียว ขนมผิง หรือถั่วทอด แต่ด้วยความขี้เกียจ ตั้งใจมาพักผ่อน ป้าเลยปิดสวิทซ์ทำงาน ยอมออกจากโรงแรมมากินก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยเจ๊แฮ ร้านดังที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม สั่งก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย และขนมเบื้องสุโขทัย หน้าตาคล้ายขนมเบื้องญวนมากิน ลาดด้วยน้ำจิ้มอาจาด อร่อยดีค่ะ (6/10 ม.12 ต. บ้านกล้วย อ.เมือง สุโขทัย)

อุตรดิตถ์

เมืองลับแล

หลังจากมื้อเช้าแสนอิ่มของโรงแรม วันนี้เรามุ่งหน้าสู่เมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ด้วยระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร และเพียง 1 ชั่วโมง 50 นาที ก็มาถึงซุ้มประตูเมืองที่ผ่านเข้ามาแล้ว ฉันหันไปบอกสามีว่า ห้ามพูดโกหกแล้วนะ ตั้งแต่นาทีนี้ !!!

“ขอเพียงสัจจะวาจา”

นิทานพื้นบ้านเล่าสู่กันฟังว่า ลับแลเป็นเมืองของคนดี มีความซื่อสัตย์สุจริต คนในเมืองไม่พูดโกหกกัน แต่อยู่มาวันหนึ่งชายที่เข้ามาอยู่ในเมืองนี้และแต่งงานสร้างครอบครัวกับสาวเมืองลับแล กล่อมลูกของเขาให้หยุดร้อง ด้วยการหลอกว่าแม่มาแล้ว เท่านั้นแหล่ะค่ะ ชาวเมืองก็อัปเปหิชายผู้นี้ออกจากเมืองลับแล ทั้งๆที่เป็นเพียง White Lies หรือการโกหกด้วยความหวังดี ไม่ได้หวังร้าย

ซุ้มประตูเมืองลับแล และประติมากรรมแม่ม่าย อุ้มลูกน้อย 

พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล รวบรวมประวัติของเมืองไว้อย่างดี จัดแสดงวิถีชีวิต และขนบธรรมเนียมของชาวลับแล
พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ข้างๆซุ้มประตูเมือง

เจ๊นีย์ของทอดลับแล

ร้านดังประจำเมืองที่ขายแต่อาหารที่หมอส่ายหน้า !!! เจ๊นีย์ขายอาหารทอดมากว่า 30 ปีแล้ว เดินเข้าไปในร้านนี่มีตะลึงค่ะ ของทอดสีเหลืองทองถูกวางเรียงเต็มหน้ากระดาน ทั้งหน่อไม้ชุปแป้งทอด เต้าหู้ เกี้ยว เผือก ปอเปี๊ยะ และอื่นๆอีกมากมาย ที่สำคัญคือทอดสดๆ จากกระทะร้อนฉ่า กลิ่นน้ำมันหอมฟุ้ง และก็ดูสะอาดสะอ้าน น่ากิน ฉันหันไปสะกิดสามี และสั่งมาลอง 1 จาน เกี้ยวทอด เต้าหู้ทอด จิ้มกับน้ำจิ้มรสแซ่บ สูตรจากเจ๊นีย์ เป็นยังไงเหรอค่ะ?

อร่อยสิค่ะ คอลเลสตอลอลสูงขึ้นร่องสมองก็ไม่กลัว เดี๋ยวกลับไปวิ่งรอบอุทยานเอาก็ได้น่า (ถนนราษฏร์อุทิศ ซอย 1 ตำบล ศรีพนมมาศ อำเภอลับแล อุตรดิตถ์)

ข้าวพันผัก Indy

ข้าวพันผักเป็นเมนูดังของเมืองลับแล มาถึงที่ ไม่ชิมก็เสียเที่ยว เราแวะมากินที่ร้านอินดี้ประจำเมือง จากฝีมือทำอาหารของเจ้าของสุดอินดี้เช่นกัน (เสียดายไม่ได้คุยกับน้องเค้า เห็นกำลังยุ่ง เหงื่อตก ทำอาหารอยู่)

ถึงแม้ยังอิ่มจากเจ๊นีย์ของทอด แต่ลุงกับป้าก็ใจกล้าสั่งกันอีก 2 จาน ข้าวพันผักธรรมดา และหมี่พัน จานละ 20 บาท รสชาติข้าวพันผักอร่อยดีค่ะ กรุบกรอบด้วยแคปหมู แต่หมี่พันนี่ บอกตรงๆว่าไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ คราวหน้าแวะไปจะลองก๋วยเตี๋ยวด้วย หน้าตาดูดีเชียวค่ะ (ถนนราษฏร์อุทิศ อ.ลับแล เปิด 9.30 – 16.00 น. ทุกวัน ปิดวันพฤหัสบดี)

ระหว่างรออาหารก็เดินชมความอินดี้ของบ้านไม้สองชั้น ที่เจ้าของร้านตกแต่งด้วยของเล่นเก่า กระดาษดำกราฟิตี้ และ เฟอร์นิเจอร์วินเทจ

 

พิษณุโลก

วันกลับ เป็นวันที่ขับรถไกล แต่ขับกันอย่างไม่รีบเร่ง กินอาหารเช้าเสร็จก็อำลารีสอร์ตสวย และตรงไปจังหวัดพิษณุโลก แวะสักการะพระพุทธชินราช ก่อนจะวิ่งตรงเข้ากรุงเทพ แม้วันนี้จะขับรถนานกว่า 5-6 ชั่วโมง แต่ก็ไม่เหนื่อยนัก เพราะฉันไม่ใช่คนขับค่ะ 555

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุมหาวิหาร หรือ “วัดใหญ่” เป็นอารามหลวงชั้นเอก ประดิษฐานพระพุทธชินราช (หลวงพ่อใหญ่) พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ที่มีลักษณะงดงามที่สุดในโลก


พระพุทธชินราช หล่อขึ้นด้วยทองสัมฤทธิ์ในสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท) เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพิษณุโลกและชาวไทย ในทุกๆปีจะมีงานนมัสการวัดใหญ่ที่ดึงดูดพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ (เราถึงกรุงเทพประมาณ 5 โมงเย็น ทริปนี้เดินทางเมืองเดือนตุลาคมปี 62 ค่ะ)