ศรีลังกาอยู่ห่างจากไทยเพียงแค่สามชั่วโมงเท่านั้น นั่งดู Netflix 2 ตอนก็ต้องรัดเข็มขัดเตรียมแลนดิ้งกันแล้ว ปัจจุบันมี 3 สายการบินที่บินตรงจากกรุงเทพสู่โคลัมโบเมืองหลวงเกาะศรีลังกา และเวลาขาไปที่ดีที่สุดเป็นของ Sri Lanka Airline เพราะเราจะถึงโคลัมโบประมาณห้าโมงเย็น ทันเวลาที่จะชมพระอาทิตย์ตกดิน สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก …
เวลาที่ศรีลังกา ช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที
Visa เข้าศรีลังกา ขอได้ทางออน์ไลน์ https://eta.gov.lk/slvisa/
ชาวศรีลังกาสื่อสารภาษาอังกฤษได้
Airport Taxi เรียกได้ที่สนามบิน รถตู้อยู่ที่ 35 ดอลลาร์ ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองประมาณ 40 นาที
แลกเงินที่สนามบินได้เลย เราแลกเผื่อวันละ 10,000 – 20,000 รูปี หรือประมาณ 1-2 พันบาท
บัตรเครดิต และบัตร travel card ใช้ได้เหมือนกัน
โคลัมโบเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของศรีลังกา ชื่อนี้เป็นภาษาสิงหล ภาษาที่พูดกันในประเทศ มีความหมายว่าท่าเรือที่มีต้นมะม่วง ต่อมาชื่อนี้ถูกดัดแปลงเพื่อเป็นเกียรติแก่ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักสำรวจผู้ยิ่งใหญ่
ปัจจุบันโคลัมโบเป็นเมืองการค้าและศูนย์กลางทางการเงินของประเทศ มีท่าเรือใหญ่ซึ่งกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ของการเดินเรือโลก เชื่อมทวีปเอเชียเข้ากับทวีปยุโรป และนี่ก็คือ 8 ประสบการณ์ที่เราประทับใจในเมืองหลวงแห่งนี้ … โคลัมโบ
ชมพระอาทิตย์ตกดินของมหาสมุทรอินเดียที่ Galle Face Green
โคลัมโบตั้งอยู่ทางซีกตะวันตกของเกาะศรีลังกา เมืองหลวงแห่งนี้จึงมีจุดชมพระอาทิตย์ตกดินอยู่หลายจุด และโลเคชั่นยอดนิยมของชาวเมืองที่จะมาแนะนำในวันนี้ ก็คือที่สวนสาธารณะสีเขียว เก่าแก่ ชื่อ Galle Face Green
ในตอนเช้า เราเห็นพลทหารออกมาฝึกร่างกายกันตรงสนามหญ้าสีเขียว และตอนบ่ายชีวิตชีวาก็จะเริ่มกลับมา Galle Face Green เริ่มคึกคัก หนุ่มสาวจูงมือมาเดินเล่น ร้านรวงเปิดขายอาหาร ครอบครัวพาลูกมาเล่นน้ำที่ชายหาด และเราก็มาวิ่งออกกำลังกาย อาบแสง UV เพิ่มวิตามินดีให้กับร่างกาย
ใครมาเที่ยวโคลัมโบ เราแนะนำให้พักตามโรงแรมที่อยู่ริมถนน Galle ซึ่งจะได้หน้าหาดเป็นสวนสาธารณะสีเขียวแห่งนี้ ชีวิตของชาวโคลัมโบแอบน่าอิจฉา รับลมทะเล ฟังเสียงคลื่นซัด และชมดวงอาทิตย์ลูกใหญ่ ตกผ่านเส้นขอบฟ้าทุกวันๆ
สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพุทธกันการามายา หรือวัดคงคาราม (Gangaramaya Temple)
วัดกันการามายาเป็นวัดที่มีความสำคัญของโคลัมโบ ผู้คนมากมายเข้ามากราบไหว้และขอพร ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นกลุ่มนักการเมือง ผู้มีอิทธิพลของประเทศ ทำให้วัดกันการามายา เต็มไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราจะเห็นห้องประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า พระแก้วมรกตจำลอง มิตรไมตรีจากประเทศไทย ต้นศรีมหาโพธิ์ และของกำนัลจากประเทศต่างๆ ทำให้วัดกันการามายากลายเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก เราสามารถเดินดูได้รอบวัด เช่นห้องรวมจานชามสังคโลก คอลเล็คชั่นงาช้างแกะสลัก ก่อนกลับอย่าลืมแวะไปสักการะพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่กำลังโปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ที่รอบกายเต็มไปด้วยสาวกบริวาร เป็นอุโบสถ์ที่สวยแปลกตา สำหรับชาวพุทธอย่างเราค่ะ
ชมวิวเมืองโคลัมโบที่โลตัสทาวเวอร์
หอคอยทรงดอกบัวนี้เป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่างรัฐบาลศรีลังกาและรัฐบาลจีน ทุนต่างประเทศที่มาลงทุนสูงที่สุดในเกาะศรีลังกาขณะนี้
Lotus Tower มีความสูงประมาณ 356 เมตร กลายเป็นหอคอยแลนด์มาร์ค ที่ตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟ ให้เห็นได้ทั่วเมือง
เราขึ้นลิฟท์ที่เร็วที่สุดของประเทศไปที่จุดชมวิวด้านบน แดดร้อนในช่วงใกล้เที่ยง แต่ก็มีลมเย็นมาช่วยผ่อนคลาย วิวของเมืองโคลัมโบรอบทิศ ทำให้เราเห็นการพัฒนาของเมืองที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับท่าเรือขนาดใหญ่ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ ซึ่งยั่วยวนทุนจีนมาลงทุนในเกาะแห่งนี้
หอคอยนี้ยังมีร้านอาหารบุฟเฟ่เปิดใหม่ แต่กิจกรรมอื่นๆ และจุดช้อปปิ้งยังมีอยู่น้อย หากเทียบกับตึกมหานครของเรา เอาเป็นว่าถ้าใครมีเวลาเหลือ อยากมาชมเมืองโคลัมโบในมุม 360 องศา ก็แวะมาได้ค่ะ https://colombolotustower.lk
ช้อปปิ้งสินค้าแต่งบ้านที่ Paradise Road
ในตึกโคโลเนียลสีขาวใจกลางเมืองโคลัมโบ เราได้พบกับ Paradise Road ร้านขายของแต่งบ้าน ถ้วย จาน ชามที่มีเอกลักษณ์ และมีเสน่ห์ที่สุดร้านนึง
Paradise Road ก่อตั้งโดยชาวศรีลังกา และยืนยงมาเป็นเวลากว่า 40 ปี สินค้าภายในร้าน แบ่งเป็นห้องของจานชามเซรามิก ที่มีลวดลายสวยน่าใช้ ชั้นสองเป็นห้องผ้าเช็ดปาก ผ้าปูโต๊ะ ปลอกหมอน และมีคาเฟ่เล็กๆแทรกตัวอยู่
เราได้เซ็ตน้ำชาลายช้าง สัตว์ที่นิยมของศรีลังกาเป็นของใช้กลับบ้าน ใจจริงๆอยากจะซื้อของอีกหลายชิ้น เพราะสินค้าคุณภาพดีและราคาดี แต่เพราะเราบินกลับด้วย Air Asia ตารางเวลาขากลับดีที่สุดของ 3 สายการบิน เลยทำให้ขนกลับมาได้เพียง 2 เซ็ตเท่านั้น
คนที่ชอบของแต่งบ้าน ต้องฮือฮาแน่นอน และเชื่อว่าถ้ามาเห็นของจริงด้วยตาตัวเอง ต้องยิ่งตาลาย และถลุงทรัพย์ในที่สุด https://www.paradiseroad.lk
ถ่ายรูปกับมัสยิดสีแดง – Red Mosque
มัสยิดสีแดงลูกกวาดแห่งนี้ ตั้งอยู่กลางตลาดค้าขายของโคลัมโบ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Jami-Ul-Alfar สร้างขึ้นเมื่อปี 1909 และเป็นมัสยิดสำคัญของชาวมุสลิมในศรีลังกา
ปัจจุบันกลายเป็นจุดเช็คอินของเหล่าบล็อกเกอร์ ที่แต่งสาหรีมาถ่ายรูปกับมัสยิดสีแดง ใครอยากมาถ่ายรูปจุดนี้ เตรียมใจพบกับอากาศร้อน และฝุ่นถนน แต่ภาพที่ได้ น่าจะถูกใจอย่างแน่นอนค่ะ
ชิมปูยอดนิยมที่ Ministry of Crab
Mud Crab หรือปูดำ/ปูเขียวที่อาศัยอยู่ในน้ำกร่อย เป็นปูยอดนิยมของชาวศรีลังกา และยังเป็นสินค้าส่งออกไปมาเลเซีย กับสิงคโปร์อีกด้วย
เมื่อเรามาถึงถิ่นของ Mud Crab เราก็ไม่ควรจะพลาดร้านดัง ที่ติดอันดับ 50 Best Asian Restaurants ซึ่งก็คือ Ministry of Crab ที่ก่อตั้งโดยเชฟชาวศรีลังกาเมื่อสิบปีก่อน
สาขาที่เรากิน อยู่ที่ Dutch Hospital ซึ่งในอดีตเป็นโรงพยาบาล แต่วันนี้กลายเป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ เราประทับใจกับกราฟฟิกของ Ministry of Crab ดีไซน์ทุกอย่างได้น่ารัก และมีปู Mud Crab เป็นพระเอก
ก่อนจะเลือกเมนูใดๆ เราต้องเลือกขนาดของปูกันก่อน ขนาดของปูมีตั้งแต่เล็กถึงใหญ่ ราคาก็จะสูงตามขนาด พนักงานแนะนำว่า ถ้ามาคนเดียวเอาขนาดกลางๆก็พอ จากนั้นเราก็สั่งให้เอาปูไปทำเป็นเมนูปูผัดพริกไทยดำ กินคู่กับขนมปังเนย และน้ำมะพร้าวผสมมะนาว
รสชาติของปูผัดพริกไทยดำ จะต่างจากของเวอร์ชั่นสิงคโปร์ เพราะใส่เครื่องเทศเยอะกว่า รสชาติกลมกล่อมนะ แต่ถูกปากน้อยกว่าที่เคยกิน เนื้อปูสดและแน่น ตัวเดียวอิ่มค่ะ ส่วนราคาคิดเป็นดอลลาร์ จะสูงกว่ามาตราฐานของร้านอาหารอื่นๆ มื้อนี้กินคนเดียวจ่ายอยู่ที่ประมาณ 70 เหรียญ หรือ 2,400 บาทค่ะ www.ministryofcrab.com/colombo/
ล้ิมลองอาหารประจำชาติศรีลังกาที่ Ceylon Curry Club
แกงกระหรี่ เป็นอีกเมนูประจำชาติของศรีลังกา แกงกระหรี่ที่นี่เน้นเครื่องเทศและเผ็ดนำ ซึ่งน่าจะถูกใจคนไทยหลายคน และอีกเมนูดัง ก็คือ ฮอปเปอร์ (Hopper) ลักษณะคล้ายขนมครกแต่ขนาดเท่าฝ่ามือ และร้านที่มีทั้งสองเมนูนี้ที่สะอาด ถูกสุขลักษณะอนามัย ก็คือ Ceylon Curry Club ที่ตั้งอยู่ใน Dutch Hospital ที่เดียวกับร้าน Ministry of Crab นั่นเอง
ร้านนี้มีห้องแอร์และคิวน้อยกว่า แต่อาหารจะใช้เวลาทำนานหน่อย แกงกระหรี่รสชาติอร่อยเลยค่ะ และถ้าใครสั่งฮอปเปอร์ ในเซ็ตจะมีถึง 6 รสชาติ พนักงานจะมาทำให้ที่โต๊ะ โชว์ลีลาทำขนมครกเบาๆ สนุกดีค่ะ www.ceyloncurryclub.com
ผ่อนคลายร่างกายที่ Spa Ceylon
Spa Ceylon เป็นร้านสัญชาติศรีลังกาที่ทำแบรนด์ดิ้งได้จึ้งตาที่สุด ภายในร้านสีสันแสบตาแห่งนี้ เต็มไปด้วยสินค้าสปามากมาย ตั้งแต่สบู่ก้อน shower gel ครีมทาตัว ครีมทาหน้า แชมพูสระผม ไปจนถึงน้ำหอม ยาดม ยาหม่องและลิปสติก
แพ็กเก็จจิ้งของ Spa Ceylon สวยสดมีกราฟฟิกสะดุดตา และราคาดีค่ะ ทำให้เราหยิบใส่ตระกร้ามาลองอยู่หลายชิ้น และเป็นของฝากด้วย
นอกจากนั้น Spa Ceylon ยังมีแผนกแต่งบ้าน ขายจาน ชาม ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดปาก ปลอกหมอนอีกด้วย
ใครอยากลองนวดสไตล์ศรีลังกา ก็แวะไป Spa Ceylon Massage ได้ มีอยู่หลายสาขาทั่วประเทศ ค่านวดชั่วโมงครึ่งประมาณ 800 – 1,000 บาทค่ะ แนะนำให้นวดศรีษะ ที่ลีลาจะคล้ายกับสไตล์อินเดีย ถูกจริตและผ่อนคลายที่สุดค่ะ https://lk.spaceylon.com
2 Apr 2024
0 Comments
8 Moments in Colombo – Sri Lanka
ศรีลังกาอยู่ห่างจากไทยเพียงแค่สามชั่วโมงเท่านั้น นั่งดู Netflix 2 ตอนก็ต้องรัดเข็มขัดเตรียมแลนดิ้งกันแล้ว ปัจจุบันมี 3 สายการบินที่บินตรงจากกรุงเทพสู่โคลัมโบเมืองหลวงเกาะศรีลังกา และเวลาขาไปที่ดีที่สุดเป็นของ Sri Lanka Airline เพราะเราจะถึงโคลัมโบประมาณห้าโมงเย็น ทันเวลาที่จะชมพระอาทิตย์ตกดิน สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก …
เวลาที่ศรีลังกา ช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที
Visa เข้าศรีลังกา ขอได้ทางออน์ไลน์ https://eta.gov.lk/slvisa/
ชาวศรีลังกาสื่อสารภาษาอังกฤษได้
Airport Taxi เรียกได้ที่สนามบิน รถตู้อยู่ที่ 35 ดอลลาร์ ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองประมาณ 40 นาที
แลกเงินที่สนามบินได้เลย เราแลกเผื่อวันละ 10,000 – 20,000 รูปี หรือประมาณ 1-2 พันบาท
บัตรเครดิต และบัตร travel card ใช้ได้เหมือนกัน
โคลัมโบเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของศรีลังกา ชื่อนี้เป็นภาษาสิงหล ภาษาที่พูดกันในประเทศ มีความหมายว่าท่าเรือที่มีต้นมะม่วง ต่อมาชื่อนี้ถูกดัดแปลงเพื่อเป็นเกียรติแก่ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักสำรวจผู้ยิ่งใหญ่
ปัจจุบันโคลัมโบเป็นเมืองการค้าและศูนย์กลางทางการเงินของประเทศ มีท่าเรือใหญ่ซึ่งกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ของการเดินเรือโลก เชื่อมทวีปเอเชียเข้ากับทวีปยุโรป และนี่ก็คือ 8 ประสบการณ์ที่เราประทับใจในเมืองหลวงแห่งนี้ … โคลัมโบ
ชมพระอาทิตย์ตกดินของมหาสมุทรอินเดียที่ Galle Face Green
โคลัมโบตั้งอยู่ทางซีกตะวันตกของเกาะศรีลังกา เมืองหลวงแห่งนี้จึงมีจุดชมพระอาทิตย์ตกดินอยู่หลายจุด และโลเคชั่นยอดนิยมของชาวเมืองที่จะมาแนะนำในวันนี้ ก็คือที่สวนสาธารณะสีเขียว เก่าแก่ ชื่อ Galle Face Green
ในตอนเช้า เราเห็นพลทหารออกมาฝึกร่างกายกันตรงสนามหญ้าสีเขียว และตอนบ่ายชีวิตชีวาก็จะเริ่มกลับมา Galle Face Green เริ่มคึกคัก หนุ่มสาวจูงมือมาเดินเล่น ร้านรวงเปิดขายอาหาร ครอบครัวพาลูกมาเล่นน้ำที่ชายหาด และเราก็มาวิ่งออกกำลังกาย อาบแสง UV เพิ่มวิตามินดีให้กับร่างกาย
ใครมาเที่ยวโคลัมโบ เราแนะนำให้พักตามโรงแรมที่อยู่ริมถนน Galle ซึ่งจะได้หน้าหาดเป็นสวนสาธารณะสีเขียวแห่งนี้ ชีวิตของชาวโคลัมโบแอบน่าอิจฉา รับลมทะเล ฟังเสียงคลื่นซัด และชมดวงอาทิตย์ลูกใหญ่ ตกผ่านเส้นขอบฟ้าทุกวันๆ
สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพุทธกันการามายา หรือวัดคงคาราม (Gangaramaya Temple)
วัดกันการามายาเป็นวัดที่มีความสำคัญของโคลัมโบ ผู้คนมากมายเข้ามากราบไหว้และขอพร ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นกลุ่มนักการเมือง ผู้มีอิทธิพลของประเทศ ทำให้วัดกันการามายา เต็มไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราจะเห็นห้องประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า พระแก้วมรกตจำลอง มิตรไมตรีจากประเทศไทย ต้นศรีมหาโพธิ์ และของกำนัลจากประเทศต่างๆ ทำให้วัดกันการามายากลายเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก เราสามารถเดินดูได้รอบวัด เช่นห้องรวมจานชามสังคโลก คอลเล็คชั่นงาช้างแกะสลัก ก่อนกลับอย่าลืมแวะไปสักการะพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่กำลังโปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ที่รอบกายเต็มไปด้วยสาวกบริวาร เป็นอุโบสถ์ที่สวยแปลกตา สำหรับชาวพุทธอย่างเราค่ะ
ชมวิวเมืองโคลัมโบที่โลตัสทาวเวอร์
หอคอยทรงดอกบัวนี้เป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่างรัฐบาลศรีลังกาและรัฐบาลจีน ทุนต่างประเทศที่มาลงทุนสูงที่สุดในเกาะศรีลังกาขณะนี้
Lotus Tower มีความสูงประมาณ 356 เมตร กลายเป็นหอคอยแลนด์มาร์ค ที่ตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟ ให้เห็นได้ทั่วเมือง
เราขึ้นลิฟท์ที่เร็วที่สุดของประเทศไปที่จุดชมวิวด้านบน แดดร้อนในช่วงใกล้เที่ยง แต่ก็มีลมเย็นมาช่วยผ่อนคลาย วิวของเมืองโคลัมโบรอบทิศ ทำให้เราเห็นการพัฒนาของเมืองที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับท่าเรือขนาดใหญ่ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ ซึ่งยั่วยวนทุนจีนมาลงทุนในเกาะแห่งนี้
หอคอยนี้ยังมีร้านอาหารบุฟเฟ่เปิดใหม่ แต่กิจกรรมอื่นๆ และจุดช้อปปิ้งยังมีอยู่น้อย หากเทียบกับตึกมหานครของเรา เอาเป็นว่าถ้าใครมีเวลาเหลือ อยากมาชมเมืองโคลัมโบในมุม 360 องศา ก็แวะมาได้ค่ะ https://colombolotustower.lk
ช้อปปิ้งสินค้าแต่งบ้านที่ Paradise Road
ในตึกโคโลเนียลสีขาวใจกลางเมืองโคลัมโบ เราได้พบกับ Paradise Road ร้านขายของแต่งบ้าน ถ้วย จาน ชามที่มีเอกลักษณ์ และมีเสน่ห์ที่สุดร้านนึง
Paradise Road ก่อตั้งโดยชาวศรีลังกา และยืนยงมาเป็นเวลากว่า 40 ปี สินค้าภายในร้าน แบ่งเป็นห้องของจานชามเซรามิก ที่มีลวดลายสวยน่าใช้ ชั้นสองเป็นห้องผ้าเช็ดปาก ผ้าปูโต๊ะ ปลอกหมอน และมีคาเฟ่เล็กๆแทรกตัวอยู่
เราได้เซ็ตน้ำชาลายช้าง สัตว์ที่นิยมของศรีลังกาเป็นของใช้กลับบ้าน ใจจริงๆอยากจะซื้อของอีกหลายชิ้น เพราะสินค้าคุณภาพดีและราคาดี แต่เพราะเราบินกลับด้วย Air Asia ตารางเวลาขากลับดีที่สุดของ 3 สายการบิน เลยทำให้ขนกลับมาได้เพียง 2 เซ็ตเท่านั้น
คนที่ชอบของแต่งบ้าน ต้องฮือฮาแน่นอน และเชื่อว่าถ้ามาเห็นของจริงด้วยตาตัวเอง ต้องยิ่งตาลาย และถลุงทรัพย์ในที่สุด https://www.paradiseroad.lk
ถ่ายรูปกับมัสยิดสีแดง – Red Mosque
มัสยิดสีแดงลูกกวาดแห่งนี้ ตั้งอยู่กลางตลาดค้าขายของโคลัมโบ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Jami-Ul-Alfar สร้างขึ้นเมื่อปี 1909 และเป็นมัสยิดสำคัญของชาวมุสลิมในศรีลังกา
ปัจจุบันกลายเป็นจุดเช็คอินของเหล่าบล็อกเกอร์ ที่แต่งสาหรีมาถ่ายรูปกับมัสยิดสีแดง ใครอยากมาถ่ายรูปจุดนี้ เตรียมใจพบกับอากาศร้อน และฝุ่นถนน แต่ภาพที่ได้ น่าจะถูกใจอย่างแน่นอนค่ะ
ชิมปูยอดนิยมที่ Ministry of Crab
Mud Crab หรือปูดำ/ปูเขียวที่อาศัยอยู่ในน้ำกร่อย เป็นปูยอดนิยมของชาวศรีลังกา และยังเป็นสินค้าส่งออกไปมาเลเซีย กับสิงคโปร์อีกด้วย
เมื่อเรามาถึงถิ่นของ Mud Crab เราก็ไม่ควรจะพลาดร้านดัง ที่ติดอันดับ 50 Best Asian Restaurants ซึ่งก็คือ Ministry of Crab ที่ก่อตั้งโดยเชฟชาวศรีลังกาเมื่อสิบปีก่อน
สาขาที่เรากิน อยู่ที่ Dutch Hospital ซึ่งในอดีตเป็นโรงพยาบาล แต่วันนี้กลายเป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ เราประทับใจกับกราฟฟิกของ Ministry of Crab ดีไซน์ทุกอย่างได้น่ารัก และมีปู Mud Crab เป็นพระเอก
ก่อนจะเลือกเมนูใดๆ เราต้องเลือกขนาดของปูกันก่อน ขนาดของปูมีตั้งแต่เล็กถึงใหญ่ ราคาก็จะสูงตามขนาด พนักงานแนะนำว่า ถ้ามาคนเดียวเอาขนาดกลางๆก็พอ จากนั้นเราก็สั่งให้เอาปูไปทำเป็นเมนูปูผัดพริกไทยดำ กินคู่กับขนมปังเนย และน้ำมะพร้าวผสมมะนาว
รสชาติของปูผัดพริกไทยดำ จะต่างจากของเวอร์ชั่นสิงคโปร์ เพราะใส่เครื่องเทศเยอะกว่า รสชาติกลมกล่อมนะ แต่ถูกปากน้อยกว่าที่เคยกิน เนื้อปูสดและแน่น ตัวเดียวอิ่มค่ะ ส่วนราคาคิดเป็นดอลลาร์ จะสูงกว่ามาตราฐานของร้านอาหารอื่นๆ มื้อนี้กินคนเดียวจ่ายอยู่ที่ประมาณ 70 เหรียญ หรือ 2,400 บาทค่ะ www.ministryofcrab.com/colombo/
ล้ิมลองอาหารประจำชาติศรีลังกาที่ Ceylon Curry Club
แกงกระหรี่ เป็นอีกเมนูประจำชาติของศรีลังกา แกงกระหรี่ที่นี่เน้นเครื่องเทศและเผ็ดนำ ซึ่งน่าจะถูกใจคนไทยหลายคน และอีกเมนูดัง ก็คือ ฮอปเปอร์ (Hopper) ลักษณะคล้ายขนมครกแต่ขนาดเท่าฝ่ามือ และร้านที่มีทั้งสองเมนูนี้ที่สะอาด ถูกสุขลักษณะอนามัย ก็คือ Ceylon Curry Club ที่ตั้งอยู่ใน Dutch Hospital ที่เดียวกับร้าน Ministry of Crab นั่นเอง
ร้านนี้มีห้องแอร์และคิวน้อยกว่า แต่อาหารจะใช้เวลาทำนานหน่อย แกงกระหรี่รสชาติอร่อยเลยค่ะ และถ้าใครสั่งฮอปเปอร์ ในเซ็ตจะมีถึง 6 รสชาติ พนักงานจะมาทำให้ที่โต๊ะ โชว์ลีลาทำขนมครกเบาๆ สนุกดีค่ะ www.ceyloncurryclub.com
ผ่อนคลายร่างกายที่ Spa Ceylon
Spa Ceylon เป็นร้านสัญชาติศรีลังกาที่ทำแบรนด์ดิ้งได้จึ้งตาที่สุด ภายในร้านสีสันแสบตาแห่งนี้ เต็มไปด้วยสินค้าสปามากมาย ตั้งแต่สบู่ก้อน shower gel ครีมทาตัว ครีมทาหน้า แชมพูสระผม ไปจนถึงน้ำหอม ยาดม ยาหม่องและลิปสติก
แพ็กเก็จจิ้งของ Spa Ceylon สวยสดมีกราฟฟิกสะดุดตา และราคาดีค่ะ ทำให้เราหยิบใส่ตระกร้ามาลองอยู่หลายชิ้น และเป็นของฝากด้วย
นอกจากนั้น Spa Ceylon ยังมีแผนกแต่งบ้าน ขายจาน ชาม ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดปาก ปลอกหมอนอีกด้วย
ใครอยากลองนวดสไตล์ศรีลังกา ก็แวะไป Spa Ceylon Massage ได้ มีอยู่หลายสาขาทั่วประเทศ ค่านวดชั่วโมงครึ่งประมาณ 800 – 1,000 บาทค่ะ แนะนำให้นวดศรีษะ ที่ลีลาจะคล้ายกับสไตล์อินเดีย ถูกจริตและผ่อนคลายที่สุดค่ะ https://lk.spaceylon.com
Related Posts: