สองวันนับจากนี้ เราจะมุ่งหน้าลงสู่ทางใต้ของเกาะศรีลังกา และอูดาวาลาเว่ (Udawalawe) ก็เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ระหว่างทางผ่าน จุดกึ่งกลางของเส้นทางพอดี เราเลยหยุดพักค้างกันหนึ่งคืน ช่วยให้เราไม่ต้องนั่งรถนานหลายชั่วโมง และยังได้ท่องซาฟารีเป็นของแถมกันอีกในช่วงเช้า
อุทยานแห่งชาติอูดาวาลาเว่ (Udawalawe National Park) เป็นหนึ่งในสองอุทยานสำคัญของศรีลังกา มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และเป็นที่พักพิงของสัตว์ป่าจำนวนมาก โดยเฉพาะช้างป่าที่ป็นไฮไลท์ของอุทยานแห่งนี้
คืนนี้เราพักกันที่ The Grand Udawalawe (https://udawalawesafari.com) โรงแรมสไตล์ทรอปิคัล 4 ดาวแห่งเดียวของละแวก เราถึงที่พักในช่วงหัวค่ำ สั่ง Room Service มากินกันในห้อง และพยายามเข้านอนให้ไว เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่กว่าๆเพื่อไปซาฟารีในตอนตีห้าครึ่ง
ทัวร์ซาฟารีชมเริ่มประมาณหกโมงเช้า โรงแรมที่พักอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติอูดาวาลาเว่ นั่งรถเพียง 10 นาที ก็มาถึงหน้าอุทยาน จากนั้นเราต้องเปลี่ยนเป็นรถกระบะซาฟารีซึ่งด้านหลังยกหลังคาสูง ที่ใส่เก้าอี้นั่งซึ่งสูงขึ้นไปอีก ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการส่องสัตว์ และชมวิวให้ชัดเจนขึ้น
อากาศในช่วงเช้า ลมพัดเย็นสบายค่ะ ไม่ร้อนหรือเหนียวตัวอย่างที่กลัวในตอนแรก เมื่อรถขับเข้าสู่อุทยาน รถแต่ละคันจะวิ่งตามถนนดินแดงที่เป็นหลุมบ่อ อาจจะกระแทกกระทั้นบ้าง เพื่อตามหาสัตว์ป่าทั้งหลายที่จะออกมาหาอาหารกันในตอนเช้า และไฮไลท์ที่ทุกคันตามหาก็จะเป็นเจ้าช้างป่า ที่อาศัยอยู่หลายร้อยตัวในอุทยานแห่งชาติอูดาวาลาเว่
นกยูงที่เกาะอยู่ตามยอดต้นไม้
ไก่ป่า
ช้างป่า
ควายน้ำ
วิวสองข้างทางระหว่างส่องตามหาสัตว์
ทัวร์ซาฟารีใช้เวลาประมาณ 1-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับว่า เราจะได้เจอสัตว์ป่าครบสมดังใจหรือยัง สำหรับเราพอได้เจอช้างป่า เจอนกยูง และสัตว์ป่าอีกนิดหน่อย ก็ขอกลับไปกินอาหารเช้าที่โรงแรม เลยใช้เวลาชมซาฟารีประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น
ถามถึงความสนุก … เอาจริงๆสัตว์ทุกตัวก็เป็นสัตว์ที่เราคุ้นเคย และเจอในบ้านเราได้ง่ายๆ แต่เมื่ออยู่ในกลางป่ากลางดง เวลาเจอสัตว์แต่ละตัว รู้สึกเหมือนถูกล็อตตอรี่เลขท้าย มันตื่นเต้นขึ้นมาหน่อย ร้องดีใจเป็นระยะ เพราะเป็นการเจอแบบไม่ได้ตั้งใจ และบรรยากาศคงจะพาไปด้วย
เรากลับมากินอาหารเช้าที่โรงแรมก่อนจะเช็คเอ้าท์ บุฟเฟ่ไลน์มีอาหารให้เลือกพอประมาณ ส่วนห้องพักของโรงแรมก็เพดานสูงโปร่งดี เตียงนอนพอใช้ได้ อาจจะไม่ได้หรูหราแต่ก็อยู่สบายพอตัว น่าจะเพราะอูดาวาลาเว่ เป็นอุทยานอันดับสองของศรีลังกา เลยมีโรงแรมให้เลือกน้อย ต่างจากอุทยานแห่งชาติอันดับหนึ่ง Yala National Park ที่หลายคนอยากไปชมเสือดาวกันที่นั่น
จากอูดาวาลาเว่ เราจะมุ่งหน้าสู่เมืองสุดท้ายของทริปศรีลังกา และเมืองนี้ก็เป็นเมืองไฮไลท์ที่อยากจะมามากที่สุดของเกาะแห่งนี้
The Grand Udawalawe (https://udawalawesafari.com)
18 Apr 2024
0 Comments
Safari Experience in Udawalawe – Sri Lanka
สองวันนับจากนี้ เราจะมุ่งหน้าลงสู่ทางใต้ของเกาะศรีลังกา และอูดาวาลาเว่ (Udawalawe) ก็เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ระหว่างทางผ่าน จุดกึ่งกลางของเส้นทางพอดี เราเลยหยุดพักค้างกันหนึ่งคืน ช่วยให้เราไม่ต้องนั่งรถนานหลายชั่วโมง และยังได้ท่องซาฟารีเป็นของแถมกันอีกในช่วงเช้า
อุทยานแห่งชาติอูดาวาลาเว่ (Udawalawe National Park) เป็นหนึ่งในสองอุทยานสำคัญของศรีลังกา มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และเป็นที่พักพิงของสัตว์ป่าจำนวนมาก โดยเฉพาะช้างป่าที่ป็นไฮไลท์ของอุทยานแห่งนี้
คืนนี้เราพักกันที่ The Grand Udawalawe (https://udawalawesafari.com) โรงแรมสไตล์ทรอปิคัล 4 ดาวแห่งเดียวของละแวก เราถึงที่พักในช่วงหัวค่ำ สั่ง Room Service มากินกันในห้อง และพยายามเข้านอนให้ไว เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่กว่าๆเพื่อไปซาฟารีในตอนตีห้าครึ่ง
ทัวร์ซาฟารีชมเริ่มประมาณหกโมงเช้า โรงแรมที่พักอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติอูดาวาลาเว่ นั่งรถเพียง 10 นาที ก็มาถึงหน้าอุทยาน จากนั้นเราต้องเปลี่ยนเป็นรถกระบะซาฟารีซึ่งด้านหลังยกหลังคาสูง ที่ใส่เก้าอี้นั่งซึ่งสูงขึ้นไปอีก ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการส่องสัตว์ และชมวิวให้ชัดเจนขึ้น
อากาศในช่วงเช้า ลมพัดเย็นสบายค่ะ ไม่ร้อนหรือเหนียวตัวอย่างที่กลัวในตอนแรก เมื่อรถขับเข้าสู่อุทยาน รถแต่ละคันจะวิ่งตามถนนดินแดงที่เป็นหลุมบ่อ อาจจะกระแทกกระทั้นบ้าง เพื่อตามหาสัตว์ป่าทั้งหลายที่จะออกมาหาอาหารกันในตอนเช้า และไฮไลท์ที่ทุกคันตามหาก็จะเป็นเจ้าช้างป่า ที่อาศัยอยู่หลายร้อยตัวในอุทยานแห่งชาติอูดาวาลาเว่
นกยูงที่เกาะอยู่ตามยอดต้นไม้
ไก่ป่า
ช้างป่า
ควายน้ำ
วิวสองข้างทางระหว่างส่องตามหาสัตว์
ทัวร์ซาฟารีใช้เวลาประมาณ 1-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับว่า เราจะได้เจอสัตว์ป่าครบสมดังใจหรือยัง สำหรับเราพอได้เจอช้างป่า เจอนกยูง และสัตว์ป่าอีกนิดหน่อย ก็ขอกลับไปกินอาหารเช้าที่โรงแรม เลยใช้เวลาชมซาฟารีประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น
ถามถึงความสนุก … เอาจริงๆสัตว์ทุกตัวก็เป็นสัตว์ที่เราคุ้นเคย และเจอในบ้านเราได้ง่ายๆ แต่เมื่ออยู่ในกลางป่ากลางดง เวลาเจอสัตว์แต่ละตัว รู้สึกเหมือนถูกล็อตตอรี่เลขท้าย มันตื่นเต้นขึ้นมาหน่อย ร้องดีใจเป็นระยะ เพราะเป็นการเจอแบบไม่ได้ตั้งใจ และบรรยากาศคงจะพาไปด้วย
เรากลับมากินอาหารเช้าที่โรงแรมก่อนจะเช็คเอ้าท์ บุฟเฟ่ไลน์มีอาหารให้เลือกพอประมาณ ส่วนห้องพักของโรงแรมก็เพดานสูงโปร่งดี เตียงนอนพอใช้ได้ อาจจะไม่ได้หรูหราแต่ก็อยู่สบายพอตัว น่าจะเพราะอูดาวาลาเว่ เป็นอุทยานอันดับสองของศรีลังกา เลยมีโรงแรมให้เลือกน้อย ต่างจากอุทยานแห่งชาติอันดับหนึ่ง Yala National Park ที่หลายคนอยากไปชมเสือดาวกันที่นั่น
จากอูดาวาลาเว่ เราจะมุ่งหน้าสู่เมืองสุดท้ายของทริปศรีลังกา และเมืองนี้ก็เป็นเมืองไฮไลท์ที่อยากจะมามากที่สุดของเกาะแห่งนี้
The Grand Udawalawe (https://udawalawesafari.com)
Related Posts: