การเดินทางที่แบกความคาดหวังไว้น้อย มักสร้างความประทับใจที่ยิ่งใหญ่กว่าเสมอ ...
เราเดินทางไปซิดนีย์ด้วยสัมภาระที่เบา (มาก) ทั้งทางกายและทางใจ การสำรวจซิดนีย์หนึ่งอาทิตย์จึงเป็นไปอย่างเชื่องช้า และเป็นธรรมชาติที่สุด …
ซิดนีย์ไม่ใช่เมืองหลวง แต่เป็นเมืองใหญ่อันดับหนึ่งของออสเตเลีย ไม่ใช่เมืองการค้าอย่างเมลเบรินแต่ก็เป็นเมืองสำคัญทางเศรฐกิจ
ซิดนีย์เป็นเมืองสองบุคคลิก เหมือนคน Bi-polar มีทั้งด้านดี และด้านที่ต้องระวัง … ดังเมืองใหญ่ ทั่วไป
{ Sydney Harbour Bridge }
สะพานเหล็กขนาดมหึมานี้สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมศูนย์กลางการค้าของซิดนีย์ หรือ CBD (Central Business District) เข้ากับซิดนีย์ฝั่งเหนือ ด้วยรูปลักษณ์ของสะพาน ชาวซิดนีย์จึงเรียกขานที่นี่ว่า “The Coathanger” หรือเจ้าไม้แขวนเสื้อตัวเขื่องของเมือง
Sydney Harbour Bridge เป็นสะพานเหล็กขนาดใหญ่และสูงชันที่สุดของโลก (แต่ไม่ได้ยาว ที่สุดของโลกนะคะ) กิจกรรมยอดนิยมเป็นการปีนสะพานสูงกว่า 134 เมตรจากระดับทะเล (Bridge Climb Website) เช่นเดียวกับการเข้าชมนิทรรศการ ประวัติที่มาของสะพานที่ Pylon Lookout
Tip: ยามเช้าจุดถ่ายรูปสวยและไม่ย้อนแสง ต้องยืนอยู่ฝั่งเดียว Sydney Opera House ค่ะ โดยในทางกลับกัน ในช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ตกดิน จุดถ่ายรูปของสะพานจะย้ายมาอยู่อีกฝั่งตรงข้าม หรือใต้สะพานเอง ที่มีสวนสาธารณะสีเขียวชอุ่มให้นั่งเล่นอีกด้วย
{ Sydney Opera House }
ความสำเร็จของ Sydney Opera House ส่วนหนึ่ง (ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมาก) คงต้องยกให้กับ สถาปนิกผู้ออกแบบชาวดัชท์ JØrn Utzon ท่านไม่เคยย่อท้อต่อปัญหา และอุปสรรคที่พบระหว่างการก่อสร้าง อีกทั้งยังเพียรพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ฝันนั้นกลายเป็นจริง
Sydney Opera House ใช้เวลาสร้างนานถึง 4 ทศวรรษ นั่นเพราะดีไซน์ที่ท่านคิดมานั้น มันล้ำเทคโนโลยีในขณะนั้นไปมากโข เพียงแค่ใบเรือที่ประดิษฐ์ประดอยด้วยเซรามิกสีขาว ก็ใช้เวลาถึง 4 ปีกว่าจะสร้างเสร็จ
ไอคอนของเมือง และของประเทศนี้ ตั้งอยู่บนปลายติ่งของแหลม Benelong Point เป็นจุดดึงสายตาทุกคู่ เมื่อมายืน ที่ Port Jackson อ่าวสำคัญที่สุดของประเทศค่ะ …
Tip: หลังเที่ยงจะเป็นเวลาเหมาะในการถ่ายรูป Sydney Opera House / ช่วงเย็นๆ ด้านข้างของ Sydney Opera House จะมีร้านอาหาร และบาร์ให้นั่งทาน พร้อมชมวิวอ่าวสวยแห่งนี้ / Vivid Sydney เป็นอีกเทศกาลต้อนรับฤดูหนาว ศิลปินจะร่วมดีไซน์แสงไฟรูปลักษณ์ต่างๆที่จะส่องกระทบ Sydney Opera House และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมือง Vivid Sydney จัดปลายเดือนพฤษภาคม-ต้นมิถุนายน ของทุกปีค่ะ
{ Taxi Boat }
ซิดนีย์ไม่ใช่เวนิส แต่ซิดนีย์เป็นมากกว่าเวนิส เพราะปริมาตรน้ำของซิดนีย์เปรียบได้เท่ากับมหาสมุทรเกือบหนึ่งผืน วิถีการเดินทางระหว่างอ่าว และเมืองจึงมีทั้งทางบกและทางน้ำ Taxi Boat เป็นอีกทางเลือกที่มีเสน่ห์ เห็นแล้วอดอมยิ้มไม่ได้ ต้องชักภาพนี้มาฝากกันค่ะ
{ The Rocks }
พื้นที่เก่าแก่ริม Port Jackson นี้ เรียกได้ว่าเป็นจุดกำเนิดของประเทศออสเตเลียทั้งประเทศเลยค่ะ
ดินแดนตรงนี้ เป็นจุดทอดสมอของ Captain Arthur Phillip พร้อมกับนักโทษทั้งหลาย กลุ่มคนซึ่งเรียกได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของประเทศออสเตเลีย
ปัจจุบัน The Rocks แปรเปลี่ยนเป็นคาเฟ่ และร้านอาหารมากมาย แถมด้วยจุดถ่ายรูปสวยๆ โดยเฉพาะตรงด้านหน้า Park Hyatt Sydney โรงแรมหรูที่เห็นวิวของสะพานฮาร์เบอร์บริดจ์ และซิดนีย์โอเปร่าเฮ้าส์ในระยะประชิดตัวค่ะ
{ Queen Victoria Building (QVB) }
ครั้งแรกที่เห็นตึกสวยแห่งนี้ เรานึกถึง Harrods ขึ้นมาทันใด QVB เป็นศูนย์การค้าใหญ่ และสำคัญที่สุดของซิดนีย์ค่ะ
อาคารหินสีแดงทรงวิคทอเรียแห่งนี้ กินพื้นที่ถึงหนึ่งบล็อกของถนน ภายในคราคร่ำไปด้วยร้านค้าแบรดน์เนมมากมาย รวมถึงคาเฟ่ และร้านอาหารน่านั่ง
ไฮไลท์ของตึกอยู่ที่พื้นกระเบื้องลวดลายสวยงาม กระจกแก้วสีเหนือประตูทางเข้าซ้ายและขวา โดมใหญ่กลางศูนย์ และนาฬิกาแขวนขนาดใหญ่ที่ตีบอกเวลา และมีตำนานของศูนย์การค้าแห่งนี้ไว้
{ Homeless }
เราเชื่อว่า คงไม่มีใครอยากเป็นคนไร้บ้าน สายตาที่มองคนเหล่านี้ มีหลายคำพิพากษาอยู่ในใจ … เราเองเมื่อไม่ได้อยู่ในบทบาทชีวิตของเค้าเหล่านั้น ก็คงมิกล้าจะตัดสินใจว่าเป็นเรื่องถูกหรือผิด
หากซิดนีย์ ก็ทำให้เราฉุกคิดถึงประเด็นนี้ขึ้นมาได้หลายครั้ง เพราะตามสี่แยกไฟแดงสำคัญของซิดนีย์มักมี Homeless มานั่งประจำอยู่ในตำแหน่งเดิม …. ทุกวัน ทุกเวลาที่เราเดินผ่าน
{ Royal Botanic Gardens }
ซิดนีย์ช่างเป็นเมืองที่โชคดี ที่โอบล้อมด้วยอ่าวสวย และแต้มด้วยสวนสาธารณะสีเขียวขจี พื้นที่สีเขียวชอุ่มผืนใหญ่แห่งนี้ มีมุมสงบ และร่มเย็นให้กับชาวซิดนีย์ที่ต้องการความสงบและใกล้ชิดธรรมชาติ ภายในสวนยังมี Government House ซึ่งเปิดให้เข้าชมฟรีอีกด้วยค่ะ
{ Darling Harbour }
วิถีชีวิตของคนที่พักอาศัยในบริเวณดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์ทำให้เราอิจฉาจนตาร้อนผ่าว คนเหล่านี้มีทะเลเป็นพื้นดิน เรือเร็วเป็นยานพาหนะ และนกนางนวลเป็นสัตว์เลี้ยง
ร้านอาหาร คาเฟ่ที่ตั้งอยู่ริมอ่าวนั้นก็ล้วนน่าทาน ยามเย็นแสงทไวไลท์ตอนพระอาทิตย์ตกดินก็สวยงามจับตา เห็นภาพ flashback แล้วอยากกลับไปเดินเกี่ยวก้อยที่อ่าวนี้ เสียตอนนี้เลยค่ะ
ความบันเทิงอื่นที่ Darling Harbour นำเสนอ นั้นยังมี IMAX Theatre, S.E.A Aquarium, Wildlife World, Chinese Garden และ Madame Tussauds …
ป.ล. S.E.A. Aquarium ขาดการบรูณะไปนิดส์ และไม่น่าตื่นเต้นเท่าสยามโอเชียนเวริด์ และ SEA Aquarium ของสิงคโปร์ ค่าตั๋ว 40 เหรียญที่จ่ายไป จึงรู้สึกไม่ค่อยคุ้มนัก
25 Jul 2014
0 Comments
Sydney Through My Eyes – Best of Sydney
เราเดินทางไปซิดนีย์ด้วยสัมภาระที่เบา (มาก) ทั้งทางกายและทางใจ การสำรวจซิดนีย์หนึ่งอาทิตย์จึงเป็นไปอย่างเชื่องช้า และเป็นธรรมชาติที่สุด …
{ Sydney Harbour Bridge }
สะพานเหล็กขนาดมหึมานี้สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมศูนย์กลางการค้าของซิดนีย์ หรือ CBD (Central Business District) เข้ากับซิดนีย์ฝั่งเหนือ ด้วยรูปลักษณ์ของสะพาน ชาวซิดนีย์จึงเรียกขานที่นี่ว่า “The Coathanger” หรือเจ้าไม้แขวนเสื้อตัวเขื่องของเมือง
Sydney Harbour Bridge เป็นสะพานเหล็กขนาดใหญ่และสูงชันที่สุดของโลก (แต่ไม่ได้ยาว ที่สุดของโลกนะคะ) กิจกรรมยอดนิยมเป็นการปีนสะพานสูงกว่า 134 เมตรจากระดับทะเล (Bridge Climb Website) เช่นเดียวกับการเข้าชมนิทรรศการ ประวัติที่มาของสะพานที่ Pylon Lookout
Tip: ยามเช้าจุดถ่ายรูปสวยและไม่ย้อนแสง ต้องยืนอยู่ฝั่งเดียว Sydney Opera House ค่ะ โดยในทางกลับกัน ในช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ตกดิน จุดถ่ายรูปของสะพานจะย้ายมาอยู่อีกฝั่งตรงข้าม หรือใต้สะพานเอง ที่มีสวนสาธารณะสีเขียวชอุ่มให้นั่งเล่นอีกด้วย
{ Sydney Opera House }
ความสำเร็จของ Sydney Opera House ส่วนหนึ่ง (ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมาก) คงต้องยกให้กับ สถาปนิกผู้ออกแบบชาวดัชท์ JØrn Utzon ท่านไม่เคยย่อท้อต่อปัญหา และอุปสรรคที่พบระหว่างการก่อสร้าง อีกทั้งยังเพียรพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ฝันนั้นกลายเป็นจริง
Sydney Opera House ใช้เวลาสร้างนานถึง 4 ทศวรรษ นั่นเพราะดีไซน์ที่ท่านคิดมานั้น มันล้ำเทคโนโลยีในขณะนั้นไปมากโข เพียงแค่ใบเรือที่ประดิษฐ์ประดอยด้วยเซรามิกสีขาว ก็ใช้เวลาถึง 4 ปีกว่าจะสร้างเสร็จ
ไอคอนของเมือง และของประเทศนี้ ตั้งอยู่บนปลายติ่งของแหลม Benelong Point เป็นจุดดึงสายตาทุกคู่ เมื่อมายืน ที่ Port Jackson อ่าวสำคัญที่สุดของประเทศค่ะ …
Tip: หลังเที่ยงจะเป็นเวลาเหมาะในการถ่ายรูป Sydney Opera House / ช่วงเย็นๆ ด้านข้างของ Sydney Opera House จะมีร้านอาหาร และบาร์ให้นั่งทาน พร้อมชมวิวอ่าวสวยแห่งนี้ / Vivid Sydney เป็นอีกเทศกาลต้อนรับฤดูหนาว ศิลปินจะร่วมดีไซน์แสงไฟรูปลักษณ์ต่างๆที่จะส่องกระทบ Sydney Opera House และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมือง Vivid Sydney จัดปลายเดือนพฤษภาคม-ต้นมิถุนายน ของทุกปีค่ะ
{ Taxi Boat }
ซิดนีย์ไม่ใช่เวนิส แต่ซิดนีย์เป็นมากกว่าเวนิส เพราะปริมาตรน้ำของซิดนีย์เปรียบได้เท่ากับมหาสมุทรเกือบหนึ่งผืน วิถีการเดินทางระหว่างอ่าว และเมืองจึงมีทั้งทางบกและทางน้ำ Taxi Boat เป็นอีกทางเลือกที่มีเสน่ห์ เห็นแล้วอดอมยิ้มไม่ได้ ต้องชักภาพนี้มาฝากกันค่ะ
{ The Rocks }
พื้นที่เก่าแก่ริม Port Jackson นี้ เรียกได้ว่าเป็นจุดกำเนิดของประเทศออสเตเลียทั้งประเทศเลยค่ะ
ดินแดนตรงนี้ เป็นจุดทอดสมอของ Captain Arthur Phillip พร้อมกับนักโทษทั้งหลาย กลุ่มคนซึ่งเรียกได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของประเทศออสเตเลีย
ปัจจุบัน The Rocks แปรเปลี่ยนเป็นคาเฟ่ และร้านอาหารมากมาย แถมด้วยจุดถ่ายรูปสวยๆ โดยเฉพาะตรงด้านหน้า Park Hyatt Sydney โรงแรมหรูที่เห็นวิวของสะพานฮาร์เบอร์บริดจ์ และซิดนีย์โอเปร่าเฮ้าส์ในระยะประชิดตัวค่ะ
{ Queen Victoria Building (QVB) }
ครั้งแรกที่เห็นตึกสวยแห่งนี้ เรานึกถึง Harrods ขึ้นมาทันใด QVB เป็นศูนย์การค้าใหญ่ และสำคัญที่สุดของซิดนีย์ค่ะ
อาคารหินสีแดงทรงวิคทอเรียแห่งนี้ กินพื้นที่ถึงหนึ่งบล็อกของถนน ภายในคราคร่ำไปด้วยร้านค้าแบรดน์เนมมากมาย รวมถึงคาเฟ่ และร้านอาหารน่านั่ง
ไฮไลท์ของตึกอยู่ที่พื้นกระเบื้องลวดลายสวยงาม กระจกแก้วสีเหนือประตูทางเข้าซ้ายและขวา โดมใหญ่กลางศูนย์ และนาฬิกาแขวนขนาดใหญ่ที่ตีบอกเวลา และมีตำนานของศูนย์การค้าแห่งนี้ไว้
{ Homeless }
เราเชื่อว่า คงไม่มีใครอยากเป็นคนไร้บ้าน สายตาที่มองคนเหล่านี้ มีหลายคำพิพากษาอยู่ในใจ … เราเองเมื่อไม่ได้อยู่ในบทบาทชีวิตของเค้าเหล่านั้น ก็คงมิกล้าจะตัดสินใจว่าเป็นเรื่องถูกหรือผิด
หากซิดนีย์ ก็ทำให้เราฉุกคิดถึงประเด็นนี้ขึ้นมาได้หลายครั้ง เพราะตามสี่แยกไฟแดงสำคัญของซิดนีย์มักมี Homeless มานั่งประจำอยู่ในตำแหน่งเดิม …. ทุกวัน ทุกเวลาที่เราเดินผ่าน
{ Royal Botanic Gardens }
ซิดนีย์ช่างเป็นเมืองที่โชคดี ที่โอบล้อมด้วยอ่าวสวย และแต้มด้วยสวนสาธารณะสีเขียวขจี พื้นที่สีเขียวชอุ่มผืนใหญ่แห่งนี้ มีมุมสงบ และร่มเย็นให้กับชาวซิดนีย์ที่ต้องการความสงบและใกล้ชิดธรรมชาติ ภายในสวนยังมี Government House ซึ่งเปิดให้เข้าชมฟรีอีกด้วยค่ะ
{ Darling Harbour }
วิถีชีวิตของคนที่พักอาศัยในบริเวณดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์ทำให้เราอิจฉาจนตาร้อนผ่าว คนเหล่านี้มีทะเลเป็นพื้นดิน เรือเร็วเป็นยานพาหนะ และนกนางนวลเป็นสัตว์เลี้ยง
ร้านอาหาร คาเฟ่ที่ตั้งอยู่ริมอ่าวนั้นก็ล้วนน่าทาน ยามเย็นแสงทไวไลท์ตอนพระอาทิตย์ตกดินก็สวยงามจับตา เห็นภาพ flashback แล้วอยากกลับไปเดินเกี่ยวก้อยที่อ่าวนี้ เสียตอนนี้เลยค่ะ
ความบันเทิงอื่นที่ Darling Harbour นำเสนอ นั้นยังมี IMAX Theatre, S.E.A Aquarium, Wildlife World, Chinese Garden และ Madame Tussauds …
ป.ล. S.E.A. Aquarium ขาดการบรูณะไปนิดส์ และไม่น่าตื่นเต้นเท่าสยามโอเชียนเวริด์ และ SEA Aquarium ของสิงคโปร์ ค่าตั๋ว 40 เหรียญที่จ่ายไป จึงรู้สึกไม่ค่อยคุ้มนัก
Related Posts: