Atlantis, The Palm – ดูไบ

Palm Jumeirah (ปาล์มจูเมราห์) คือหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของดูไบ และของโลก เกาะเทียมรูปต้นปาลม์ที่เล่าลือว่ามองเห็นจากกระสวยอวกาศนี้ สร้างความฮือฮาให้กับคนทั้งโลกในยุคนั้น (ประมาณยี่สิบปีก่อน) หลายคนกังขาว่าจะสร้างได้จริงไหม? แต่สุดท้ายเพียงแค่ 5-6 ปี เกาะเทียมที่ยื่นลงไปในอ่าวเปอร์เซียของดูไบก็สร้างเสร็จในปี 2006 ขยายพื้นที่หน้าหาดของประเทศกว่า 520 กิโลเมตร ลบคำสบประมาทและกลายเป็น destination ในฝันของใครหลายคน

Atlantis, The Palm โรงแรมและเอนเตอร์เทนเมนต์แห่งแรกที่เปิดตัวบนเกาะเทียม Palm Jumeirah ในปี 2008 (ปัจจุบันมีประมาณ 30 โรงแรมบนเกาะ) ตั้งอยู่ที่ยอดของต้นปาลม์ โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของดูไบ เป็นโรงแรมห้าดาว มีห้องพักบริการกว่า 1,500 ห้อง แขกเข้ามาเยือนในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน หรือเดือนละ 3 แสนคน วันละ 27,000 คน และฉันก็เป็นหนึ่งแขกเหล่านั้นเมื่อเดือนมกราคมปี2019 … ฝันที่ค้างมานานเกือบสิบปี

โถงกว้างและสูงของ Lobby แห่ง Atlantis, The Plam ดึงสายตาทุกคู่ด้วยโคมไฟระย้ากลางห้อง โคมไฟสีสันสดใสนี้ทำจากแก้วที่เป่าด้วยมือกว่า 3,000 ชิ้น ศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Dale Chihuly

อารมณ์ของ Lobby ทำให้แขกทุกคน คล้ายดำดิ่งอยู่ใต้ท้องทะเลของเมือง Atlantis ที่หายสาบสูญ (Very Disneyland ดินแดนในเทพนิยายมากๆค่ะ) และถ้าใครอยากถ่ายรูปแบบไร้ผู้คนละก็ ต้องมาตอนเช้าตรู่เท่านั้น

Reception ยาวมีพนักงานให้บริการหลายสิบคน ใช้เวลา check in และ check out นานหน่อย เพราะมีเป็นพันห้อง ยิ่งถ้าให้ Concierge ช่วยขนกระเป๋าด้วยแล้ว ก็ต้องรอนานขึ้น ถ้าเมื่อยขา ก็ไปพักบริเวณโซฟาของหอยมุก

Booklet รวบรวมไฮไลท์ของกิจกรรมและเอนเตอร์เทนเมนต์ต่างๆในโรงแรม มีแผนที่แสดงความยิ่งใหญ่ของโรงแรมอยู่หน้ากลาง เทศกาลพิเศษต่างๆของร้านอาหาร ตารางโยคะ สปา และจุดเด่นของเครื่องเล่นในสวนน้ำ พิพิธภัณฑ์ใต้น้ำ และกิจกรรมชายหาด … ถ้าไม่แจกให้ไปอ่านเอง และให้พนักงานอธิบายทั้งหมด เวลา check in ไม่น่าจะต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมง !!!

ห้องพักของเราอยู่ทางปีกขวา เป็นห้องแบบ Palm View Room บนพื้นที่กว่า 47 ตารางเมตร เดินเหินสบาย วางกระเป๋าได้ ไม่แออัด เตียงนอน King Size นุ่ม ห้องน้ำใหญ่ มีอ่างอาบน้ำที่เปิดบานหน้าต่างแล้วมองเห็นบรรยากาศข้างนอก องค์รวมแต่งด้วยโทนสีฟ้าอมเขียว พรมลวดลายปะการัง เหมือนอยู่ในโลกใต้ทะเล อากาศช่วงเดือนมกราคมเย็นสบาย บ่ายๆเราออกไปนั่งเล่นที่เฉลียง จิบแชมเปญคู่กับถั่วพิสตาชิโอ้ เปิดเพลงคลอเบาๆ มีความสุขเหลือหลายค่ะ

ดินเนอร์คืนนี้เราเลือกกันอยู่นาน Atlantis, The Palm มีร้านดังๆอยู่หลายร้าน เช่น Hakkasan อาหารจีนอร่อยจากลอนดอน Bread Street Kitchen & Bar ของเชฟกอร์ดอน หรือจะเป็น Ossiano ห้องอาหารใต้ท้องทะเล … แต่สุดท้าย Nobu ก็ได้ใจเรา เป็นตัวเลือกของค่ำคืนนี้ ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านดัง ที่ยังไม่เคยไปชิมกันเลย

Nobu Cheesecake . Aji Amarillo Potato Croquette with Scallops . Lobster Wasabi . Tofu Tempura with Creamy Spicy . California with Crab and Avocado รวมทั้งหมดประมาณ 500 aed

Plato’s บาร์และมุมดริงส์สวยหรูใกล้ Lobby

ป.ล. ร้านอาหาร fast food ใน Atlantis, The Plam ก็มีอยู่หลายร้าน กาแฟของ Starbucks ก็มี มื้อเที่ยงและมื้อเย็นของวันถัดไป เราไปกินข้าวผัด คู่กับเปรี้ยวหวานง่ายๆ ราคาไม่แพงที่ชั้นใต้ดิน (ใน Atlantis ไม่มีซูเปอร์มาร์เก็ต ถ้าติดขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่มก็พกติดตัวเข้าไปด้วยค่ะ)

 

เช้าวันนี้เลือกชุดถ่ายรูปให้เข้ากับบรรยากาศ และรีบวิ่งไปถ่ายรูปที่ Lobby ก่อนผู้คนจะขวักไขว่ ถ่ายเสร็จสมใจ ก็ลงไปเดินเล่นริมสระว่ายน้ำใหญ่ที่ให้บริการแขกเข้าพัก ท่ามกลางบรรยากาศทรอปิคัลมิลเดิลอีสต์ ต้นปาลม์นับร้อย ก่อนจะไปถึงหาดเทียมที่มองย้อนกลับมาเห็น Atlantis, The Palm อย่างเต็มตา เช่นเดียวกับเมืองศิวิไลซ์ของดูไบในฝั่งตรงข้าม … ฝันเป็นจริงแล้วค่ะ เช้านี้

กิจกรมมริมหาดมีให้แขกสนุกสนานมากมาย Watersport Fun บ้านหลังเล็กๆสีลูกกวาดเหล่านี้ เปิดให้เช่าทั้ง Surf คายัก สกีน้ำ วอลเลย์บอลริมหาดส่วนตัว รวมถึงขี่จักรยานน้ำด้วยค่ะ (เสียดายไม่ได้ลอง)

Aquaventure Waterpark สวนน้ำอันดับหนึ่งของดูไบ ที่เต็มไปด้วยสไลเดอร์หวาดเสียวกว่า 30 ตัว เป็นความบันเทิงหลักของคุณลุง ซึ่งแขกที่เข้าพักในโรงแรม เข้าสวนน้ำฟรี จะกี่ครั้งก็ได้ เราเลยมาเล่นกันสองวันติด คุณลุงลองเกือบหมดทุกชนิด ยกเว้นไฮไลท์ที่กลัวจะทำให้ลุงหัวใจวาย เช่น Aquaconda สไลเดอร์ใหญ่ที่สุดของโลก ยาวกว่า 9.2 เมตร และ The Leap of Faith สไลเดอร์สูงเท่ากับตึก 9 ชั้น ไหลผ่านอุโมงค์สัตว์ดุร้าย ดงฉลามใต้ท้องทะเล … แค่เป็นคนดู ฟังเสียงกรี้ดร้อง ก็น่ากลัวแล้วค่ะ (ถ้าเป็นลูกค้าทั่วไป ไม่ใช่แขกของโรงแรม ต้องเสียค่าตั๋วคนละประมาณ 289 aed หรือ 2,600 บาทต่อคน)

โซนของเด็กๆ และ lazy water แม่น้ำสายยาว ไหลเอื่อยรอบสวน ก็มีค่ะ ความปลอดภัยเลิศมาก มีบอดีการ์ดแทบทุกจุด หรือจะเป็นทะเลเทียมพร้อมคลื่นสังเคราะห์ก็มีหลายแห่ง ป้าเลือกนั่งรอคุณลุงตามเก้าอี้ริมหาดใต้ต้นปาลม์

The Lost Chambers Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใต้ท้องทะเล เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมคลายเหงาของ Atlantis, The Palm และของขวัญที่มอบให้กับแขกผู้เข้าพัก ก็คือเข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้ฟรี 1 ครั้ง/คน เดินแกว่งแขนชมสวนสัตว์ใต้น้ำกว่า 200 สายพันธ์ (ลูกค้าทั่วไปเสียค่าตั๋วคนละประมาณ 115 aed หรือ 1,035 บาท)

บทสรุปของ Atlantis, The Palm ฝันที่ต้องรอกว่าสิบปี เราชอบไอเดียและคอนเซ็ปต์ของโรงแรม การก่อสร้าง รวมถึงการดูแลรักษาทำได้ดีแม้จะเปิดมาหลายปีแล้ว ความรู้สึกเวลาที่เดินเล่น ชมรายละเอียดต่างๆ ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในดิสนีแลนด์ที่มีแต่รอยยิ้ม … เวลา 3 วัน 2 คืน ไม่เบื่อเลยค่ะ กิจกรรมชุกมาก 

ห้องพักดี ห้องอาหาร fine dining มีตัวเลือกเยอะ แต่ห้องอาหารราคาย่อมเยาว์มีน้อย ส่วนบุฟเฟ่ต์ก็คนเยอะมาก มีอึดอัดใจอยู่อย่างเดียว และก็เป็นเหตุผลที่ทำให้คิดหนักถ้าจะกลับมาอีกครั้ง นั่นก็คือความสงบ เวลาเรามาพักผ่อน ก็อยากจะอยู่อย่างผ่อนคลาย แต่ Atlantis, The Palm กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปแล้ว ทัวร์หลายกรุ๊ปแวะมาชมโถงของโรงแรม เข้าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ รวมถึงสวนน้ำอันดับหนึ่ง คนจีน คนอินเดียเดินกันขวักไขว่ บางช่วงเวลา ทางเดินค่อนข้างแน่นเอี๊ยด ทำให้ความสงบที่คิดไว้ตั้งแต่ต้นต้องมลายหายไป … ใครจะมา ลองชั่งใจดู แต่ถ้ามีเด็กๆ ครอบครัวใหญ่ น่าจะถูกใจหลานๆค่ะ

ที่ตั้ง Palm Jumeirah ดูไบ

การเดินทาง แท็กซี่ (ประมาณ 100 aed) หรือ Monorail ยาว 5.4 กิโลเมตร ที่เชื่อม Atlantis, The Plam เข้ากับ Dubai Metro

ราคาเฉลี่ยคืนละ 9,000 – 12,000 บาท

www.atlantis.com/dubai