A Noodle Story ✪✪✪ บะหมี่ลูกผสม รางวัล Bib Gourmand 2016-2018 – สิงคโปร์

ลืมภาพบะหมี่เกี้ยวหมูแดงสไตล์ชาวจีน และราเมงชามใหญ่ในแบบของญี่ปุ่นไปเลย เพราะนี่คือการ featuring ระหว่างบะหมี่จีนและราเมงญี่ปุ่นให้เป็นสไตล์ของตัวเอง และด้วยคุณภาพคับชามทำให้ A Noodle Story โด่งดังตั้งแต่เปิดร้าน ตามมาด้วยรางวัลเกียรติยศ Michelin Bib Gourmand ตั้งแต่ปี 2016 – 2018 ค่ะ

คราวนี้เป็นครั้งที่สองของฉันที่มากิน A Noodle Story ตั้งใจมาให้โอกาสอีกสักรอบ เปิดใจอีกสักครั้งกับบะหมี่เครื่องแน่นที่มีคิวยาวเหยียดทุกเที่ยงวัน

หนึ่งชามประกอบไปด้วย เส้นบะหมี่เด้งดึ้งดั๋ง หมูนุ่ม Cha-Su ละลายในปาก เกี้ยวทอด กุ้งพันบะหมี่ทอด ต้นหอมซอย ไข่ออนเซนครึ่งลูก และน้ำซุปร้อนๆ

เมนูของ A Noodle Story มีเพียง 1 เมนูเท่านั้นค่ะ นั่นก็คือบะหมี่ลูกผสม ไม่นับของทานเล่น 3-4 จาน บะหมี่มีให้เลือก 3 ไซส์ ชามเล็ก 8 Sgd ชามกลาง 11 Sgd และไซส์พิเศษ 15 Sgd ซึ่งบอกเลยว่าแค่ไซส์ S ก็อิ่มท้องแล้ว

บรรยากาศของร้านและคิวๆๆๆ

รางวัลสดุดีจาก Food Review ต่างๆ

บทสรุปรสชาติของบะหมี่ลูกผสม ยังไงๆก็ไม่ถูกปากป้าค่ะ มันเค็มๆ ไม่กลมกล่อมยังไงบอกไม่ถูก แต่ของเค้าดีจริงๆ นะคะ เครื่องงี้แน่นเชียว ทุกอย่างที่ประโคมใส่มาในชามคุณภาพทั้งนั้น ทั้งกุ้งกรอบและสด เกี้ยวชิ้นใหญ่อร่อย หมูก็นุ่ม แต่พอมารวมกันแล้ว ฉันรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเข้ากัน หรือเราจะยึดติดกับภาพจำของบะหมี่จีน และราเมงญี่ปุ่นจนเกินไปทำให้ลูกผสมรสชาติแปลกจนลิ้นงง แต่ … เพราะคิวที่ยาวและเสียงชื่นชมไม่ขาดสาย เราก็ไม่ควรเอาความคิดของเราเป็นใหญ่ ดังนั้นใครมาสิงคโปร์และมาเที่ยวแถวๆ Tanjong Pagar ลองมาชิมและตัดสินดูนะคะ คุณอาจจะปลื้มใจ ถูกจริตก็ได้ค่ะ

 

A Noodle Story ถือเป็นต้นแบบของ Hawker รุ่นใหม่ของสองหนุ่ม ผู้เคยทำงานในร้านอาหารดังของสิงคโปร์ และออกมาเปิดร้านบะหมี่ของตัวเอง ตกแต่งหน้าร้าน และนำเสนออาหารที่ต่างจากอาหารที่ขายในศูนย์ ถือเป็นคลื่นลูกใหม่ของวงการ Hawker สิงคโปร์ค่ะ

 

ที่ตั้ง #01-39 Amoy Street Food Centre 7 Maxwell Road Stall, Singapore 069111

เปิด ปิด จันทร์ –  ศุกร์ มื้อเที่ยง 11.30 – 14.00 น. มื้อเย็น 17.30 – 19.00 น. เสาร์ 10.30 – 13.30 น. ปิดวันอาทิตย์ และวันหยุดราชการ

เวลารอคิวประมาณ 20 – 30 นาทีในช่วงเวลากลางวัน

ราคาเฉลี่ยคนละ 8 – 10 เหรียญ