นอกจากสถาปัตยกรรมและกลิ่นอายของอาหารที่ฝรั่งเศสทิ้งร่องรอยไว้ใน “ไซง่อน” แล้ว วิถีการใช้ชีวิตแบบ “La vie en rose” หรือการใช้ชีวิตอย่างสุขนิยม ก็เป็นอีกหลักฐานการมาเยือนของฝรั่งเศสในเมืองเก่าแห่งนี้ค่ะ…
Fast Fact
ไซง่อน หรือโฮจิมินห์ซิตี้ เป็นศูนย์กลางธุรกิจที่ขับเคลื่อนประเทศเวียดนาม โดยมีฮานอยแห่งเวียดนามเหนือเป็น เมืองหลวงของประเทศ และศูนย์กลางของวัฒนธรรม
ไซง่อนมีพลเมืองประมาณ 11 ล้านคน เป็นชาวเวียดนามเสียส่วนใหญ่ และมีชาวจีนเพียง 20% ค่ะ
ภาษาเวียดนาม เป็นภาษาประจำชาติ และทั้งเมืองมีมอเตอร์ไซด์มากกว่า 6 ล้านคัน หรือตกครัวเรือนละ 2 คันเป็นอย่างน้อย …
เขตการปกครองทั้งหมดแบ่งเป็น 19 เขต โดยมีเขตสำคัญ คือ เขตที่หนึ่ง (District 1) เป็นหัวใจของเมือง ซึ่งรู้จักกันในนามไซง่อน … ที่ต่อมาถูกเรียกเป็นชื่อของเมืองทั้งหมด ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นโฮจิมินห์ซิตี้ หลังสงครามเวียดนาม
City Hall
ณ ปลายถนนเส้นสำคัญนี้ เป็นที่ตั้งของสำนักงานคณะรัฐบาล (People’s Committee) อาคารขนาดสีเหลืองครีมที่งามตา ดังจะประกาศศักดาให้กับผู้มาเยือนได้รับรู้
เดิมทีอาคารนี้เป็นโรงแรมหรูที่ถอดแบบสถาปัตยกรรมมาจาก Hotel de Ville’s ที่งดงามของปารีสค่ะ หากปัจจุบันเปลี่ยนหน้าที่มาเป็นสำนักงานของรัฐบาลหลังจากการยึดครองของกลุ่มเวียดนามเหนือ
ด้านหน้าอาคารนี้ มีสวนสาธรณะขนาดเล็ก พร้อมลานกว้างและรูปปั้นรัฐบุรุษของเวียดนาม “ลุงโฮจิมินห์” ในอิริยาบทที่อ่อนโยนต่อเด็กน้อย
ยามค่ำคืนที่แสงไฟสีเหลืองทองสาดส่องหยักมุมของตัวตึก ลมเย็นๆโชยมากระทบหน้า ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่ง จะแวะเวียนมาเดินเล่น และนั่งชมบรรยากาศเย็นใจของสถานที่แห่งนี้ค่ะ
ที่ตั้ง ปลายถนน Nguyen Hue
The Opera House
ใจกลางจตุรัสใหญ่ หัวใจของไซง่อน The Opera House โรงละครชื่อดัง ตั้งตระหง่านอยู่อย่างไม่เกรงกลัวใคร โรงละครแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยฝีมือของสถานปนิกชาวฝรั่งเศสในปี 1897 ปัจจุบันมีการแสดงน่าชมผลัดเปลี่ยนกันมาจัดแสดง …. และจนถึงปลายปีนี้ เป็นรอบการแสดงของ AO Show การแสดงพื้นบ้านที่ผสานกับกายกรรมอันน่าตื่นเต้น และน่าชมเป็นที่สุดค่ะ
ที่ตั้ง 7 Lam Son Square
AO Show
AO Show หรือ “อ้า โอว์ โชว์” การแสดงรูปแบบใหม่ของเวียดนาม ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โชว์นี้ผสมผสานดนตรีพื้นบ้าน เข้ากับการแสดงกายกรรมโดยใช้ท่อนไม้ไผ่เป็นตัวเอก นักแสดงหนุ่มสาววาดลวดลายได้สวิงสวายทว่าสง่างาม หลากฉาก หลายตอนน่าตื่นเต้นและลุ้นระทึก จนหลายคนขนานนามว่าเป็น Cirque du Soleil of the East เลยเชียวค่ะ
Tips: แอร์ในโรงละครค่อนข้างเย็น จึงควรติดผ้าคลุมหรือสเวตเตอร์ตัวบางไปด้วย ระยะเวลาการแสดงอยู่ที่ 1.10 ชั่วโมง ไม่มีช่วงเบรค จึงควรเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนเข้าชม
โชว์นี้มีกำหนดแสดงถึงสิ้นปี 2014 เท่านั้น และ ยังไม่มีข่าวว่าจะต่อเวลาแต่อย่างไร หากสนใจเข้าชม แนะนำให้จองตั๋วผ่านระบบออนไลน์ แต่ต้องมาชำระเงินที่หน้างานก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันเป็นอย่างน้อยค่ะ
ที่ตั้ง 7 Lam Son Square
ราคาตั๋ว มีให้เลือก 3 ระดับราคา Wow ราคา 1,390.000 ดอง Ooh 1,050,000 ดอง และ Aah 630,000 ดอง
www.aoshowsaigon.com
Notre Dame Cathedral
โบสถ์แคทอลิกขนาดใหญ่ที่สุดของไซง่อนแห่งนี้ สร้างขึ้นในปี 1877 วัสดุทุกชิ้นนำเข้าจากฝรั่งเศสเพื่อให้ได้มาตราฐาน ที่ดีเลิศ
ด้านหน้ามีหอระฆังคู่สูง 58 เมตร อิฐสีแดงที่ใช้ก่อสร้างโบสถ์ เสริมความภูมิฐานจนกลายเป็นหนึ่งในท็อปลิตส์ของคู่รักชาวเวียดนาม ที่มักแวะเวียนกันมาถ่ายรูปงานแต่งงานกันเกือบทั้งวันค่ะ
ที่ตั้ง Cong Xa Paris
เปิด ปิด 5.30-17.00 น. ทุกวัน
Saigon Central Post Office
มาถึงไซง่อน แต่เราก็ยังได้ชมฝีมือการออกแบบของนายกุสตาฟ์ ไอเฟิลนะคะ ตึกไปรษณีย์กลางแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว นายกุสตาฟ์ได้แรงบันดาลใจการออกแบบมาจากชุมทางสถานีรถไฟของยุโรป และนั้น จึงทำให้ด้านหน้าของตึกมีนาฬิกาเรือนใหญ่คอยบอกเวลา เช่นเดียวกับภายในที่เป็นหลังคาโค้งสูง มีโครงเหล็กสีขาวซ้อนเรียงต่อกัน ดูแล้วเหมือนสถานีรถไฟจริงๆค่ะ
Tips: ภายในอาคารมีรูปภาพขนาดใหญ่ของโฮจิมินห์ ที่กำลังกวาดสายตาดูความเรียบร้อยของที่นี่ อารมณ์ดังรูปท่านประธานเหมาแห่งจตุรัสเทียนอันเหมินเลยค่ะ
ที่ตั้ง 2 Cong Xa Paris
เปิด ปิด 7.00-19.00 น. วันธรรมดา และ 7.00-18.00 น. วันหยุด
Reunification Palace
บ้านพักของประธานาธิบดีแห่งเวียดนามใต้นี้ คงไม่เปิดให้เข้าชม หากสงครามเวียดนามในครั้งนั้น ชัยชนะตก เป็นของฝ่ายเวียดนามใต้ … ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 เมษายน ปี 1975 ณ เวลา 10.00 น. ประธานาธิบดี คนสุดท้ายของเวียดนามใต้ ยืนรอกลุ่มทหารเวียดนามเหนืออย่างสงบ การยอมจำนวนในวันนั้น ถือเป็นการปิดฉากสงครามกลางเมืองที่เนิ่นนาน เช่นเดียวกับบ้านพักหลังนี้ ที่ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Reunification Palace และ เปิดให้เป็นพิพิธภัณฑ์ให้ผู้คนทั่วไปได้เข้าชมห้องหับ และข้าวของเครื่องใช้ของรัฐบาลเวียดนามใต้ค่ะ
ที่ตั้ง 135 Nam Ky Khoi Nghia
เปิด ปิด 7.30-11.00 น. และ 13.00-16.00 น. ทุกวัน
ค่าตั๋ว คนละ 30,000 ดอง
War Remnants Museum
แม้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะขาดเทคนิคล้ำสมัยในการบอกเล่าเรื่องราว อีกทั้งยังเป็นข้อมูลแต่เพียงด้านเดียวของเวียดนามเหนือ แต่ War Remnants Museum กลับสะกดเราให้ตกอยู่ในภวังค์ได้อย่างชงัดนัก
เครื่องบินรบ และรถถังของจริงที่จัดเรียงบนลานด้านหน้า ภาพถ่ายความโหดร้ายของสงคราม ภาพนักข่าวหลายสิบคน ที่ต้องสาบสูญหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ภาพถ่ายห้องคุมขังนักโทษที่ทารุณและโหดร้าย ไปจนถึงภาพสดใสของเด็กหญิงผมบลอนด์ตาสีฟ้า แต่ไร้แขนและขา บีบคั้นอารมณ์อย่างที่ไม่ต้องมีเทคนิคใดมาเสริมแต่ง
ยอมรับค่ะ ว่าใจไม่แข็งพอ … ดูไปได้เพียงครึ่งทาง ก็ต้องขอตัวแยกออกมานั่งรับลมอยู่ภายนอก ปล่อยให้คุณสามี เดินชมไปจนครบ พร้อมกับคำสารภาพว่า “ดูแล้วช่างหดหู่เหลือเกิน …”
ที่ตั้ง 28 Vo Van Tan
เปิด ปิด 7.30-12.00 น. และ 13.30-17.00 น. จันทร์-ศุกร์
ค่าตั๋ว 15,000 ดอง
Tao Dan Park
Credit: Internet
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางไซง่อนนี้ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเวียดนาม ทุกเช้าจะมีชาวเวียนนาม แวะเวียนมาออกกำลังกายรับแสงแดดอ่อนและโอโซนให้ปอดอยู่เนื่องๆ เช่นเดียวกับตอนบ่ายและหัวค่ำ ที่เป็นเวลาของครอบครัว และคู่หนุ่มสาว ต่างมาตั้งวงพูดคุย หรือเกี้ยวพาราสีกัน … เป็นวัฒนธรรมแบบสุขนิยมที่ดูเพลินตา และพบเห็นทั่วไปตามสวนสาธรณะในไซง่อนค่ะ
ที่ตั้ง Truong Dinh ข้างๆ Reunification Palace
เปิด ปิด 24 ชั่วโมง
Ben Thanh Market
ตลาดสำคัญของเมืองแห่งนี้ เปรียบได้กับช้อปปิ้งมอลล์ของนักท่องเที่ยว สินค้าที่วางขายแบ่งออกเป็นโซนๆ เริ่มจากโซนเสื้อผ้า ต่อไปยังกระเป๋า รองเท้า นาฬิกาก็อปปี้แบรนด์ดัง อาหารสด ผัก ผลไม้ ซุ้มอาหาร ไปจนถึง ร้านดอกไม้ที่ตั้งอยู่ด้านหลังค่ะ
ถึงแม้แม่ค้าในตลาดจะรุกเร้าไปบ้าง แต่ก็ไม่อาการหนักเท่ากับประเทศจีน ราคาสินค้าที่นี่ ต่อรองได้สัก 30-50% เราแวะซื้อเสื้อยืดลายธงชาติ ดาวเหลืองบนพื้นแดง ในราคา 120,000 ดอง จาก 180,000 ดอง ถือเป็น One Stop Shopping ที่สำคัญของไซง่อนเลยเชียวค่ะ
ที่ตั้ง วงเวียนใหญ่ปลายถนน Le Loi
เปิด ปิด 5.30-18.00 น. ทุกวัน
Dong Khoi
ถนนเส้นนี้อุทิศให้กับการช็อปปิ้งมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ยิ่งเวียดนามเจริญมากขึ้นเท่าไหร่ แบรนด์ที่เปิด ร้านขายก็หรูหราตามมากขึ้นไปเท่านั้น นอกจากศูนย์การค้าใหญ่ Vincom Center และ Parkson Department Store แล้ว ดีไซนเนอร์แบรนด์ที่มีบูติกบนถนนเส้นนี้ยังรวมไปถึง Louis Vuitton, Rimowa และ Christian Louboutin อีกด้วยค่ะ ส่วนแบนรด์ระดับกลางก็มีมากมาย ทั้ง Banana Republic, Mango และ Aldo เช่นเดียวกับร้านขายของที่ระลึก จำพวก รูปภาพ งานปัก และร้านอาหารอร่อย คาเฟ่เก๋ จึงถือเป็นถนนช็อปปิ้งที่ทันสมัยและครบวงจร ที่สุดของเมืองค่ะ
Tips: หลายร้านมีบริการคืนภาษี 10% สอบถามกับทางร้านก่อนซื้อสินค้านะคะ
ที่ตั้ง Dong Khoi
เปิด ปิด 9.00-22.00 น.
Jade Emperor Pagoda
วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1909 โดยชาวจีนในเวียดนาม เพื่อบูชาท่านเง็กเซียนฮ่องเต้ หรือราชาแห่งสวรรค์ (Jade Emperor) ภายในอุโบสถ์ มีองค์เทพเจ้ามากมาย ทั้งในสวรรค์ และในนรก ที่น่าสนใจคือ ทุกองค์ล้วนประดิษฐ์ ขึ้นจากกระดาษ หรือ Paper Mache ยกเว้นท่านเง็กเซียนฮ่องเต้องค์เดียวที่สร้างจากสัมฤิทธิ์ค่ะ
ถึงแม้วัดนี้จะขาดการทำนุบำรุงไปบ้าง แต่ก็เป็นวัดที่น่าชม จำนวนเต่ามากมายในบ่อด้านหน้าของวัด เชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีให้กับเราอีกด้วย
ที่ตั้ง 73 Mai Thi Luu
เปิด ปิด 8.00-17.00 น. ทุกวัน
Bitexco Financial Tower
Credit: Internet
ตึกสูงที่สุดของไซง่อนนี้ ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นใจกลางเขตหนึ่ง สร้างเสร็จในปี 2010 และมีความสูง 262.50 เมตร สถาปิกตั้งใจออกแบบให้คล้ายกลีบดอกบัว ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติของเวียดนาม หากหลายคนติงว่า คล้ายที่ใส่แผ่นซีดีเสียมากกว่า ….
ณ ชั้นที่ 49 เป็นจุดชมวิวเมืองของไซง่อน หรือ Saigon Skydeck โดยมีบาร์ดังเปิดให้บริการ ที่ชั้น 50 และ 51 ค่ะ
ที่ตั้ง 45 Ngo Duc Ke
Cu Chi Tunnels
สนามรบแห่งชัยชนะ และความพ่ายแพ้แห่งนี้ ตั้งอยู่ห่างจากไซง่อนประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1.30 ชั่วโมงจากตัวเมืองไซง่อนค่ะ
วิดีโอบอกเล่าเรื่องราวของสงครามเวียดนาม ถูกเปิดให้ชมเป็นด่านแรก เพื่อบิวด์อารมณ์ และปรับความเข้าใจ ที่มีต่อสงครามเวียดนาม จากมุมมองของชาวเวียดนามเหนือ
ตัวละครสำคัญที่วิดีโอกล่าวถึง เป็น Cu Chi Heroes หรือ วีรบุรุษชายหญิง ผู้กล้าที่บดขยี้รถถังของอเมริกา และสังหารทหารของฝ่ายศัตรูได้
นอกจากหลุมหลบภัย ที่เปิดให้เราลองหย่อนตัวลงไปได้นั้น ที่นี่ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีก เช่น สนามยิงปืนไรเฟิล การเดินลอดอุโมงค์ลับที่ชั้นใต้ดินระยะทาง 10 เมตร และการสาธิตวิธีทำแป้งห่อปอเปี้ย อาหารประจำชาติของเวียดนามค่ะ
สิ่งหนึ่งที่ฝังใจจวบจนทุกวันนี้ เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้าน ที่คิดค้นกลลวง และกับดับให้ทหารอเมริกัน และศัตรูตกลงไป … ด้วยความเกลียดชังและเคียดแค้นแบบสุดขั้ว กับดักจึงมีหลากหลายรูปแบบ แต่ล้วนให้ผลลัพธ์แบบเดียวกันคือการตายอย่างช้าๆ ทรมานให้ถึงที่สุด
บทเรียนของสงครามเวียดนามนี้ เจ็บปวดยิ่งนัก เราเชื่อว่าไม่มีทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ที่แท้จริง มีแต่ผู้สูญเสียทั้งสองฝ่าย
ในขณะที่เดินชมอยู่นั้น เราแอบหวังอยู่ลึกๆว่า เหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนที่สำคัญให้กับอีกหลายๆชาติ ที่มีความขัดแย้งทางความคิด เปลี่ยนใจหันหน้ากลับมาพูดคุยกัน ก่อนที่จะนำไปสู่ความสูญเสีย อย่างที่ไม่เคยนึกฝันกันมาก่อน
ที่ตั้ง Ap Phu Hiep, Phu My Hung Ward
บริษัททัวร์ Ann’s Tour ราคาสองคน 180 เหรียญ รวมค่าเดินทาง คนขับ ไกด์ และทัวร์เช้าที่ Cu Chi ทัวร์บ่ายที่ ไซง่อนค่ะ
22 Jun 2014
0 Comments
What to see in Saigon?
นอกจากสถาปัตยกรรมและกลิ่นอายของอาหารที่ฝรั่งเศสทิ้งร่องรอยไว้ใน “ไซง่อน” แล้ว วิถีการใช้ชีวิตแบบ “La vie en rose” หรือการใช้ชีวิตอย่างสุขนิยม ก็เป็นอีกหลักฐานการมาเยือนของฝรั่งเศสในเมืองเก่าแห่งนี้ค่ะ…
Fast Fact
ไซง่อน หรือโฮจิมินห์ซิตี้ เป็นศูนย์กลางธุรกิจที่ขับเคลื่อนประเทศเวียดนาม โดยมีฮานอยแห่งเวียดนามเหนือเป็น เมืองหลวงของประเทศ และศูนย์กลางของวัฒนธรรม
ไซง่อนมีพลเมืองประมาณ 11 ล้านคน เป็นชาวเวียดนามเสียส่วนใหญ่ และมีชาวจีนเพียง 20% ค่ะ
ภาษาเวียดนาม เป็นภาษาประจำชาติ และทั้งเมืองมีมอเตอร์ไซด์มากกว่า 6 ล้านคัน หรือตกครัวเรือนละ 2 คันเป็นอย่างน้อย …
เขตการปกครองทั้งหมดแบ่งเป็น 19 เขต โดยมีเขตสำคัญ คือ เขตที่หนึ่ง (District 1) เป็นหัวใจของเมือง ซึ่งรู้จักกันในนามไซง่อน … ที่ต่อมาถูกเรียกเป็นชื่อของเมืองทั้งหมด ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นโฮจิมินห์ซิตี้ หลังสงครามเวียดนาม
City Hall
ณ ปลายถนนเส้นสำคัญนี้ เป็นที่ตั้งของสำนักงานคณะรัฐบาล (People’s Committee) อาคารขนาดสีเหลืองครีมที่งามตา ดังจะประกาศศักดาให้กับผู้มาเยือนได้รับรู้
เดิมทีอาคารนี้เป็นโรงแรมหรูที่ถอดแบบสถาปัตยกรรมมาจาก Hotel de Ville’s ที่งดงามของปารีสค่ะ หากปัจจุบันเปลี่ยนหน้าที่มาเป็นสำนักงานของรัฐบาลหลังจากการยึดครองของกลุ่มเวียดนามเหนือ
ด้านหน้าอาคารนี้ มีสวนสาธรณะขนาดเล็ก พร้อมลานกว้างและรูปปั้นรัฐบุรุษของเวียดนาม “ลุงโฮจิมินห์” ในอิริยาบทที่อ่อนโยนต่อเด็กน้อย
ยามค่ำคืนที่แสงไฟสีเหลืองทองสาดส่องหยักมุมของตัวตึก ลมเย็นๆโชยมากระทบหน้า ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่ง จะแวะเวียนมาเดินเล่น และนั่งชมบรรยากาศเย็นใจของสถานที่แห่งนี้ค่ะ
ที่ตั้ง ปลายถนน Nguyen Hue
The Opera House
ใจกลางจตุรัสใหญ่ หัวใจของไซง่อน The Opera House โรงละครชื่อดัง ตั้งตระหง่านอยู่อย่างไม่เกรงกลัวใคร โรงละครแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยฝีมือของสถานปนิกชาวฝรั่งเศสในปี 1897 ปัจจุบันมีการแสดงน่าชมผลัดเปลี่ยนกันมาจัดแสดง …. และจนถึงปลายปีนี้ เป็นรอบการแสดงของ AO Show การแสดงพื้นบ้านที่ผสานกับกายกรรมอันน่าตื่นเต้น และน่าชมเป็นที่สุดค่ะ
ที่ตั้ง 7 Lam Son Square
AO Show
AO Show หรือ “อ้า โอว์ โชว์” การแสดงรูปแบบใหม่ของเวียดนาม ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โชว์นี้ผสมผสานดนตรีพื้นบ้าน เข้ากับการแสดงกายกรรมโดยใช้ท่อนไม้ไผ่เป็นตัวเอก นักแสดงหนุ่มสาววาดลวดลายได้สวิงสวายทว่าสง่างาม หลากฉาก หลายตอนน่าตื่นเต้นและลุ้นระทึก จนหลายคนขนานนามว่าเป็น Cirque du Soleil of the East เลยเชียวค่ะ
Tips: แอร์ในโรงละครค่อนข้างเย็น จึงควรติดผ้าคลุมหรือสเวตเตอร์ตัวบางไปด้วย ระยะเวลาการแสดงอยู่ที่ 1.10 ชั่วโมง ไม่มีช่วงเบรค จึงควรเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนเข้าชม
โชว์นี้มีกำหนดแสดงถึงสิ้นปี 2014 เท่านั้น และ ยังไม่มีข่าวว่าจะต่อเวลาแต่อย่างไร หากสนใจเข้าชม แนะนำให้จองตั๋วผ่านระบบออนไลน์ แต่ต้องมาชำระเงินที่หน้างานก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันเป็นอย่างน้อยค่ะ
ที่ตั้ง 7 Lam Son Square
ราคาตั๋ว มีให้เลือก 3 ระดับราคา Wow ราคา 1,390.000 ดอง Ooh 1,050,000 ดอง และ Aah 630,000 ดอง
www.aoshowsaigon.com
Notre Dame Cathedral
โบสถ์แคทอลิกขนาดใหญ่ที่สุดของไซง่อนแห่งนี้ สร้างขึ้นในปี 1877 วัสดุทุกชิ้นนำเข้าจากฝรั่งเศสเพื่อให้ได้มาตราฐาน ที่ดีเลิศ
ด้านหน้ามีหอระฆังคู่สูง 58 เมตร อิฐสีแดงที่ใช้ก่อสร้างโบสถ์ เสริมความภูมิฐานจนกลายเป็นหนึ่งในท็อปลิตส์ของคู่รักชาวเวียดนาม ที่มักแวะเวียนกันมาถ่ายรูปงานแต่งงานกันเกือบทั้งวันค่ะ
ที่ตั้ง Cong Xa Paris
เปิด ปิด 5.30-17.00 น. ทุกวัน
Saigon Central Post Office
มาถึงไซง่อน แต่เราก็ยังได้ชมฝีมือการออกแบบของนายกุสตาฟ์ ไอเฟิลนะคะ ตึกไปรษณีย์กลางแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว นายกุสตาฟ์ได้แรงบันดาลใจการออกแบบมาจากชุมทางสถานีรถไฟของยุโรป และนั้น จึงทำให้ด้านหน้าของตึกมีนาฬิกาเรือนใหญ่คอยบอกเวลา เช่นเดียวกับภายในที่เป็นหลังคาโค้งสูง มีโครงเหล็กสีขาวซ้อนเรียงต่อกัน ดูแล้วเหมือนสถานีรถไฟจริงๆค่ะ
Tips: ภายในอาคารมีรูปภาพขนาดใหญ่ของโฮจิมินห์ ที่กำลังกวาดสายตาดูความเรียบร้อยของที่นี่ อารมณ์ดังรูปท่านประธานเหมาแห่งจตุรัสเทียนอันเหมินเลยค่ะ
ที่ตั้ง 2 Cong Xa Paris
เปิด ปิด 7.00-19.00 น. วันธรรมดา และ 7.00-18.00 น. วันหยุด
Reunification Palace
บ้านพักของประธานาธิบดีแห่งเวียดนามใต้นี้ คงไม่เปิดให้เข้าชม หากสงครามเวียดนามในครั้งนั้น ชัยชนะตก เป็นของฝ่ายเวียดนามใต้ … ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 เมษายน ปี 1975 ณ เวลา 10.00 น. ประธานาธิบดี คนสุดท้ายของเวียดนามใต้ ยืนรอกลุ่มทหารเวียดนามเหนืออย่างสงบ การยอมจำนวนในวันนั้น ถือเป็นการปิดฉากสงครามกลางเมืองที่เนิ่นนาน เช่นเดียวกับบ้านพักหลังนี้ ที่ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Reunification Palace และ เปิดให้เป็นพิพิธภัณฑ์ให้ผู้คนทั่วไปได้เข้าชมห้องหับ และข้าวของเครื่องใช้ของรัฐบาลเวียดนามใต้ค่ะ
ที่ตั้ง 135 Nam Ky Khoi Nghia
เปิด ปิด 7.30-11.00 น. และ 13.00-16.00 น. ทุกวัน
ค่าตั๋ว คนละ 30,000 ดอง
War Remnants Museum
แม้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะขาดเทคนิคล้ำสมัยในการบอกเล่าเรื่องราว อีกทั้งยังเป็นข้อมูลแต่เพียงด้านเดียวของเวียดนามเหนือ แต่ War Remnants Museum กลับสะกดเราให้ตกอยู่ในภวังค์ได้อย่างชงัดนัก
เครื่องบินรบ และรถถังของจริงที่จัดเรียงบนลานด้านหน้า ภาพถ่ายความโหดร้ายของสงคราม ภาพนักข่าวหลายสิบคน ที่ต้องสาบสูญหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ภาพถ่ายห้องคุมขังนักโทษที่ทารุณและโหดร้าย ไปจนถึงภาพสดใสของเด็กหญิงผมบลอนด์ตาสีฟ้า แต่ไร้แขนและขา บีบคั้นอารมณ์อย่างที่ไม่ต้องมีเทคนิคใดมาเสริมแต่ง
ยอมรับค่ะ ว่าใจไม่แข็งพอ … ดูไปได้เพียงครึ่งทาง ก็ต้องขอตัวแยกออกมานั่งรับลมอยู่ภายนอก ปล่อยให้คุณสามี เดินชมไปจนครบ พร้อมกับคำสารภาพว่า “ดูแล้วช่างหดหู่เหลือเกิน …”
ที่ตั้ง 28 Vo Van Tan
เปิด ปิด 7.30-12.00 น. และ 13.30-17.00 น. จันทร์-ศุกร์
ค่าตั๋ว 15,000 ดอง
Tao Dan Park
Credit: Internet
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางไซง่อนนี้ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเวียดนาม ทุกเช้าจะมีชาวเวียนนาม แวะเวียนมาออกกำลังกายรับแสงแดดอ่อนและโอโซนให้ปอดอยู่เนื่องๆ เช่นเดียวกับตอนบ่ายและหัวค่ำ ที่เป็นเวลาของครอบครัว และคู่หนุ่มสาว ต่างมาตั้งวงพูดคุย หรือเกี้ยวพาราสีกัน … เป็นวัฒนธรรมแบบสุขนิยมที่ดูเพลินตา และพบเห็นทั่วไปตามสวนสาธรณะในไซง่อนค่ะ
ที่ตั้ง Truong Dinh ข้างๆ Reunification Palace
เปิด ปิด 24 ชั่วโมง
Ben Thanh Market
ตลาดสำคัญของเมืองแห่งนี้ เปรียบได้กับช้อปปิ้งมอลล์ของนักท่องเที่ยว สินค้าที่วางขายแบ่งออกเป็นโซนๆ เริ่มจากโซนเสื้อผ้า ต่อไปยังกระเป๋า รองเท้า นาฬิกาก็อปปี้แบรนด์ดัง อาหารสด ผัก ผลไม้ ซุ้มอาหาร ไปจนถึง ร้านดอกไม้ที่ตั้งอยู่ด้านหลังค่ะ
ถึงแม้แม่ค้าในตลาดจะรุกเร้าไปบ้าง แต่ก็ไม่อาการหนักเท่ากับประเทศจีน ราคาสินค้าที่นี่ ต่อรองได้สัก 30-50% เราแวะซื้อเสื้อยืดลายธงชาติ ดาวเหลืองบนพื้นแดง ในราคา 120,000 ดอง จาก 180,000 ดอง ถือเป็น One Stop Shopping ที่สำคัญของไซง่อนเลยเชียวค่ะ
ที่ตั้ง วงเวียนใหญ่ปลายถนน Le Loi
เปิด ปิด 5.30-18.00 น. ทุกวัน
Dong Khoi
ถนนเส้นนี้อุทิศให้กับการช็อปปิ้งมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ยิ่งเวียดนามเจริญมากขึ้นเท่าไหร่ แบรนด์ที่เปิด ร้านขายก็หรูหราตามมากขึ้นไปเท่านั้น นอกจากศูนย์การค้าใหญ่ Vincom Center และ Parkson Department Store แล้ว ดีไซนเนอร์แบรนด์ที่มีบูติกบนถนนเส้นนี้ยังรวมไปถึง Louis Vuitton, Rimowa และ Christian Louboutin อีกด้วยค่ะ ส่วนแบนรด์ระดับกลางก็มีมากมาย ทั้ง Banana Republic, Mango และ Aldo เช่นเดียวกับร้านขายของที่ระลึก จำพวก รูปภาพ งานปัก และร้านอาหารอร่อย คาเฟ่เก๋ จึงถือเป็นถนนช็อปปิ้งที่ทันสมัยและครบวงจร ที่สุดของเมืองค่ะ
Tips: หลายร้านมีบริการคืนภาษี 10% สอบถามกับทางร้านก่อนซื้อสินค้านะคะ
ที่ตั้ง Dong Khoi
เปิด ปิด 9.00-22.00 น.
Jade Emperor Pagoda
วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1909 โดยชาวจีนในเวียดนาม เพื่อบูชาท่านเง็กเซียนฮ่องเต้ หรือราชาแห่งสวรรค์ (Jade Emperor) ภายในอุโบสถ์ มีองค์เทพเจ้ามากมาย ทั้งในสวรรค์ และในนรก ที่น่าสนใจคือ ทุกองค์ล้วนประดิษฐ์ ขึ้นจากกระดาษ หรือ Paper Mache ยกเว้นท่านเง็กเซียนฮ่องเต้องค์เดียวที่สร้างจากสัมฤิทธิ์ค่ะ
ถึงแม้วัดนี้จะขาดการทำนุบำรุงไปบ้าง แต่ก็เป็นวัดที่น่าชม จำนวนเต่ามากมายในบ่อด้านหน้าของวัด เชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีให้กับเราอีกด้วย
ที่ตั้ง 73 Mai Thi Luu
เปิด ปิด 8.00-17.00 น. ทุกวัน
Bitexco Financial Tower
Credit: Internet
ตึกสูงที่สุดของไซง่อนนี้ ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นใจกลางเขตหนึ่ง สร้างเสร็จในปี 2010 และมีความสูง 262.50 เมตร สถาปิกตั้งใจออกแบบให้คล้ายกลีบดอกบัว ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติของเวียดนาม หากหลายคนติงว่า คล้ายที่ใส่แผ่นซีดีเสียมากกว่า ….
ณ ชั้นที่ 49 เป็นจุดชมวิวเมืองของไซง่อน หรือ Saigon Skydeck โดยมีบาร์ดังเปิดให้บริการ ที่ชั้น 50 และ 51 ค่ะ
ที่ตั้ง 45 Ngo Duc Ke
Cu Chi Tunnels
สนามรบแห่งชัยชนะ และความพ่ายแพ้แห่งนี้ ตั้งอยู่ห่างจากไซง่อนประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1.30 ชั่วโมงจากตัวเมืองไซง่อนค่ะ
วิดีโอบอกเล่าเรื่องราวของสงครามเวียดนาม ถูกเปิดให้ชมเป็นด่านแรก เพื่อบิวด์อารมณ์ และปรับความเข้าใจ ที่มีต่อสงครามเวียดนาม จากมุมมองของชาวเวียดนามเหนือ
ตัวละครสำคัญที่วิดีโอกล่าวถึง เป็น Cu Chi Heroes หรือ วีรบุรุษชายหญิง ผู้กล้าที่บดขยี้รถถังของอเมริกา และสังหารทหารของฝ่ายศัตรูได้
นอกจากหลุมหลบภัย ที่เปิดให้เราลองหย่อนตัวลงไปได้นั้น ที่นี่ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีก เช่น สนามยิงปืนไรเฟิล การเดินลอดอุโมงค์ลับที่ชั้นใต้ดินระยะทาง 10 เมตร และการสาธิตวิธีทำแป้งห่อปอเปี้ย อาหารประจำชาติของเวียดนามค่ะ
สิ่งหนึ่งที่ฝังใจจวบจนทุกวันนี้ เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้าน ที่คิดค้นกลลวง และกับดับให้ทหารอเมริกัน และศัตรูตกลงไป … ด้วยความเกลียดชังและเคียดแค้นแบบสุดขั้ว กับดักจึงมีหลากหลายรูปแบบ แต่ล้วนให้ผลลัพธ์แบบเดียวกันคือการตายอย่างช้าๆ ทรมานให้ถึงที่สุด
บทเรียนของสงครามเวียดนามนี้ เจ็บปวดยิ่งนัก เราเชื่อว่าไม่มีทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ที่แท้จริง มีแต่ผู้สูญเสียทั้งสองฝ่าย
ในขณะที่เดินชมอยู่นั้น เราแอบหวังอยู่ลึกๆว่า เหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนที่สำคัญให้กับอีกหลายๆชาติ ที่มีความขัดแย้งทางความคิด เปลี่ยนใจหันหน้ากลับมาพูดคุยกัน ก่อนที่จะนำไปสู่ความสูญเสีย อย่างที่ไม่เคยนึกฝันกันมาก่อน
ที่ตั้ง Ap Phu Hiep, Phu My Hung Ward
บริษัททัวร์ Ann’s Tour ราคาสองคน 180 เหรียญ รวมค่าเดินทาง คนขับ ไกด์ และทัวร์เช้าที่ Cu Chi ทัวร์บ่ายที่ ไซง่อนค่ะ
Related Posts: